7 พฤติกรรมทั่วๆไปของคุณที่ดูทำให้คนรอบตัวรู้สึกไม่ดี
บางครั้งวิธีที่เราปฎิบัติหรือสิ่งที่เราพูดสามารถส่งผลในทางลบต่อคนอื่นได้ อาจเป็นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้คุณไม่ภาคภูมิใจ หรือในทางกลับกันอาจเป็นสิ่งที่คุณเห็นว่าดีและต้องการให้ผู้อื่นมองคุณในแบบนั้น
พวกเรารู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องตระหนักในเรื่องการปฏิบัติตน ไม่ให้แสดงออกในทางข่มผู้อื่น และในตอนท้ายของบทความนี้ พวกเราจะบอกคุณว่าวิธีเปลี่ยนแปลงใดที่คุณสามารถทำได้เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนและเพื่อนร่วมงานของคุณ
1. คุณกับเขาตรงจนเกินไป
ความซื่อสัตย์ต่อผู้อื่นเป็นคุณสมบัติที่ดี คุณพยายามที่จะซื่อสัตย์และบอกความรู้สึกของคุณตรงๆกับผู้อื่น แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงที่ไม่มีใครอยากฟังก็ตาม
2.คุณไม่ชอบพูดเรื่องสัพเพเหระ
คุณไม่อยากเสียเวลาพูดคุยกับผู้อื่นเกี่ยวกับสภาพอากาศ วันหยุดสุดสัปดาห์ของพวกเขา ซึ่งการพูดคุยเล็กๆน้อยนี้ เป็นการพูดคุยที่สุภาพและสร้างมิตรภาพ อาจดูไร้ประโยชน์สำหรับคุณและคุณอยากจะพูดตรงประเด็นสำคัญจริงๆ ด้วยเหตุนี้ทำให้คนที่คุณคุยด้วยไม่รู้สึกมีส่วนร่วมในการสนทนา และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงดูหยาบคายหรือเย็นชา
ในขณะที่คุณชอบที่จะเปิดใจรับฟังและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แต่คนอื่นไม่ได้อยากทำเช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อใดที่ใครบางคนถูกกล่าวหาหรือตัดสินโดยที่เรื่องนั้นไม่เป็นความจริง นั่นทำให้คุณรู้สึกโมโห ดังนั้นคุณควรพยายามหลีกเลี่ยงคนเหล่านั้น หรือสถานการณ์ที่อาจทำให้คุณอารมณ์เสียกับพวกเขา
4.คุณทนไม่ได้กับคนที่ชอบขี้บ่นหรือกำลังหดหู่
คุณไม่ชอบแก้ตัว และด้วยเหตุนี้คุณจึงทนไม่ได้หากคนอื่นบ่นเรื่องต่างๆ กับคุณ คุณคาดหวังให้คนอื่นทำเช่นเดียวกับคุณ ทุกคนต้องจัดการปัญหาของตนเอง และถ้าคุณต้องทำงานกับคนเหล่านั้นคุณรู้สึกว่าพวกเขากำลังเสียเวลา ดังนั้นคุณอาจแสดงความคิดเห็นของคุณกับพวกเขา และคุณจะถูกมองว่าใจร้ายและไร้ความรู้สึกราวกับว่าคุณเป็นหุ่นยนต์ที่ใส่ใจแต่ผลลัพธ์และไม่สนใจปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญ
บุคลิกภาพบางอย่างของคุณอาจดูไม่มีอะไร แต่บางครั้งคนอื่นๆอาจมองว่าเป็นการข่มคนอื่น ๆ
1.คุณยึดมั่นในคำพูด:คุณสามารถรักษาคำพูดหรือซื่อสัตย์ต่อคำพูดได้ แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำเช่นนั้นได้ ดังนั้นเมื่อคนอื่นเห็นว่าคุณเป็นคนที่ยึดมั่นในคำพูดและทำตามที่พูดได้ พวกเขาจะเปรียบเทียบตัวเองกับคุณ และจะรู้สึกถึงความแตกต่างพวกเขาอาจรู้สึกละอายใจและไร้อำนาจ
2.คุณเป็นคนเปิดใจ:การลองเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกอึดอัด คุณสามารถรับฟังทั้งสองด้านของเรื่องราว การตัดสินใจและแสดงความคิดเห็นของคุณต้องคำนึงถึงคนอื่น คุณได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ไม่คุ้นเคย และคุณเริ่มทำสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น ซึ่งสิ่งแปลกใหม่เหล่านี้ทำให้คนทั่วๆไปต้องออกจากเซฟโซนและสร้างความไม่สบายใจแก่พวกเขา ดังนั้นเมื่อคุณพยายามเปลี่ยนแปลงความคิดพวกเขา พวกเขาอาจรู้สึกถูกคุกคามจากคุณ
3.คุณมีความมุ่งมั่น:หากคุณตั้งใจจะทำอะไรสักอย่าง คุณจะต้องทำมันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าสิ่งที่ทำจะตรงข้ามกับความคาดหวังของคนอื่นก็ตาม หากวิธีคิดหรือทำสิ่งนั่นแตกต่าง คุณไม่กลัวที่จะต่อต้านและอยู่คนเดียว และหากคุณไม่สามารถบรรลุผลตามที่ต้องการได้ในทันที คุณก็มั่นใจและศรัทธาที่จะพยายามทำต่อไปไม่ว่าคนอื่น จะมองว่ามันแปลกและไร้จุดหมาย
โบนัส: คุณสามารถเปลี่ยนวิธีแสดงออกได้ โดยทำสิ่งต่อไปนี้
ลองพิจารณาว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร หากคุณบอกบางอย่างที่ตรงเกินไป ถ้าเขารับได้ก็บอกไปตรงๆได้เลย แต่บางคนอาจเจ็บปวดกับคำพูดของคุณ และทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับบุคคลนั้นเสียหาย พยายามถ่ายทอดความคิดของคุณด้วยความจริง แต่ด้วยความเคารพเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องบอกข่าวร้ายแก่ใครบางคน คุณสามารถบอกอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็พยายามแสดงความความเห็นอกเห็นใจและให้กำลังใจ หรือถ้าคุณต้องวิพากษ์วิจารณ์งานของใครบางคนให้จดจ่อกับการกระทำของพวกเขา ไม่ควรตำหนิพวกเขาและกล่าวหาพวกเขาเป็นบุคคลที่ล้มเหลว แสดงให้เขาเห็นว่าคุณใส่ใจกับการทำงานให้ดี และพยายามให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาสามารถปรับปรุงแก้ไขได้
เนื่องจากผู้คนเคยชินกับการพูดคุยเล็ก ๆ ก่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคย อย่าเพิ่งข้ามขั้นตอน หากมันทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจและรู้สึกว่าคุณกำลังเสียเวลา มันยังคงคุ้มค่าที่จะทำเพื่อให้คู่สนทนารู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตรและการพูดคุยของคุณจะราบรื่น
ในสถานการณ์ที่มุมมองของคุณและคนอื่นแตกต่างกัน พยายามอย่าใช้อารมณ์หรือทำให้ใครขุ่นเคือง ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราดู และนึกภาพว่าหากคุณเป็นคนที่ต้องหาข้อโต้แย้งเพื่อสนับสนุนความคิดเห็นของคุณ และคนที่เกี่ยวข้องด้วยจะเป็นเช่นไร
ฉันรู้ว่าคุณกำลังลำบาก บอกฉันได้เลยถ้าคุณมีอะไรให้ฉันช่วย
อีกสิ่งที่คุณควรจำไว้คือบางครั้งผู้คนก็ต้องการปล่อยอารมณ์ออกมา แม้จะดูเหมือนว่าอ่อนแอ พวกเขาอาจบ่น หรือรู้สึกเสียใจกับตัวเอง แทนที่เราจะไปวิพากษ์วิจารณ์พวกเขาในการทำเช่นนั้น ลองเสนอความช่วยเหลือ เพื่อให้พวกเขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ พวกเขาจะรู้สึกขอบคุณ ดังนั้นในสถานการณ์เช่นนี้แทนที่คุณจะสร้างคู่อริ คุณอาจจะได้มิตรแทน
หากคุณต้องอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว คุณจัดการกับพวกเขาอย่างไร และนอกเหนือจากที่กล่าวไปข้างต้น มีอะไรอีกที่ทำให้คุณรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคามจากการคำพูดหรือการแสดงออก แบ่งปันความคิดเห็นนั้นในเพจของเราสิ
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside