ก้าวต่อไปของคนไร้บ้าน
ก้าวต่อไปของคนไร้บ้าน - Thaihealth.or.th | สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
เรื่องโดย ปัญจวรา บุญสร้างสม Team Content www.thaihealth.or.th
ให้ข้อมูลโดย นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. เเละนายสุชิน เอี่ยมอินทร์ นายกสมาคมคนไร้บ้าน
ข้อมูลประกอบจาก เวทีสาธารณะ "เเถลงผลสำรวจเเจงนับคนไร้บ้านสู่การขยายผลเชิงปฏิบัติเเละนโยบาย"
ภาพโดย นัฐพร ชุ่มลือ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ
บ้าน หรือ ที่อยู่อาศัยเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของคนเราเป็นอย่างมาก แต่ทุกวันนี้คนที่มีบ้านเป็นของตัวเองนั้นมีปริมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากรทั้งประเทศหรือทั้งโลก ซึ่งเป็นผลลัพธ์มาจากภาวะความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ค่อนข้างสูง ทั้งความเหลื่อมล้ำทางต้นทุนสังคม การศึกษา สถานภาพทางเศรษฐกิจ จึงทำให้เกิดปัญหาสืบเนื่องตามมา คือ การเกิดภาวะ "คนไร้บ้าน"
"ไม่มีใครอยากเป็นคนไร้บ้าน" เเต่เพราะปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นยากจนเกินกำลังที่จะรับมือไหว ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความยากจน ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาการว่างงาน รวมถึงหลักประกันทางสังคมที่ไม่เพียงพอ จึงทำให้คนกลุ่มนี้ต้องตกอยู่ในสภาวะของคนไร้บ้านไปโดยปริยาย
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สถาบันวิจัยสังคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กรมพัฒนาสังคมเเละสวัสดิการ เเละภาคีเครือข่าย ร่วมจัดเวทีสาธารณะ "แถลงผลสำรวจแจงนับคนไร้บ้านสู่การขยายผลเชิงปฏิบัติเเละนโยบาย” เพื่อนำผลสำรวจที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และขับเคลื่อนโยบาย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้านอย่างเป็นระบบ เเละเหมาะสมกับลักษณะทางประชากรคนไร้บ้านในแต่ละพื้นที่
จากการสำรวจแบบ One Night Count (ONC) หรือ The Point-in-time (PIT) โดยนำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ และขอนแก่น เมื่อปี 2558 ซึ่งการสำรวจเเจงนับประชากรคนไร้บ้านครั้งนี้ เป็นครั้งเเรกที่มีการดำเนินการครอบคลุมทั้งประเทศ พบคนไร้บ้านทั้งหมด 2,719 คน เป็น
ช่วงอายุของคนไร้บ้านที่พบมากที่สุด คือ ช่วงวัยเเรงงานตอนปลาย(อายุ 40 - 59 ปี)ในสัดส่วนถึงร้อยละ 57 เเละมีสัดส่วนผู้สูงอายุ(อายุ 60 ปีขึ้นไป) อยู่ที่ร้อยละ 18
นอกจากนี้ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า คนไร้บ้านส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ระดับประเทศ และระดับภูมิภาค ซึ่งกรุงเทพมหานครเป็นจังหวัดที่ครองเเชมป์พบจำนวนคนไร้บ้านมากที่สุดในประเทศ ประมาณร้อยละ 38 รองลงมา คือ นครราชสีมา ร้อยละ 5 เชียงใหม่ และสงขลา ร้อยละ 4 ชลบุรี ร้อยละ 3 อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสนใจว่าการแจงนับในครั้งนี้ พบคนไร้บ้านในพื้นที่ของทุกจังหวัด
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการแจงนับคนไร้บ้านทั้งประเทศ พบข้อมูลที่น่าสนใจ และมีความสำคัญ ดังต่อไปนี้
1.คนไร้บ้านสูงอายุมีสัดส่วนการอยู่ตัวคนเดียวมากกว่าคนไร้บ้านในช่วงอายุอื่น
2.คนไร้บ้านเพศหญิงมีลักษณะการอยู่กับครอบครัว/คู่ชีวิต หรืออยู่ร่วมกับคนไร้บ้านอื่น ๆ มากกว่าคนไร้บ้านเพศชาย
3.ในแต่ละปีมีคนไร้บ้านที่เสียชีวิตในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันประชากรที่อยู่ในภาวะไร้บ้านสะสมมีจำนวนมากกว่าตัวเลขการแจงนับ
นายสุชิน เอี่ยมอินทร์ นายกสมาคมคนไร้บ้าน กล่าวว่า แนวโน้มสำคัญที่จะทำให้เกิดภาวะคนไร้บ้านเพิ่มมากขึ้น คือ ภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย ทำให้โรงงานปิด คนตกงานมากขึ้น จึงอยากเสนอให้ชุมชนต่าง ๆ ที่มีโครงการบ้านมั่นคงสร้างบ้านกลางขึ้นมา เพื่อให้คนที่ไม่มีเงินค่าเช่าบ้าน หรือคนตกงานได้เข้าไปอยู่อาศัย โดยมีหน่วยงานจากภาครัฐให้การสนับสนุน เพื่อให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย และป้องกันไม่ให้มีจำนวนคนไร้บ้านเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญ คือ ปัญหากลุ่มผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระในการดูแลให้ครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่คนในครอบครัวก็จะต้องทำงานเลี้ยงชีพ จึงไม่มีเวลาที่จะดูแลผู้สูงอายุ ทำให้ต้องนำผู้สูงอายุมาไว้ที่ศูนย์คนไร้บ้าน หรือบางทีโรงพยาบาลก็เอาผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียงมาไว้ที่ศูนย์คนไร้บ้าน ทำให้ศูนย์มีภาระแต่ก็ต้องรับเอาไว้เพื่อมนุษยธรรม จึงอยากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนการดูแลครอบครัวผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียง เพื่อไม่ให้ครอบครัวต้องรับภาระที่หนักจนเกินไป และปล่อยให้ผู้สูงอายุต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน รวมทั้งอยากให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานจากหน่วยงานต่าง ๆ ประสานไปยังส่วนภูมิภาค และท้องถิ่น เช่น อบต. อบจ. รวมทั้งหน่วยงานภาคเอกชนร่วมกันดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านอย่างครอบคลุม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า สสส.เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มคนไร้บ้านมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยภารกิจหลักของสสส.คืองานด้านการส่งเสริมสุขภาวะ แต่สสส.คงจะทำให้คนมีความสุขทางกาย ทางใจไม่ได้ หากยังมีกลุ่มคนที่ยังไร้ที่อยู่อาศัย ขาดคุณภาพชีวิตที่ดี ต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่สาธารณะ เพราะฉะนั้นงานนี้ถือเป็นรากฐานที่สสส.ให้ความสำคัญ โดยร่วมกับมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย สนับสนุนให้กลุ่มคนไร้บ้านนั้นมีความเข้มแข็ง สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และยืนหยัดด้วยตนเองได้ นอกจากนี้ สสส.ยังให้การสนับสนุนทางวิชาการในการลงพื้นที่เก็บข้อมูลสำรวจแจงนับกลุ่มคนไร้บ้าน เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาออกแบบมาตรการการสนับสนุนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนไร้บ้านให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่
นางภรณี กล่าวต่อว่า ผลการแจงนับครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมาก ถือเป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนและทำงานกับประเด็นคนไร้บ้านของ สสส.ต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะในประเด็นการกระจายตัวของคนไร้บ้าน พบว่า ส่วนใหญ่กระจุกตัวในพื้นที่เมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ นครราชสีมา และสงขลา เป็นต้น ในขณะที่จังหวัดอื่น ๆ มีจำนวนไม่มาก ดังนั้นสสส.จึงมุ่งทำงาน 2 แนวทาง คือ จังหวัดที่มีคนไร้บ้านมาก เน้นการขยายผลนวัตกรรมศูนย์พักคนไร้บ้าน ส่วนจังหวัดที่มีคนไร้บ้านไม่มาก สสส. จะร่วมกับภาคีเครือข่ายพัฒนาชุดเครื่องมือและกระบวนการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านโดยท้องถิ่น เพื่อให้หน่วยงานในท้องถิ่นสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ของตนได้
สสส.จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมโยงหน่วยงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบในการพัฒนาและฟื้นฟูศักยภาพ เพื่อลดจำนวนคนไร้บ้าน และส่งกลับคืนสู่สังคมอย่างมีคุณภาพ เพื่อทำให้ “คนไร้บ้าน“ ได้เข้าถึง “สุขภาวะ” ในฐานะความเป็นคนที่มีคุณค่า มีศักดิ์ศรี และมีศักยภาพเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ในสังคม