ผัวปลอมเป็นตำรวจ เมียสวมรอยครู ก่อวีรกรรมเพียบฉ้อโกงตุ๋นลวงโลก
ผัวเมียสุดเเสบ 18 มงกุฎ หลอกลวงปลอมเป็นตำรวจเเละครู ลงมือรวมหัวกันก่อเหตุหลอกต้มตุ๋น ลวงโลก วีรกรรมเเสบๆเพียบ จนมีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายราย ล่าสุดหนีไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวเเล้ว หลังทั้งสองคนได้หลบหนี มาช่วยงานเลี้ยงไก่ให้กับเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว มาเป็นเวลา 1 อาทิตย์ ที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค7 นำโดย พล ต.ต.พงษ์อานันท์ คล้ายคลึง ผบก.สส.ภาค7 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน , สภ.ท่าไม้รวก เเละ สภ.แก่งกระจาน ร่วมจับกุมนายภาคิไนย หรือ แจ๊ค ป่าไลย์ อายุ30 ปี บ้านเลขที่ 84/1หมู่1ต.ยางหย่อง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และ น.ส.ชุติกาญจน์ เริงรมย์ อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 80 ม 4 ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน เลขที่236/2562 ข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ได้ที่บ้านภายในสวนปาล์ม หมู่ 9 บ้านวังมะละกอ ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
สอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า สองสามีภรรยาได้ร่วมกันก่อเหตุฉ้อโกงทรัพย์มาหลายคดี โดยเมื่อช่วงกลางปี 2559 นายภาคิไนย์ ได้ขอยืมเงินจากญาติรายหนึ่งภายในหมู่บ้านยางหย่อง อ.ท่ายาง โดยหลอกลวงว่าตนได้สอบผ่านข้อเขียนเพื่อบรรจุเข้ารับราชการตำรวจ แต่ต้องนำเงินเพื่อวิ่งเต้นเพื่อเข้าเป็นตำรวจตามขั้นตอนต่อไป ทำให้ญาติหลงเชื่อ และไปกู้เงินจำนวนหลายแสนบาท มาให้นายภาคิไนย์ยืม
ต่อมานายภาคิไนย์ ได้แต่งกายเป็นข้าราชการตำรวจ ถ่ายรูปโพสลงในเฟซบุ๊คส่วนตัวพร้อมเขียนข้อความอ้างถึงการปฎิบัติหน้าที่ระหว่างเป็นตำรวจ เพื่อให้ญาติหลงเชื่อจากนั้นได้แต่งกายด้วยชุดข้าราชการตำรวจเดินทางมาหาญาติพร้อมขอยืมเงินจากญาติอีกหลายแสนบาท โดยอ้างว่าต้องการเงินไปวิ่งเต้นในการสอบเข้าเป็นนายตำรวจ และยังมีพฤติกรรมให้ น.ส.ชุติกาญจน์ ภรรยา แต่งกายชุดข้าราชการครูมาหลอกลวง ทำให้ญาติหลงเชื่อพร้อมกับให้เงินนายภาคิไนย์ ไปอีกหลายแสนบาทเมื่อได้เงินแล้วนายแจ๊คอ้างว่าจะรีบใช้หนี้ตามกำหนดที่ตกลงไว้ อีกไม่นานความจริงปรากฏ บรรดาญาติที่ถูกหลอกลวงเงินไปจับได้ว่านายภาคิไนย์ โกหกหลอกลวงเพราะไม่ได้เป็นตำรวจจริง
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อปี 2561 นายภาคิไนย์ พร้อมกับ น.ส.ชุติกาญจน์ ภรรยา ได้เช่ารถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ จากผู้ประกอบการชายหาดชะอำ ในราคาค่าเช่าคันละ 250 บาท จำนวน 2 คัน และนำรถที่เช่ามาไปจำนำ โดยนายภาคิไนย์ อ้างว่านำรถทั้งสองคันไปจำนำกับนายน้อย กัญยาโน ชาวอำเภอหัวหิน ได้ค่าจำนำคันละ13,000บาท และยังร่วมกันก่อเหตุหลอกเช่ารถจักรยานยนต์แล้วนำไปจำนำในลักษณะเดียวกันในเขตพื้นที่ชายหาดหัวหินอีกนับสิบคัน โดยนำไปจำนำกับนายน้อยเช่นเคย บางคันได้ราคาจำนำรถสูงถึงคันละ17,000บาท จนกระทั่งมีเจ้าทุกข์รายหนึ่งโพสเตือนภัยผ่านทางเฟซบุ๊ค จนมีการเเชร์กันไปเป็นวงกว้าง โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน และถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด