เปิดตัวลุงฟอร์จูนเนอร์ รับละอายใจเลือกชีวิตขอทาน อึ้งหนักโปรไฟล์มีลูกทำงานตปท. ทนายเกิดผลชี้ยังไงก็ผิด
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปแอบถ่าย พร้อมระบุข้อความว่า “ลุงทำอะไรคะ เข็ดกับการให้ทานคน #ตลาดบ้านบัวทองก็ไปนะลุง ปิดเสียงก่อนเปิดนะจ๊ะ ขอโทษนะลุง ทนเห็นต่อไปไม่ได้”
โดยในคลิปลุงคนหนึ่งขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีดำมาจอด จากนั้นก็เดินลงมาจากรถ ด้วยสภาพเสื้อผ้าที่ทรุดโทรม ก่อนเปิดประตูหยิบอุปรณ์ทั้งไม้นำทางสำหรับคนตาบอด ตู้ลำโพง แล้วเดินเข้าไปในวัด รวมทั้งไปยังตลาดและแหล่งชุมชนด้วย
ทั้งนี้เมื่อเข้าไปตรวจสอบในเฟซบุ๊กของเธออีกครั้งปรากฏว่าเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวได้ลบโพสต์ไปเสียแล้ว และ ล่าสุดเธอยังได้โพสต์ข้อความอีกว่า “ขออนุญาตลบโพสต์ เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและครอบครัวค่ะ”
ต่อมา พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง ผกก.สภ.บางใหญ่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบคลิปที่ปรากฏดังกล่าวแล้ว จะได้เร่งติดตามตัวชายคนดังกล่าวมาดำเนินการสอบสวนต่อไป หาพบว่ามีเจตนาไม่ดี และเข้าข่ายการกระทำผิดตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร หากฝ่าฝืนมาตรา 16 มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ก็จะถูกดำเนินคดีทันที
ล่าสุดมีการเจอตัวลุงขอทานรายดังกล่าวแล้ว พร้อมเปิดใจเล่าให้ฟังว่า “ก่อนหน้านี้ตนทำอาชีพขายหมูอยู่ที่ตลาดแห่งหนึ่งย่านนนบุรีนครปฐม จนมีเงินอยู่ก้อนหนึ่งจึงเลิกขาย แต่กลับมาติดการพนัน เป็นหนี้สินอยู่ 80,000 บาท ใช้หนี้ไปได้ส่วนหนึ่ง จนเหลือประมาณ 10,000-20,000 บาท ไม่รู้จะไปหาเงินจากไหน จึงเลือกที่จะไปขอทาน
ไปมาแล้วหลายที่ รู้สึกละอายใจเหมือนกัน แต่ที่แต่งตัวมอมแมมส่วนหนึ่งคืออยากปิดบังใบหน้าไม่ให้ใครจำได้ ตนอยู่กับภรรยา ส่วนลูกทำงานธนาคารอยู่ต่างประเทศ หลังจากนี้ตนจะไม่ทำอีกแล้ว
เมื่อถามว่า แล้วลุงจะไปทำอาชีพอะไรจะกลับไปขายหมูเหมือนเดิมไหม ลุงบอกว่าลุงกลับไปขายไม่ได้แล้วเพราะลูกค้าเก่าหายไปหมดแล้ว ต่อจากนี้คงอยู่บ้านและรอเงินเดือนจากลูกอย่างเดียว
ขณะเดียวกัน ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์ข้อความระบุว่า แกล้งตาบอด ขับรถหรูราคาเป็นล้าน เพื่อขอทาน เป็นการฉ้อโกงหรือไม่ หรือไม่ผิดอะไร เพราะเป็นการให้โดยเสน่หา การกระทำใด ๆ โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่น
- ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือ
- ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง
- โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม
ดังนั้นการกระทำของขอทานอาชีพคนนี้ เป็นการหลอกลวง โดยการปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง ตาไม่บอดก็แกล้งบอด ไม่ได้จน ก็แกล้งจน จนเป็นเหตุให้ประชาชนที่ถูกหลอกลวงหลงเชื่อ ส่งมอบเงินทอง และทรัพย์สินให้ ย่อมเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ตามมาตรา 341
แต่ถ้าขอทานจะต่อสู้ว่า เป็นการให้โดยเสน่หา จะฟังขึ้นหรือเปล่า ? การให้โดยเสน่หา ก็ต้องมาจากความเต็มใจ ไม่น่าจะมาจากการถูกหลอกลวง ถ้าผู้ที่ให้รู้ว่า เขาร่ำรวย ไม่ได้ยากจน หรือเป็นตาดี ไม่ได้ตาบอด ประชาชน จะเกิดความสงสาร และส่งมอบทรัพย์สินให้หรือไม่ ถ้าประชาชนเต็มใจให้ แม้ว่าจะตาดี และร่ำรวย จึงน่าจะถือว่า เป็นการให้โดยเสน่หา
แต่ถ้าเขารู้ว่า ชายคนนั้นไม่ได้ตาบอด และยากจน ก็ไม่ยินดีให้เงินทอง ที่เขาให้เงินทอง เพราะจงใจหลอกลวงให้เขาเชื่อว่า เป็นคนจนและตาบอด เขาจึงหลงเชื่อ และมอบเงินทองให้……แบบนี้ เป็นความผิดฐานฉ้อโกง..และถ้ามีผู้เสียหายหลายคน คนละบาท สองบาท ก็หลายกรรมล่ะครับ เพราะต่างกรรมต่างวาระ ซวยแล้ว…มรึง
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ