วินาทีเมียฆาตกรโหด เจอหน้าภรรยานายช่างโยธา จุกหัวใจใครจะเชื่อคำพูดสุดท้าย
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด จำนวน 2 คลิป เป็นภาพเหตุการณ์ รถเก๋งคันหนึ่งค่อยๆ ถอยออกมาจากบ้าน โดยมีชายคนหนึ่งสวมเสื้อแขนกุดสีขาว ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้านตรงข้ามกัน ต่อมาจึงได้ทราบชื่อผู้ก่อเหตุว่าคือนายไพบูลย์ ส่างสาร อายุ 56 ปี ที่ขับรถเก๋งพุ่งชนนายสุพรรณ ญาติบรรทุง อายุ 57 ปี เพื่อนบ้าน อย่างจังจนเสียชีวิตคาที่ ก่อนหลบหนีไปนั้น
ตำรวจพบรถคันดังก่อเหตุถูกจอดทิ้งไว้ที่ลาดจอดรถของสนามฟุตบอลเยลโล่ การ์ด ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ในสภาพด้านหน้าขวามีรอยชนจนยุบ กันชนหน้าแตก
กระทั่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อนุมัติหมายจับนายไพบูลย์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
ขณะเดียวกัน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง เจ้าของเพจ ทนายคลายทุกข์ ได้ให้ความเห็นทางกฏหมายว่า ผู้กระทำผิดก่อเหตุขณะที่ในรถมีเด็ก 2 คน และคนแก่ 2 คน เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมต่อหน้าต่อตาเด็ก ชนเสร็จแล้วยังหนีไม่มีการลงมาดู คดีนี้ผู้ต้องหามีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา หรือฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีโทษสูงสุดประหารชีวิต
ล่าสุด พ ต อ ประเวศน์ ศรีนาค ผกก สภ พระนครศรีอยุธยา ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวนายไพบูลย์ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่สถานีรถไฟสถานีขนส่ง ท่ารถตู้ และที่คาดว่านายไพบูลย์จะหลบหนี รวมทั้งที่บ้านญาติและบุคคล ใกล้ชิดแต่ก็ยังไม่พบตัว โดยยังไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใดและยังไม่มีการติดต่อขอมอบตัว
ด้านนางปานกมล รัศมี อายุ 44 ปีพร้อมครอบครัวรับร่างนายสุพรรณ์จากนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี มาตั้งบำเพ็ญกุศลโดยมีญาติเพื่อนร่วมงานมาแสดงความเสียใจ ซึ่งทางญาติ จะสวดอภิธรรมเป็นเวลา 3 วันและจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 29 มกราคมนี้
ในระหว่างนั้นภรรยาของนายไพบูลย์พร้อมลูกสาวได้เดินทางมาแสดงความเสียใจก่อนไปรดน้ำศพจากนั้นก็ตรงเข้าไปกราบขอโทษนางปานกมลและลูกชายของนายสุพรรณ์ด้วยความโศกเศร้าหลังจากนั้นจึงเดินทางกลับทันที
ด้านนางปานกมลกล่าวว่าในส่วนเรื่องราวตากผ้าขอยืนยันว่าการตั้งราวตากผ้าอยู่ในพื้นที่ของหน้าบ้านตัวเองตอนตากผ้าก็มองดูแล้วว่าไม่ได้กีดขวางใครส่วนเรื่องประเด็นความขัดแย้งไม่รู้ว่าในการประชุมของคณะกรรมการหมู่บ้านมีปัญหาอะไรหรือมีการโต้เถียงกันมาก่อนหรือไม่เพราะสามีเคยเป็นคณะกรรมการของหมู่บ้านได้ประมาณ 2 ปีและลาออกได้ประมาณ 1 ปีแล้ว
อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมให้ได้สภาพจิตใจในตอนนี้ยังไม่ให้อภัยและไม่ขอมีการประนีประนอมในเรื่องของคดีให้กฎหมายดำเนินคดีให้ถึงที่สุดซึ่งในเช้าวันเกิดเหตุสามีบอกว่าเมื่อคืนนอนหลับสบายดีแล้วบ่นรู้สึกปวดหลังอยากให้ลูกชายเหยียบหลังให้เป็นคำพูดสุดท้ายที่ได้คุยกันแล้วถึงแยกย้ายกันทำงานบ้าน