เจ้าหน้าที่กรมปกครอง บุกทลายผับดัง
เมื่อเวลา 02 00 น วันที่ 25 มกราคม 2563 กรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี ประสิทธิ์ ฉ่ำมณี รักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองร้อยเอ็ด พนักงานฝ่ายปกครองส่วนกลาง จากสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กว่า 100 นาย บุกเข้าจับกุมสถานบันเทิงชื่อดังกลางเมืองร้อยเอ็ด ชื่อร้าน บูซเซอร์ BOOZER และร้านโดรน คลับ DRONE CLUB ตั้งอยู่ ต เหนือเมือง อ เมือง จ ร้อยเอ็ด ซึ่งมีการปล่อยปละละเลยให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้าไปใช้บริการภายในร้านจำนวนมาก และยังเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน
ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากจังหวัดร้อยเอ็ดได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่บ่อยครั้ง ว่าสถานบริการ ชื่อ บูซเซอร์ BOOZER และสถานบริการ โดรน คลับ DRONE CLUB ตั้งอยู่ ต เหนือเมือง อ เมือง จ ร้อยเอ็ด กระทำการฝ่าฝืน พรบ สถานบริการ พศ 2509 ด้วยการปล่อยเด็กเยาวชนเข้าใช้บริการ เปิดทำการเกินเวลา และปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายและขัดคำสั่ง หน คสช ที่ 22 2558 จึงประสานกับกรมการปกครองส่วนกลาง ให้เข้ามาร่วมดำเนินการตรวจสอบสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่ง ตามข้อร้องเรียนดังกล่าว
ก่อนเข้าจับกุมได้ส่งสายลับซึ่งเป็นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง เข้าทำการสืบสวนที่ร้านบูซเซอร์ และร้านโดรนคลับ พบว่าทั้ง 2 ร้าน มีลักษณะเป็นผับ ที่ไม่ได้เข้มงวดกวดขันตรวจบัตรประชาชนของผู้มาใช้บริการแต่อย่างใด กลับปล่อยให้เด็กเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก และจำหน่ายสุราให้กับเด็ก โดยร้านโดรนคลับมีการจัดกิจกรรมปาร์ตี้รถแห่เพื่อดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการ
เมื่อได้ข้อมูลหลักฐานที่ชัดเจนจึงวางแผนปฏิบัติการจู่โจมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที โดยเตรียมกำลังพร้อมปฏิบัติการตั้งแต่กลางดึกของวันที่ 24 ต่อเนื่องวันที่ 25 มกราคม กระทั่งเวลา 02 00 น ทันทีที่สายลับส่งสัญญาณความพร้อม ชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในร้านพบนักเที่ยวจำนวนกว่า 600 คน กำลังเต้นอย่างเมามันตามจังหวะของเสียงดนตรี พอนักเที่ยวรู้ว่าถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ภายในผับเกิดโกลาหลเล็กน้อย เด็กหลายคนพยายามจะหลบหนีออกทางประตูหน้าร้าน แต่ชุดจับกุมได้วางแผนมาเป็นอย่างดี โดยส่งเจ้าหน้าที่ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองสั่งให้เปิดไฟแสงสว่าง ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ
จากการตรวจสอบภายในร้านบูซเซอร์ พบนักเที่ยว จำนวนกว่า 400 คน เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 138 คน โดยมีเด็กอายุต่ำสุดเพียง 13 ปี จึงส่งตัวให้ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดร้อยเอ็ด ดำเนินการทำบันทึกวางข้อกำหนดมิให้เด็กประพฤติเสียหายต่อการกระทำผิด และแจ้งผู้ปกครองมารับตัวไปปกครองดูแลต่อไป นอกจากนี้ยังตรวจพบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 39 คน จึงส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับ ขณะเดียวกันระหว่างตรวจสอบภายในร้านร้านบูซเซอร์ ยังพบยาเสพติด ตกอยู่ประกอบด้วยยาไอซ์ จำนวน 3 ซอง มีนายรุ่งโรจน์ วรนาม อายุ 43 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน โดยมีนางสาวชัชวรรณณ์ ลีโรจนวุฒิกุล เป็นผู้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวและร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด
1 ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ
2 ไม่ตรวจบัตร ประจำตัวประชาชนของผู้เข้าใช้บริการ
3 ไม่จัดทำประวัติพนักงานก่อนเริ่มเข้าทำงาน
4 ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร
ส่วนร้านโดรนคลับ พบนักเที่ยว จำนวนกว่า 200 คน เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ จำนวน 78 คน จึงดำเนินการทำบันทึกและแจ้งผู้ปกครองมารับตัวกลับบ้าน นอกจากนี้ตรวจพบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 19 คน จึงนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีและเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายต่อไป โดยร้านโดรนคลับ มีนางสาวอรทัย ภักดีสมัย อายุ 31 ปี แสดงตัวเป็นผู้ดูแลร้าน มีนางสาวรักษยา แสงฤทธิ์ เป็นผู้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ จึงได้จับกุมตัวและร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด
1 ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ
2 ยินยอมหรือปล่อยให้มีการนำอาวุธเข้าไปในสถานการ
3 ไม่ตรวจบัตร ประจำตัวประชาชนของผู้เข้าใช้บริการ
4 ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
5 ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง กล่าวว่าสถานบันเทิงทั้ง 2 แห่งที่ถูกจับกุมในวันนี้ มีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการครบทั้ง 2 แห่ง ซึ่งการที่ผู้ประกอบการได้รับใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการนั้น คือข้อตกลงที่ผู้ประกอบการมีหน้าที่ต้องประกอบธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมาย หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะถูกเพิกถอนใบอนุญาต มีโทษทางอาญา และโทษทางปกครองสั่งปิดสถานประกอบการที่ฝ่าฝืนเป็นเวลา 5 ปี
กรมการปกครองจะกวดขัน จับกุม ปราบปราม สถานบริการที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ผู้ประการการสถานบันเทิงควรมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยประกอบธุรกิจให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็ก สถานบันเทิงไม่สามารถปล่อยให้เด็กเข้าไปใช้บริการได้ ซึ่งสถานที่เหล่านี้ ไม่สมควรให้เยาวชนเข้ามาใช้บริการหรือใช้เป็นที่มั่วสุม เพราะเป็นต้นทางนำไปสู่ปัญหาสังคมอื่นตามมากมายมาย เช่น สถานที่แห่งนี้ ยาเสพติดเริ่มแพร่ระบาดสู่เยาวชน เป็นบ่อเกิดของอาชญากรรมอื่นตามมา ฉะนั้นเพื่อมิให้สถานบริการเป็นแหล่งกระทำผิดกฎหมาย ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ถูกต้อง เพราะหากผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว จะส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมโดยรวม