ประเพณีการเดินสามหาบของหลวงเวียนเมรุ
ในบทวิทยุรายการ “รู้ รัก ภาษาไทย” ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๓ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น. ได้อธิบายการเดินสามหาบไว้ว่า เดินสามหาบ เป็นคำเรียกพิธีกรรมอย่างหนึ่งที่ทำเมื่อเผาศพแล้ว วันรุ่งขึ้นเจ้าภาพจะต้องไปเก็บอัฐิ เพื่อนำมาเก็บในที่อันควรและนำเถ้าที่เหลือไปลอยน้ำ เรียกว่า ลอยอังคาร ในการเก็บอัฐิ เดิมลูกหลานจะจัดข้าวของและอาหารเป็นหาบ ๓ หาบ พันไม้คานด้วยผ้าขาว ข้างหนึ่งของหาบมีหม้อข้าว หม้อแกง เตาไฟ ข้าวสาร พริก หอม กระเทียม กะปิ ซึ่งล้วนเป็นเสบียงอาหารแห้ง หาบอีกข้างหนึ่งบรรจุข้าวและอาหารคาวหวานที่ทำสุกแล้ว ทำดังนี้ทั้ง ๓ หาบ ในสมัยโบราณจะให้ลูกหลาน ๓ คนแต่งกายสีขาว นำหาบทั้งสามไปเดินเวียนรอบที่เผาศพ กู่ร้อง ๓ ครั้ง แล้วนำหาบทั้ง ๓ นั้นไปถวายพระภิกษุ ๓ รูป พร้อมกับผ้าบังสุกุลอีกรูปละ ๑ ชุด เมื่อพระชักผ้าบังสุกุลและรับถวายหาบแล้ว ก็เสร็จพิธี ปัจจุบัน มักไม่ใช้หาบแค่จัดอาหารใส่ปิ่นโต หรือถาดตามสะดวก ก็เรียกว่า ทำสามหาบ เช่นเดียวกัน. คำว่า สาม ใน เดินสามหาบ และ ทำสามหาบ ต้องเขียนเป็นตัวหนังสือ
ในคราวงานพระเมรุมาศและงานพระเมรุ ตามประเพณีจะมีการเดินสามหาบเวียนพระเมรุมาศหรือพระเมรุในวันเก็บพระบรมอัฐิหรือพระอัฐิ โดยผู้ที่เดินสามหาบจะเป็นพระราชวงศ์หรือข้าราชการ เมื่อคราวงานพระเมรุพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพ็ชรบุรีราชสิรินธร คณะกรรมการพิจารณาจัดวางโครงการพระเมรุ ได้เสนอความเห็นให้เลิกการเดินสามหาบของหลวงในงานเก็บพระอัฐิ เพื่อความเหมาะสมทางวัฒนธรรมของชาติในสมัยนั้น แต่ด้วยระยะเวลาที่กะทันหันจึงยังไม่มีการยกเลิก ต่อมาจึงมีการเสนออีกครั้ง คณะกรรมการพระราชสำนักจึงได้ประชุมพิจารณายกเลิกการเดินสามหาบ ตามลำดับความในเอกสารจดหมายเหตุ ดังนี้
เลขาธิการพระราชวัง (พระยาชาติเดชอุดม) ได้มีหนังสือถึง ราชเลขานุการในพระองค์ ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2484 ความว่า
เมื่อคราวงานพระเมรุพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพ็ชรบุรีราชสิรินธร คณะกรรมการพิจารณาจัดวางโครงการพระเมรุ ได้เสนอความเห็นให้เลิกการเดินสามหาบของหลวงในงานเก็บพระอัฐิ แต่เป็นช่วงเวลากะทันหันและต้องทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุมัติก่อน จึงระงับขอเสนอไว้ เมื่อถึงเวลาอันสมควรที่จะทรงพระราชวินิจฉัย เพื่อให้การเป็นไปเหมาะสมกับวัฒนธรรมของชาติ ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. การเดินสามหาบนั้น มูลเดิมการเผาศพทำในป่าช้าแล้วก็ทิ้งกันไปจนรุ่งเช้าขึ้นวันใหม่ จึงจัดอะไรต่ออะไรไปทำบุญ เก็บกระดูก การเดินนั้นก็คือ ขนของจากบ้านไปสู่ป้าช้าที่เผาศพ ป่าช้าเป็นป่าละเมาะมีหมู่ไม้บัง จึ่งต้องกู่เรียกกันเพื่อไม่ให้หลงกันไป ครั้นมาทำศพในที่เมรุหรูหรา ในสนามซึ่งไม่ใช่ป่าช้า การเดินเข้าลดเลี้ยวในป่าช้าก็กลายเป็นเดินเวียนไป
2. การขนส่งนั้น ปัจจุบันนี้ความจริงใช้ยานพาหนะแทนการหาบหามดุจการนำศพออกจากบ้านไปที่อื่น แต่ก่อนก็หามไป แต่เดี๋ยวนี้ใช้รถ
3. ตัดเรื่องไร้ประโยชน์ เช่น หม้อข้าวเชิงกราน ไปได้
4. แม้เลิกการเดินสามหาบ อานิสงส์อันเกิดจากพิธีการสามหาบไม่สิ้นสูญและลดน้อยไป
5. เพื่อตัดปัญหาเรื่องการนุ่งผ้าให้หมดสิ้นไป
ฉะนั้น จึงมีความเห็นว่า เป็นการสมควรแก่กาละแล้วที่จะเลิกเฉพาะการเดินสามหาบของหลวงเวียนเมรุนั้นเสียเลยทีเดียว โดยไม่มีการจำกัดว่าจะเป็นศพชั้นใด แต่ส่วนเครื่องสามหาบ คือ ไตร และสำรับคาวหวานสำหรับถวายพระในเช้าวันเก็บอัฏฐิคงมีพระราชทานตามเกียรติยศต่อไปตามเดิม จึงขอให้ราชเลขานุการในพระองค์ นำเสนอคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ทราบ หากชอบด้วยดำริและทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระบรมราชานุมัติแล้ว สำนักพระราชวังจักได้รับพระราชทานถือเป็นระเบียบปฏิบัติต่อไป
ต่อมาสมุหพระราชวัง (เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี) ได้มีหนังสือตอบ ราชเลขานุการในพระองค์ ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2484 ความว่า
ตามที่ราชเลขานุการในพระองค์อยากจะทราบความเห็นของสมุหพระราชวังนั้น สมุหพระราชวังให้ความเห็นว่า เหตุผลที่เลขาธิการพระราชวัง เสนอมาก็เข้าทีอยู่ แต่การเดินสามหาบเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิธรรมเนียมซึ่งได้ทำกันมา หากจะเป็นความคิดของคนๆ เดียวดูจะไม่เหมาะ จึงได้เชิญคณะกรรมการพระราชสำนักประชุมปรึกษา เมื่อวันพุธ ที่ 2 กรกฎาคม 2484 เพื่อฟังความคิดเห็น คณะกรรมการพระราชสำนักลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า “การเดินสามหาบนั้นควรเลิกเสียได้ตามที่เลขาธิการพระราชวังเสนอมา คงให้มีแต่ไตร ซึ่งเป็นมหาบังสุกุลสำหรับเมื่อเก็บกระดูก และมีสำรับเลี้ยงพระ ถ้าเป็นของหลวงพระราชทาน ก็มีของหลวงกับของเจ้าภาพ ถ้าศพใดไม่มีเกียรติยศก็เป็นของเจ้าภาพอย่างเดียว” จึงขอให้นำความเสนอคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งเรื่องขณะนั้นได้ส่งมาเพื่อหารือนายกรัฐมนตรี (จอมพล ป. พิบูลสงคราม) ในตำแหน่งบังคับบัญชาสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ก่อนด้วย และนายกรัฐมนตรีเห็นชอบและได้เสนอคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทราบแล้ว การเดินสามหาบของหลวงจึงได้เลิกไป
อ้างอิงจาก: หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. เอกสารสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี. (2) สร 0201.97/14 เรื่องยกเลิกประเพณีการเดินสามหาบของหลวงเวียนเมรุ
(17-28 กรกฎาคม 2484)