กรมอุตุฯ เตือน 20-22 ม.ค. เตรียมรับมือฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง
พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าระหว่างวันที่ 16 มกราคม 2563 – 22 มกราคม 2563 การคาดหมาย ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-12 องศาเซลเซียส และในช่วงวันที่ 20 – 22 ม.ค. 63 บริเวณภาคเหนือตอนบนจะมีจะมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น สำหรับภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 17 – 22 ม.ค. 63 ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ
ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 16 – 22 ม.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดความหนาวเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยเข้าปกคลุมภาคเหนือ ส่วนในช่วงวันที่ 20 – 22 ม.ค. 63 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนจะพัดพาความหนาวเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกและภาคกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น
ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ตลอดช่วง และอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า ตลอดช่วง อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยโดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 19 – 21 ม.ค. 63อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 16 – 17 ม.ค. 63 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียสส่วนในช่วงวันที่ 18 – 22 ม.ค. 63 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียสตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตรตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตลอดช่วงอุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียสลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 16 – 18 ม.ค. 63 มีฝนเล็กน้อยบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียสส่วนในช่วงวันที่ 19 – 22 ม.ค. 63 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
อ้างอิงจาก: https://www.xn--42c2dgos8bxc2dtcg.com/148837/?utm_source=category&utm_medium=internal_referral