SPU เปิดประสบการณ์จริง รุ่นพี่สู่รุ่นน้อง กับอาชีพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเรือสำราญ My Story #1

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเรือสำราญ ถือเป็นอีกหนึ่งการเดินทางท่องเที่ยวที่เริ่มได้รับความนิยม และเป็นอุตสาหกรรมที่ผลักดันให้การท่องเที่ยวเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ชื่นชอบการพักผ่อน และหลงใหลกับการผจญภัยของเสน่ห์การเดินทาง

ดร.นครินทร์  ทั่งทอง หัวหน้าสาขาวิชาการจัดการบริการธุรกิจเรือสำราญ วิทยาลัยการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม  จึงได้จัดกิจกรรม My Story #1 การเสวนาสุดพิเศษ ตามโครงการเรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในรายวิชา บัณฑิตในอุดมคติ ของสาขาวิชาการจัดการบริการธุรกิจเรือสำราญ โดยได้รับเกียรติจาก 2 หนุ่มหล่อศิษย์เก่าฯที่ประสบความสำเร็จในการปฎิบัติงานบนเรือสำราญ  นายวรวุฒิ ไพบูลย์ (มาร์ค) และ นายสิทธิกานต์ อัครพลวัฒน์ (บิว) มาร่วมถ่ายทอดความรู้และแชร์ประสบการณ์ พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องๆนักศึกษาชั้นปีที่ 1  เกี่ยวกับการปฎิบัติงานบริษัทเรือสำราญยักษ์ใหญ่ระดับโลก Royal Caribbean International โดยทั้งสองคนได้ทำงานในสายงาน Recreation Activity ตำแหน่ง Casino Dealer บนเรือสำราญ ซึ่งนักศึกษาได้รับความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างมาก และจะได้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาปรับใช้กับการเรียนและการเตรียมความพร้อมก่อนไปปฎิบัติงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเรือสำราญต่อไปในอนาคต ณ ห้อง 5-705 อาคารสยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยศรีปทุม กทม.(บางเขน)

นายวรวุฒิ ไพบูลย์ (มาร์ค) กล่าวว่า การทำงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเรือสำราญ สิ่งแรกที่สำคัญคือเรื่องของภาษาอังกฤษ เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากต้องทำงานกับชาวต่างชาติ ซึ่งตนเองมักประสบปัญหาในช่วงแรกๆของการทำงาน เพราะไม่เก่งเรื่องภาษา แต่โชคดีที่ได้เพื่อนร่วมงานที่เป็นชาวต่างชาติ ชื่อ “Maxi” คอยช่วยเหลือสนับสนุนและเป็นแรงผลักดันในการเรียนภาษาและได้ฝึกการใช้ภาษาอยู่เป็นประจำ “ซึ่งนี้ก็คืออีกวิธีหนึ่ง ในการเตรียมความพร้อมด้านภาษาที่เป็นประโยชน์สำหรับตัวเราอีกด้วย”

ทางด้านนายสิทธิกานต์ อัครพลวัฒน์ (บิว) กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับคุณสมบัติของคนที่เหมาะในการทำงานบนเรือสำราญ ควรมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง บุคลิกดี  ยิ้มแย้มแจ่มใส มั่นใจ ภาษาอังกฤษต้องดีถึงดีมาก เพราะกว่าจะได้ทำจริงๆ นั้นต้องเจอการสัมภาษณ์ที่เข้มข้นมาก และต้องมีอายุระหว่าง 21-35 ปี (อายุน้อยเกินไปผู้ปกครองอาจเป็นห่วง อายุมากเกินไปอาจมีปัญหาสุขภาพ) และควรมีประสบการณ์งานบริการมาบ้าง เช่น หากใครเคยทำงานโรงแรมมาก่อน ก็มีโอกาสได้รับการคัดเลือกมากกว่าคนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลย หรือน้องๆ คนไหนเรียนจบการโรงแรมก็ถือว่าได้เปรียบมาก