สาวโชคร้าย หมอวินิจฉัยผิด รู้ตัวอีกที ก็สายไปแล้ว
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่แชร์กันมากบานโลกออนไลน์ สำหรับเรื่องราวของหญิงสาวผู้ที่เคร่งครัดในการรักษาตามหมอบอกมาโดยตลอด สุดท้าย “หมอวินิจฉัยผิดโรค” ซ้ำร้ายไม่เหลือเวลามากพอให้รักษา จนเป็นเหตุให้เธอต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเสียดาย
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sukjam Best ได้เผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวระบุข้อความว่า คำอาลัย ที่ไม่รู้เป็นความผิดของใคร เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นจริง ที่สะท้อนสภาพสังคมและคุณภาพชีวิต ในหลายมิติ หลานสาว ภาวิณี พลอาชีพทำงานบริษัทโรงงานผลิตน๊อตอะไหล่ งานที่ทำต้องเกี่ยวข้องกับน้ำมันก๊าซ ทางโรงงานจึงให้สิทธิตรวจสุขภาพทุกปี ที่โรงพยาบาลเอกชนมีชื่อเสียงแถวบางวัว ผลตรวจสุขภาพปีนี้ล่าสุดที่โรงพยาบาลเดิมก็ปกติ เธอเริ่มมีอาการไอสักสองสามเดือน เธอก็ไปตรวจโรงพยายามเดิม โรงพยาบาลตรวจแล้วให้ยาแก้อาการไอ
เดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคมปี 2562 พ่อเธอป่วยเป็นมะเร็ง เธอต้องพาพ่อเธอไปรักษา ที่โรงพยาบาลแถวลพบุรี จนพ่อเธอเสีย ต้องจัดงานศพแล้วฌาปนกิจ ก่อนมางานศพ เธอไปตรวจโรงพยาบาลเดิม โรงพยาบาลวินิจฉัยว่า”เธอเป็นวัณโรค” จัดยาให้เธอมาทานมื้อละ 10 เม็ด
เธอเติบโตมาบนวิถีชีวิตที่นับถือหมอและพยาบาล หมอว่าอย่างไร เธอเชื่อและทำตามอย่างเคร่งครัด ทานยาวัณโรคตามหมอสั่งช่วงจัดงานศพ จนถึงวันฌาปนกิจเผาศพพ่อเธอ อาการเธอแย่ หายใจเองไม่ได้ ญาติพี่น้องพาเธอส่งโรงพยาบาลเดิม มาครั้งนี้ โรงพยาบาลเดิมวินิจฉัยว่า เธอไม่ได้เป็น “วัณโรค” แต่เธอเป็น “มะเร็ง” ระยะสุดท้าย ที่ไม่สามารารถรักษาได้
เธออยู่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 3 ถึงวันที่ 7 มกราคม 2563 แล้วเธอก็หมดลมหายใจ ทิ้งลูกน้อย 2 คน ทั้งที่เธอไม่ปรารถนาจะทำเช่นนั้น ด้วยความจงรักภักดีต่อโรงพยาบาลนี้โรงพยาบาลเดียว แม้วินาทีสุดท้ายเธอร้องขอให้ย้ายโรงพยาบาล แต่ก็สายไปแล้ว
เรื่องนี้สะท้อนถึง “คุณภาพชีวิต” ของคนทำงาน ที่ฝาก “สุขภาพและความเจ็บป่วย” ไว้กับโรงพยาบาล การที่โรงพยาบาล วินิจฉัยโรคผิด ให้ทานยาผิด เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตหรือไม่
เหตุใด ตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกัน จึงไม่สามารถพบมะเร็งๆ ระยะที่รักษาได้ เป็นคำถาม ที่ญาติพี่น้องถาม สิทธิผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย มีสิทธิเรียกร้อง ความรับผิดชอบจากโรงพยาบาลไหม โรงพยาบาลไม่แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย การทำงานลักษณะนี้ ที่ขาดความรอบคอบ ก็จะเป็นวิบากกรรมให้กับคนไข้คนอื่นๆ ต่อไป
ถ้าภาคสังคมไม่ตื่นตัว สังคมจะพัฒนาได้ ถ้าภาคสังคม ภาคประชาชน ช่วยกันตรวจสอบ มีส่วนร่วมในการกำหนดสังคมและคุณภาพชีวิตของตน วอนท่านที่เกี่ยวข้อง ที่มีความรู้เรื่องแพทย์ เรื่องกฏหมาย ช่วยทำเรื่องนี้ให้กระจ่างด้วยครับ ไม่อยากเห็นวิบากกรรมลักษณะนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวอื่นๆ เพราะความสูญเสีย ความเจ็บปวดจากการสูญเสีย เป็นความรู้สึกที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นแก่ผู้อื่น
วอนท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะ ช่วยกันกดไลน์กดแชร์ให้ถึงผู้เกี่ยวข้อง และท้วงถามถึงความยุติธรรมของการสูญเสีย ที่ไม่น่าเกิดขึ้น ถ้าจรรยาบรรณวิชาชีพได้มาตราฐาน มากกว่า ใช้ชีวิตมนุษย์เป็นธุรกิจมาตราฐาน สู่สุคติหลานรัก อาทิตย์ 12 มกราคม 2563 วันฌาปนกิจศพเธอ เฟสบุ๊กของเธอ คือความทรงจำที่ยังมีชีวิต