แอดมินเพจท่องเที่ยวขอเป็นกระบอกเสียงแทนแอร์โฮสเตส หลังเจอมนุษย์ป้าแผลงฤทธิ์ใส่จนหน้าชา

แอดมินเพจท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง ส่องญี่ปุ่น ได้โพสต์เล่าความอัดอั้นตันใจหลังได้พบเจอเหตุการณ์มนุษย์ป้าแผลงฤทธิ์บนเครื่องบินใส่แอร์โอสเตสสาวจนหน้าชา ขอเป็นกระบอกเสียงพูดแทน ใจเขาใจเราด้วย

ไม่คิดว่าตัวเองจะได้มีโอกาสเขียนบทความนี้แต่…อดใจไม่ไหวจริงๆ คร่าวๆคือเหตุเกิดเมื่อสัปดาห์ก่อน ผมได้มีโอกาสใช้สายการบินในไทย(สีแดง) ในระหว่างต่อคิวเดินขึ้นเครื่องก็ยืนรอตามปกติ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงมนุษย์ป้าพูดเสียงดังว่า

“จะตรวจตั๋ว…ไรหนักหนา บอกว่ารู้ที่นั่งแล้ว” พอแกเดินไปถึงที่นั่งตัวเองก็ใช้แอร์ให้ยกกระเป๋า แต่แอร์พูดกลับว่า “รบกวนผู้โดยสารดูแลสัมภาระด้วยตัวเองนะคะ”

มนุษย์ป้าแกตอบกลับอย่างแรงว่า “โคตรไร้นํ้าใจแค่กระเป๋าก็ยกให้ไม่ได้ สายการบินโคตรแย่นิสัยตํ่าสมกับคำว่าโลว์คอสจริงๆ” ผมนี่อึ้งและสงสารน้องแอร์คนนั้นมากๆเลยครับ

ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่ไม่ค่อยได้เดินทางก็คงอาจจะเห็นด้วยกับมนุษย์ป้าคนนี้…แต่ผมขออณุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ในการอธิบายและเป็นกระบอกเสียงให้ฟังครับการที่แอร์ตรวจตั๋วก่อนขึ้นเครื่อง เพราะเค้าดูเที่ยวบินครับ ยํ้าว่าดูเที่ยวบินและวันที่เดินทาง!! เพื่ออะไร? เพื่อให้แน่ใจว่าผู้โดยสารทุกคนที่ขึ้นมาบนเครื่องเดินทางไปถูกที่หมายและถูกวัน

กระเป๋าที่นำขึ้นเครื่อง (carry-on) เป็นหน้าที่ที่ผู้โดยสารที่ต้องรับผิดชอบด้วยตนเอง กรณีที่ไม่สามารถยกขึ้นเก็บเองได้ เช่น มีอาการบาดเจ็บ, ตัวไม่สูง, กระเป๋าหนักเกินไป คุณเองสามารถแก้ปัญหาได้โดยมีทางเลือก 1.โหลดใต้ท้องเครื่อง หรือ 2.เก็บไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าครับ

การยกกระเป๋าบนเครื่อง ถ้าคุณไม่อยากยก ได้ครับ..มีคนยกให้คุณแน่นอน เพียงแค่คุณโหลดสัมภาระไปเก็บใต้ท้องเครื่อง จะมี ramp เป็นพนักงานคอยยกเก็บสัมภาระให้ จนถึงปลายทางโดยที่คุณไม่ต้องยกเอง แต่ !!! ถ้าคุณเลือกที่จะนำสัมภาระขึ้นเครื่อง คุณจะต้องรับผิดชอบของคุณเอง

การยกกระเป๋าไม่ใช่หน้าที่ของพนักงานต้อนรับบนเครื่อง ยํ้าว่า ”ไม่ใช่” หน้าที่ของพวกเขา!! หน้าที่หลักของเขาคือการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกต่างๆที่ผู้ใช้บริการต้องการความช่วยเหลือจริงๆ

จริงอยู่มันอาจจะแลดูไม่มีนํ้าใจในมุมมองของลูกค้า แต่ลองมองกลับกันนะครับว่า ถ้าเค้ายกให้คุณเค้าก็ต้องยกให้ทุกคน

เพื่อความเท่าเทียมกัน ทีนี้นึกภาพตาม เครื่องที่ผมนั่งถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น A-320(200) ความจุ 180ที่นั่ง แอร์4คน 180/4คน เท่ากับหนึ่งคนต้องยกกระเป๋า 45ใบ และในวันๆนึงบิน4ไฟลท์ 45×4 เท่ากับ 180ใบ และต้องยอมรับว่าบางคนถือกระเป๋าขึ้นเครื่องแล้วยกเองไม่ได้เพราะว่าเกิน 7โล!! ตามกฏของสายการบิน

การยกของหนักแบบนี้ ส่งผลต่อกระทบต่อร่างกายหลักๆเลยคือ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งถ้าพนักงานต้อนรับต้องประสบปัญหานี้มันคือฝันร้ายของพวกเขาเลยนะครับ พูดง่ายๆคือหมดอนาคตในสายอาชีพนี้เลย และที่สำคัญกรณีเกิดความเสียหาย แอร์หรือทางบริษัทต้องมารับผิดชอบในค่าเสียหายอีกเช่นกัน

ในฐานะที่ผมเดินทางด้วยสายการบินบ่อยๆ ผมขอสรุปให้เลยนะครับว่า กระเป๋าสัมภาระ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าภาระ ซึ่งแปลง่ายๆก็คือ สิ่งที่ต้องดูแลหรือรับผิดชอบ

ดังนั้น “อย่าเป็นคนที่ตัดสินตัวเองจากเจตนา แต่ตัดสินคนอื่นจากการกระทำ ใจเขาใจเรา คิดบ้างก็คงดีครับ”

ขอบคุณ ส่องญี่ปุ่น