“น้ำโขงใส” ตะกอนที่หายไป และสัญญาณมรณะ
“น้ำโขงใส” ตะกอนที่หายไป และสัญญาณมรณะ
รูปส่งมาจากริมโขงที่ อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี และปากเซ ลาวใต้ แม่น้ำโขงใสแจ๋ว แต่นี่คือสัญญาณที่ไม่ดีเลย
จากบทความของ Partick McCully อดีตผู้อำนวยการ International Rivers เจ้าของหนังสือ Silenced Rivers ซึ่งเป็นหนังสือเรื่องเขื่อน/นิเวศยาการเมือง ที่ได้รับการอ้างอิงมากที่สุดเล่มหนึ่ง มีเนื้อหาที่ “ตรง” กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับแม่น้ำโขงในเวลานี้มากๆ
1 แม่น้ำทุกสายต่างนำพาตะกอนดินและหินจากที่ๆ แม่น้ำไหลผ่าน แต่อ่างเก็บน้ำของเขื่อนต่างๆ กักเก็บตะกอนเหล่านี้ไว้ส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะตะกอนขนาดใหญ่และกรวด ทำให้แม่น้ำทางตอนล่างของเขื่อนมีอาการ “หิว” ตะกอนเหล่านี้
2 เขื่อนและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ไม่มีช่องระบายตะกอนต่ำ จะกักเก็บตะกอนไว้กว่า90 % หรือบางกรณีอาจถึง 100% ของปริมาณตะกอนที่ไหลเข้ามา
3 แม่น้ำท้ายเขื่อนที่มีลักษณะใส เรียกว่า แม่น้ำที่ “หิว” ซึ่งจะพยายามดึงตะกอนเพื่อเข้ามาเติมเต็ม โดยเป็นตะกอนจากตลิ่งสองฝั่งน้ำ
และจากท้องน้ำ ทำให้เกิดการกัดเซาะท้องน้ำและตลิ่ง และอาจจะยิ่งส่งผลกระทบรุนแรงยิ่งขึ้นทางท้ายน้ำลงไปเรื่อยๆ
4 เมื่อเวลาผ่านไป การกัดกร่อนก็จะนำพาดินและตะกอนออกไปจากท้องน้ำทั้งหมด
ทำให้ท้องน้ำมีลักษณะ “หุ้มเเกราะ” (armoured riverbed) เป็นลำน้ำที่เต็มไปด้วยหิน
5 เมื่อท้องน้ำเปลี่ยนไป ปราศจากก้อนกรวดเล็กๆ ซึ่งเป็นที่วางไข่และหากินของปลาสายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะปลาที่อาศัยอยู่บริเวณท้องน้ำ รวมทั้งหอย และสัตว์น้ำเปลือกแข็งชนิดต่างๆ ซึ่งสัตว์หน้าดินเหล่านี้เป็นอาหารสำคัญของปลาและบรรดานกน้ำ
6 ทางน้ำและร่องน้ำที่เปลี่ยนไป อาจทำให้ลดพื้นที่ซึ่งกรวดจะถูกย่อยสลายเป็นตะกอนให้แก่แม่น้ำอีกด้วย
7 เมื่อเขื่อนปิดลำน้ำ ระยะเวลาราวๆ 1 ทศวรรษ จะพบว่าทำให้ท้องน้ำถูกกัดเซาะลึกหลายเมตร
8 ส่งผลให้ระดับน้ำบาดาลในพื้นที่ตลอดลำน้ำ ลึกลงอีกหลายเมตรเช่นกัน
9 ส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงระดับน้ำในบ่อบาดาล
10 พื้นที่ชุ่มน้ำ wetlands ก็จะกลายเป็นแห้งแล้งไปและพืชพรรณต่างๆ จะขาดน้ำ ตาย!
11 ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งปลูกสร้างสองฟากแม่น้ำ ถนน และตลิ่งคอนกรีต ฯลฯ
12 ในระยะยาว ทางน้ำบริเวณท้ายน้ำจากเขื่อนจะเปลี่ยนสภาพเป็นทางน้ำที่ลึกยิ่งขึ้น
และแคบลง แม่น้ำที่คดเคี้ยว มีเกาะและดอนทราย หาด ต่างๆ หลายช่องทางน้ำ
ก็จะกลายเป็นแม่น้ำเพียงช่องเดียวตรงๆ
13 ส่งผลกระทบต่อพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเช่น กรณีของเขื่อน High Aswan Dam บนแม่น้ำไนล์ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วพัดพาตะกอนมาสู่ท้องทะเลมากถึง 124 ล้านตันต่อปี และนำพาตะกอนสู่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ เป็นบริเวณที่ทำการเกษตรที่สำคัญที่สุดของชาวอียิปต์ แต่เมื่อก่อสร้างเขื่อน ทำให้ตะกอนกว่า 98% ตกอยู่ในอ่างเก็บน้ำของเขื่อน ตะกอนเหล่านี้มีแร่ธาตุสำคัญ อาทิ ซิลิกา อลูเมิเนียม เหล็ก และอื่นๆ ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญของเกษตรกรรมปากแม่น้ำ
14 เมื่อขาดแร่ธาตุเหล่านี้ ทำให้เกษตรกรต้องพึ่งพาสารเคมีทางการเกษตรมากขึ้นเรื่อยๆ
นี่คือหนังตัวอย่างเท่านั้น
ผลกระทบข้ามพรมแดนจากสารพัดเขื่อนบนแม่น้ำโขง ยังมีอีกชนิดสาหัสสากรรจ์
บรรดานักสร้างเขื่อน ก่อสร้าง-ขายไฟฟ้า ก็รวยอู้ฟู่กันไป
ลูกหลานแม่น้ำโขงก็รับชะตากรรมกันไป เท่านั้นเอง?
ขอบคุณรูปจาก ไกรศร ใต้โพธิ์
และอ้ายพัน
สนใจอ่านบทความนี้เพิ่ม https://www.internationalrivers.org/dams-and-geology
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10219849864812963&set=pcb.10219849882973417&type=3&theater