"ไร้ค่าสิ้นดี" นักท่องเที่ยวจีนโวย เสียเงิน 6000 มางานลอยกระทง หวังบรรยากาศอลังการ แต่ของจริงยิ่งกว่างานวัด
หลังจากงานลอยกระทงที่ผ่านมา ในปีนี้ (2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนโวย โพสต์ประจานลงโซเชี่ยลกันป่นปี้ ถูกบริษัททัวร์เชียงใหม่ตุ๋นซื้อแพ็คเก็จทัวร์ลอยกระทงและปล่อยโคมลอยที่เชียงใหม่ โฆษณาอย่างหรู จนยอมเสียค่าบัตรอย่างแพง คนละ 3000-6000 ครอบครัวนึงก็หลายหมื่น พอจัดงานจริงๆโคตรทุเรศยิ่งกว่างานวัด ขณะเดียวกันพบคลิปนักท่องเที่ยวจีนนับพันอารมณ์เดือดทวงเงินคืนกลางงาน พร้อมปีนขึ้นเวทีที่มีผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ จนต้องวิ่งหนีกระเจิง
นักท่องเที่ยวชาวจีนรายหนึ่งที่นำเรื่องไปโพสต์ในเว็บไซต์ xiaohongshu.com ได้ระบุว่าเขาจ่ายเงินซื้อแพ็คเก็จทัวร์เข้าร่วมงานดังกล่าวแบบ VIP เนื่องจากหลงเชื่อการโฆษณาของผู้จัดงานว่าภายในงานจะมีการจัดตกแต่งสถานที่อย่างยิ่งใหญ่อลังการ และมีบรรยากาศทั้งการแสดงทางวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ เช่น การจัดกาดหมั้ว การลอยกระทง การปล่อยโคม พร้อมการจัดเลี้ยงอาหาร อย่างครบครัน
อย่างไรก็ตามพบว่าปัญหาเริ่มตั้งแต่การจัดรถรับส่งจากในตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังสถานที่จัดงานที่ชื่อมาลินพาร์ค ในอำเภอสารภี ซึ่งมีการจัดเตรียมรถไว้ไม่เพียงพอกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ซื้อแพ็คเก็จเข้าร่วมงาน ขณะที่เมื่อไปถึงสถานที่จัดงานเวลาประมาณ 16.00 น.พบว่าเป็นเพียงลานโล่งกว้างที่ไม่ได้จัดตกแต่งอะไรมากนัก
โดยการเข้าพื้นที่จัดงานไม่มีระบบตรวจใดๆ เพื่อแยกแยะระหว่างคนที่ซื้อบัตรกับไม่ซื้อบัตรเลย จากนั้นเวลาประมาณ 17.00น.เริ่มให้รับประทานอาหารแบบบุฟเฟต์ ขณะที่เวลาประมาณ 18.00 น.เริ่มให้นักท่องเที่ยวลอยกระทง ในสระน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งน้ำนิ่งทำให้กระทงไม่ลอยไปไหน
โดยช่วงนี้ปรากฏว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวที่เข้าร่วมงานจำนวนมากแสดงความไม่พอใจและเรียกร้องขอเงินคืน เพราะทั้งการจัดงานและระบบบริหารจัดการทำได้แย่มาก ยกตัวอย่างเช่นนักท่องเที่ยวรายนี้ซื้อบัตรแบบVIP แต่กลับไม่มีที่นั่งทว่าว่าการจัดงานยังคงดำเนินต่อไป จนกระทั่งถึงไฮไลต์ของงานที่เป็นการปล่อยโคมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งเป็นไปอย่างสะเปะสะปะ และเกิดไฟไหม้โคมด้วย โดยที่ภาพรวมของงานถือว่าเข้าขั้นเลวร้ายและไม่ใกล้เคียงกับภาพที่มีการโฆษณาไว้เลยหรือเกิดความประทับใจใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีการระบุด้วยว่าเวลากว่า 3 ชั่วโมงในงานนี้ ถือว่าไร้ค่าสิ้นดี
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นอกจากเรื่องราวเลวร้ายดังกล่าวที่นักท่องเที่ยวจีนรายนี้นำไปโพสต์บอกเล่าประสบการณ์แล้ว ขณะเดียวกันพบว่ามีคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในกลุ่มคนทำงานเกี่ยวข้องกับการรับทัวร์นักท่องเที่ยวจีนในจังหวัดเชียงใหม่ระบุว่า เป็นภาพเหตุการณ์ในการจัดงานงานเดียวกันกับที่นักท่องเที่ยวจีนรายนี้นำไปโพสต์ประจาน
โดยในคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นภาพกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากที่ซื้อแพ็คเก็จทัวร์เข้าร่วมงานดังกล่าวอยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียวไม่พอใจที่การจัดงานห่วยเข้าขั้นเลวร้ายและตะโกนขอเงินคืนจากผู้จัดงาน ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนคนหนึ่งไม่พอใจอย่างมากถึงกับปีนขึ้นไปบนเวทีที่กำลังมีพิธีการ และมีผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่อยู่บนเวทีด้วย จนคนที่อยู่บนเวทีต้องวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง
ขณะที่จากการสอบถามผู้ประกอบการเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวรายหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ทั้งเรื่องราวที่นักท่องเที่ยวจีนนำไปโพสต์และคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่กันนั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในช่วงงานยี่เป็งจังหวัดเชียงใหม่ประจำปี 2562 นี้ โดยบริษัททัวร์แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ได้เช่าพื้นที่เอกชนในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานเทศกาลลอยกระทงและปล่อยโคมลอย ขายแพ็คเก็จทัวร์ให้นักท่องเที่ยวชาวจีน ราคาบัตรธรรมดาประมาณ 3,000 บาท และ VIP ประมาณ 6,000 บาท ซึ่งถือว่าราคาค่อนข้างสูง แต่ปรากฏว่าเมื่อจัดงานจริงกลับจัดได้อย่างย่ำแย่ ไม่ใกล้เคียงกับที่มีการโฆษณาไว้เลย จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่จ่ายเงินไปไม่พอใจอย่างมาก
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นั้น ผู้ประกอบการเกี่ยวกับธุรกิจท่องเที่ยวรายเดียวกันนี้ บอกว่า ต้องยอมรับว่าเป็นการทำลายการท่องเที่ยวและชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่อย่างป่นปี้ โดยเฉพาะในตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เกิดจากบริษัททัวร์ที่เห็นแก่ตัวและทำเรื่องแย่เพียงกลุ่มหนึ่ง แต่ทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างไม่อาจปฏิเสธได้
ซึ่งเป็นห่วงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จากเดิมที่ลดลงจากปีละ 5 ล้านคน เหลือปีละ 2-3 ล้านคน ซึ่งจากนี้อาจจะยิ่งลดลงไปอีก ซึ่งอยากเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าควรยื่นมือเข้ามาจัดการแก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก รวมทั้งอยากให้ตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญและการตัดราคาขายทัวร์ด้วย เพราะเท่าที่ทราบบริษัททัวร์รายนี้มีผู้บริหารที่ความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับบริษัททัวร์ในเหตุเรือนักท่องเที่ยวจีนล่มที่ภูเก็ตเมื่อปี 61