ฟาร์มไก่ ปารีณา รุกป่า อดีตเลขาสปก ชี้ผิดกฎหมายป่าไม้ ไม่มีอายุความ
ความเคลื่อนไหวการตรวจสอบที่ดิน 1700 ไร่ ในพื้นที่ ม6 ต รางบัว อ จอมบึง จ ราชบุรี ของ นส ปารีณา ไกรคุปต์ สส ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เมื่อเวลา 11 00 น วันที่ 18 พย ที่กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ผู้สื่อข่าวประจำกระทรวงเกษตรฯได้พบ นส ปารีณา ไกรคุปต์ สส ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เดินทางเข้ามาที่กระทรวง จึงเข้าไปสอบถาม โดย นส ปารีณากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า มาพบนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว เกษตรและสหกรณ์ แต่ยังไม่ได้พบต้องเข้ามาใหม่อีกครั้ง ก่อนจะขึ้นรถยนต์นิสสันมาร์ชสีขาวออกไปทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉลิมชัยได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่สาธารณรัฐประชาชนจีนตั้งแต่วันที่ 15 พย จะกลับ 19 พย เพื่อประสานงานกับทางการจีน สร้างความเชื่อมั่นเปิดตลาดให้กับสินค้าทางการเกษตรโดยเฉพาะยางพาราของไทย ดังนั้น ที่ นส ปารีณาระบุว่า มาพบนายเฉลิมชัยนั้น ตั้งข้อสังเกตได้ว่าเป็นเพียงข้ออ้างหรือไม่
จากนั้นเวลา 13 40 น ร อ ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ให้ น.ส.ปารีณามาพบกับนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ตั้งแต่เวลา 09 00 น. รายละเอียดการหารือหรือพูดคุยยังไม่ได้รับรายงาน ส่วนที่มีข่าวว่า น.ส.ปารีณาจะเช่าที่ดิน ส.ป.ก.ที่ใช้เลี้ยงไก่นั้นคงเช่าไม่ได้ กฎหมายไม่มีระบุไว้เพราะที่ดิน ส ป ก มีวัตถุประสงค์เพื่อคนไม่มีที่ทำกินเท่านั้น คงไม่สามารถปล่อยเช่าได้ สั่งให้สแกนที่ดิน ส ป ก ทั่วประเทศ โดยให้เลขาธิการ ส ป ก ประชุมทางไกลผ่านวิดีโอคอลกับ ส ป ก ทั่วประเทศ
ตอนนี้ต้องนับหนึ่งใหม่ ต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อตรวจสอบว่าที่ดิน ส ป ก ทั่วประเทศ มีจำนวนเท่าไหร่ แต่ละจังหวัดแจกไปแล้วจำนวนเท่าไหร่ ที่ยังมีปัญหามีจำนวนเท่าไหร่ เรื่องนี้ดำเนินการเร็วไม่ได้ ต้องรอบคอบ เมื่อเสร็จแล้วเลขาธิการ ส ป ก จะแถลงข่าวใหญ่ทีเดียวเลย ร อ ธรรมนัสกล่าว
ขณะที่นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส อดีตเลขาธิการ ส ป ก ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่กระทรวงเกษตรฯ ว่า ที่ดินของ นส ปารีณา ครอบครอง 1700 ไร่ เป็นที่ดินที่ไม่เคยทำรังวัดเข้าระบบมาก่อน สมัยตนเป็นเลขาธิการ ส ป ก ช่วงปี 2558 2559 มีที่ดิน ส ป ก ประมาณ 40 ล้านไร่ทั่วประเทศ จัดสรรไปแล้ว 36 ล้านไร่ เหลือที่ยังจัดสรรไม่ได้ 4 ล้านไร่ ในจำนวนนี้มีการรังวัดแล้ว 2 ล้านไร่และทยอยจัดสรร อีก 2 ล้านไร่ยังไม่ได้รังวัด หรือบางส่วนรังวัดแล้วเจ้าของคิดว่าจะได้โฉนดแต่เมื่อถึงเวลาเซ็นมอบที่ดินไม่ได้เป็นโฉนด แต่เป็นเอกสารสิทธิ ส ป ก 4 01 รายละไม่เกิน 50 ไร่ เลยไม่มาเซ็น กรณีของ น.ส.ปารีณาเป็นแบบนี้ ดังนั้น ขณะนี้ยังมีที่ดิน ส ป ก อยู่ 2 ล้านไร่ กระจายทั่วประเทศเป็นของ สส นักการเมืองและผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น โดยในสมัยนายวีรชัย นาควิบูลย์วงศ์ อดีตเลขาฯ ส ป ก ปี 2554 2558 อยากรู้ว่า 2 ล้านไร่ที่ไม่เข้าระบบมีตรงไหนบ้างจึงได้สั่งเอาแผนที่ทั่วประเทศมาต่อกันก็รู้ว่าตรงไหนยังไม่ได้รังวัด
นายสรรเสริญกล่าวอีกว่า ที่ดินของ นส ปารีณา มีข้อมูลว่ายังไม่ได้รังวัดเป็นวงใหญ่ๆประมาณ 1000 ไร่ แต่ที่ตรงนั้นมีถนน ห้วย จึงถูกแบ่งเป็น 3 แปลง แต่ละส่วนไม่เกิน 500 ไร่ สมัยตนเป็นเลขาธิการ ส ป ก ต้องการยึดคืน 2 ล้านไร่ที่ไม่เข้าระบบกลับคืนมาให้รัฐ จึงใช้คำสั่ง คสช ตามมาตรา 44 เรียกผู้ครอบครองมาแสดงตัว ถ้าไม่มีสิทธิ์หรือไม่ถูกต้องยึดคืนเลย และได้นำเรื่องเสนอ พล อ ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้น มีดำริให้ยึดคืนกับที่ดินขนาด 500 ไร่ขึ้นไปก่อน ทำให้ที่ดินของ น.ส.ปารีณาที่แยกเป็น 3 แปลงมีขนาดแปลงละไม่ถึง 500 ไร่ เลยไม่ได้ดำเนินการใช้มาตรา 44 ยึดคืนในตอนนั้น จริงๆแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดกับ ส ป ก จังหวัดต้องรู้หากไม่ช่วยปกปิดว่าที่ดังกล่าวเป็นแปลงเดียวกัน เช่นเดียวกับแปลงของไร่ส้มธนาธร ที่ จ เชียงใหม่ มีแปลงขนาดเล็กๆ 100 200 ไร่ จำนวนมากหลายแปลง เมื่อนำแผนที่มาวางทาบจะเห็นว่าเป็นแปลงเดียวกัน ในขณะนั้นจึงใช้มาตรา 44 ยึดคืนหมด
นายสรรเสริญกล่าวด้วยว่า การที่ น.ส.ปารีณาสารภาพแล้วว่าไม่มีเอกสารสิทธิมีแต่ ภบท 5 ภาษีบำรุงท้องถิ่นหรือภาษีดอกหญ้า ในที่ดิน หมายความว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้แล้ว มีความผิดบุกรุกตามกฎหมายอาญา ซึ่งจะผิดครั้งแรกที่เข้าไป แต่กฎหมายมีอายุความไม่ได้ดำเนินการ พอเข้าไปครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ไม่ผิดแล้ว ขาดอายุความได้ แต่กรณีของ น ส ปารีณา มี พ ร บ ป่าไม้ ประกาศห้ามเข้าครอบครอง บุกรุก กรณีนี้เข้าไปกี่รอบผิดหมดไม่มีอายุความ โทษปรับไม่มี มีแต่จำคุก 7 10 ปี ส่วนที่จะขอเช่าที่ ส.ป.ก.ดำเนินการได้ ตามมาตรา 30 วรรค 6 ของกฎหมาย ส ป ก แต่เช่าได้ไม่เกิน 50 ไร่ แต่ นส ปารีณา มีเป็นพันไร่หากไปแตกหรือแบ่งเป็นรายย่อยจะทำเองไม่ได้ ต้องให้ภาครัฐดำเนินการเท่านั้น
นายสรรเสริญกล่าวว่า ส่วนที่พบเป็นที่ดินถือครองของ สส นักการเมือง ส่วนใหญ่ถือครองลอยๆ ไม่เข้าระบบ เป็นที่รู้กัน หากไม่แสดงตัวแบบ น.ส. ปารีณาก็ไม่ผิด ถ้าผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่รัฐในท้องถิ่นไม่ออกมาบอกก็ไม่รู้ของใคร ก่อนหน้านี้คณะกรรมการกฤษฎีกาเคยทำหนังสือมาถึง สปก ว่าทำไมที่ดิน ส.ป.ก.จึงมีการถือครองเกิน 50 ไร่ ซึ่ง ส ป ก ชี้แจงกลับไปว่าก่อนเป็นที่ของ ส ป ก เป็นที่ของกรมป่าไม้ มาก่อนโดยส่งมอบมาให้จัดสรร พร้อมกับผู้ครอบครองรายเดิม เมื่อ ส ป ก รับมามีผู้ครอบครองมาก่อนก็ไปทำรังวัด ถ้าเป็นผู้ครอบครองรายย่อยก็มาเซ็นรับ เอกสารสิทธิ สปก 4 01 ไป แต่ถ้าเป็นรายใหญ่ก็ไม่ยอมให้ทำรังวัดเมื่อมีการสอบถามไปยังผู้ใหญ่บ้าน ทางผู้ใหญ่บ้านก็บอกชื่อผู้ครอบครองมา แต่เมื่อเจ้าหน้าที่รู้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลก็ถอยไม่ดำเนินการต่อ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ที่ต้องการทำให้ถูกต้อง ขอความร่วมมือจากผู้ใหญ่บ้านทางผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ชี้แจง ไม่ยอมระบุว่าใครเป็นเจ้าของ ส่วนวิธีการยึดคืนที่ของ นส ปารีณา ต้องใช้มาตรา 44 โดยใช้ ภาพถ่ายทางอากาศว่าทั้ง 3 แปลงเป็นแปลงเดียวกัน
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ได้เข้าประชุมร่วมกับเลขาธิการ สปก มีผลสรุป 2 เรื่อง คือ 1 เรื่องแนวเขตที่ดินหากพื้นที่ใดเป็นพื้นที่ทับซ้อนระหว่างที่ป่าไม้กับที่ สปกจะแก้ปัญหาอย่างไร รวมถึงกรณีพื้นที่ที่ทับซ้อนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทช กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พื้นที่ใดมีปัญหา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จะเข้าไปทำรังวัดร่วมกัน รวบรวมข้อมูลเสนอคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ คทช เพื่อหาข้อยุติ และ 2.กรณีที่ดินของ น.ส.ปารีณา ส ป ก มีแนวทางที่จะดำเนินการอยู่แล้วเพราะมีระเบียบชัดเจนเรื่องการถือครองที่ดิน กรมป่าไม้จะไม่เข้าไปยุ่ง หากมีความไม่ชัดเจน เนื่องจากพื้นที่ป่าและพื้นที่ ส ป ก จะต้องมีการนำรังวัดของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สิ่งที่กรมป่าไม้ดำเนินการในขณะนี้คือเตรียมข้อมูลเรื่องแนวเขตป่าไม้ เมื่อทาง ส ป ก พร้อมจะลงพื้นที่เมื่อใดสามารถเข้าไปรังวัดได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ จอมบึง จ ราชบุรีว่า บริเวณหน้าฟาร์มไก่ของ น.ส.ปารีณา พื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง พบว่าฟาร์มไก่ยังไม่ได้ปิด ยังมีคนงานทำงานเข้า-ออกตามปกติ บริเวณด้านหน้าฟาร์มไก่ยังพบป้ายเขียนว่า ซื้อขี้ไก่เชิญด้านบน โดยมีรถบรรทุกขี้ไก่บรรจุถุงปุ๋ยมาจอดไว้บริเวณด้านนอกฟาร์ม แต่ไม่พบป้ายคำว่า พื้นที่ของ ส ป ก คนภายนอกห้ามเข้า ที่ทาง ส ป ก ระบุจะนำไปติดตั้งแต่อย่างใด
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ป ป ช กล่าวถึงกรณี ป ป ช จะลงพื้นที่ จ ราชบุรี ในวันที่ 29 พย เพื่อตรวจสอบการถือครองที่ดิน ภบท 5 และ ส ป ก ของ นส ปารีณาว่าจะไปตรวจสอบความมีอยู่จริงทรัพย์สินของ น.ส.ปารีณาทั้งฟาร์มวัว ฟาร์มไก่ รวมถึงที่ดิน ภบท.5 เพื่อดูว่าสอดคล้องกับบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป ป ช หรือไม่ ส่วนการได้มาของที่ดินต่างๆจะได้โดยชอบหรือไม่นั้น ไม่ใช่หน้าที่ ป ป ช แต่เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เป็นผู้ออกเอกสารสิทธินั้นๆ ป ป ช เพียงแค่ตรวจสอบข้อมูลการยื่นเข้ารับตำแหน่งว่า มีการยื่นเท็จปกปิดหรือไม่เพื่อนำไปเปรียบเทียบตอนพ้นจากตำแหน่งว่า มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติหรือร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ ส่วนนักการเมืองคนอื่นๆที่ครอบครองที่ดิน ภบท 5 หรือ ส ป ก นั้น เบื้องต้น ป ป ช ต้องเก็บรวบรวมข้อมูลอยู่แล้ว โดยเฉพาะรายที่ครอบครองจำนวนมากๆ แล้วเป็นประเด็นทางสังคม ป ป ช ต้องตรวจสอบเผื่อมีเหตุอันสมควรที่นำไปสู่การตรวจสอบเชิงลึก