น้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ กับชีวิตธรรมดา เดินตลาด เล่นน้ำคลอง ในวันที่มีทั้งชื่อเสียง
เรียกได้ว่า นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก น้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ บิวตี้บล็อกเกอร์-อินฟลูเอนเซอร์เซอร์รุ่นจิ๋ว ที่เจ้าตัวมุ่งมั่นด้านการแต่งหน้าจนมีชื่อเสียง แถมยังมีสื่อญี่ปุ่นนำเรื่องราวของน้องเนสตี้ ไปตีข่าวชื่นชมว่าเป็นเน็ตไอดอลน้ำดี อนาคตไกล มีความกตัญญู แถมพอน้องเนสตี้รู้ว่าตัวเองดังไกลถึงญี่ปุ่น ก็ทำให้เจ้าตัวอยากเรียนภาษาเพิ่มมากขึ้น จะได้ไลฟ์ทักทายชาวต่างชาติได้หลายภาษา
และเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 รายการเปอร์-สเปกทีฟ ได้สัมภาษณ์น้องเนสตี้ สไปร์ทซี่ หรือ ดช นิพิฐพงศ์ รักตน และไลฟ์สดผ่าน เฟซบุ๊ก PerspectiveTV บอกเล่าเรื่องราวของบิวตี้บล็อกเกอร์ตัวจิ๋วที่สร้างตัวได้ในเวลาเพียง 1 ปี โดยเงินที่น้องเนสตี้ได้มาจากการไลฟ์แต่งหน้าและรีวิวสินค้านั้น น้องเนสตี้ นำมาสร้างบ้าน ซื้อรถให้ครอบครัว รวมถึงซื้อวัว สร้างคอกวัวให้คุณพ่อ แถมยังบดหญ้าให้วัวกินด้วยตัวเองอีกด้วย เมื่อถามว่าหนูไม่อยากได้ของสวย ๆ งามเหรอ น้องเนสตี้ตอบว่า เวลาไปกรุงเทพฯ ตนจะได้เงินจากแม่มาครั้งละ 2000 บาท สำหรับช้อปปิ้ง ตนก็ใช้เงินตรงนั้น
น้องเนสตี้ เริ่มรู้ตัวเองว่ารักสวยรักงามมาตั้งแต่อนุบาล แต่ตอนนั้นพ่อแม่ยังไม่ยอมรับ และตี ทำโทษ เพราะอยากให้ลูกเป็นเด็กผู้ชาย น้องเนสตี้ได้แต่เก็บความสงสัยว่าทำไมพ่อกับแม่ไม่ให้ตนเป็นตัวของตัวเอง แต่พอช่วงหลัง พ่อกับแม่ก็เริ่มเข้าใจ บวกกับการที่น้องเนสตี้ พิสูจน์ตัวเองให้ครอบครัวเห็น จนสุดท้ายก็ได้เป็นตัวของตัวเองในที่สุด
น้องเนสตี้ เล่าถึงวันแรกที่ไลฟ์แต่งหน้าผ่านเฟซบุ๊ก มีคนดูแค่ 7 คน และมีญาติมาจ้างรีวิวครีม ได้ค่าจ้าง 200 บาท จนมีการแต่งหน้าลุคหรูหราหมาเห่า มีคนดูพุ่งเป็นหลักหมื่น วันต่อมา เป็นวันที่พี่ชายกำลังจะไปเกณฑ์ทหาร น้องเนสตี้ก็เลยจับพี่ชายมาแต่งหน้าลุค แต่งหน้ายังไงไม่ให้ติดทหาร การคิดคอนเทนต์ก็ต้องจับเทรนด์ตามฤดู เช่น ฤดูเกณฑ์ทหาร หลังจากนั้นชีวิตก็เปลี่ยนไป มีคนติดตามหลักแสน และได้ไปเดินแบบ มีคนดูหลักล้าน
เรื่องงาน น้องเนสตี้ ได้คุณแม่ดูแลให้ ส่วนตนเองก็จะเรียนวันจันทร์ ศุกร์ บินไปกรุงเทพฯ เพื่อออกอีเวนต์ทุกอาทิตย์ ตอนที่ไลฟ์แแรก ๆ มีคนด่าเยอะ แต่แม่และพี่ ๆ บอกว่าอย่าไปอ่านคอมเมนต์นั้น น้องเนสตี้ก็ไม่อ่านให้เป็นปมด้อยกับตัวเอง หลังจากนั้น น้องเนสตี้ก็ได้แต่งหน้าให้ เปอร์ สุวิกรม พิธีกรของรายการ และพากันควบซาเล้งไปเล่นน้ำคลอง ตามวิถีชีวิตธรรมดาของน้องเนสตี้
และแม้ว่าชีวิตของน้องเนสตี้ จะต้องมีการทำงานหนักขนาดไหน แต่เจ้าตัวก็ไม่ทิ้งการเรียน โพสต์ภาพผลการเรียนครั้งแรกหลังจากย้ายไปเรียนห้อง MEP ที่มีเกรดเฉลี่ย 3 35
ขอบคุณภาพจาก เนสตี้
ขอบคุณภาพจาก PerspectiveTV
ขอบคุณภาพจาก PerspectiveTV
ขอบคุณภาพจาก PerspectiveTV
ขอบคุณภาพจาก PerspectiveTV
ขอบคุณภาพจาก PerspectiveTV
ขอบคุณภาพจาก PerspectiveTV
ขอบคุณภาพจาก PerspectiveTV
ขอบคุณภาพจาก PerspectiveTV
ขอบคุณภาพจาก PerspectiveTV
ขอบคุณภาพจาก PerspectiveTV