สับสยอง : มิติลี้ลับสัมผัสสยอง
ติเป็นคนขับรถทัวร์ของบริษัทแห่งหนึ่ง ช่วงนั้นมีงานต่อเนื่องเพราะอยู่ในช่วงฤดูหนาว มีคน เช่ารถเยอะกว่าปกติ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ติขับรถพาลูกทัวร์ไปเที่ยวจังหวัดเลยแล้วเกิดเรื่องราวแปลก ๆ ขึ้น
การไปครั้งนั้นมีผู้ร่วมทางราวสามสิบคน แต่คนหนึ่งที่ติจำได้แม่นยำก็คือ ชัย เด็กวัยรุ่นที่มีรอยสักเต็มแขน พอจอดพักรถตามปั๊ม ชัยก็จะมายืนสูบบุหรี่อยู่ใกล้ ๆ ติ ทำให้ได้พูดคุยกันหลายอย่าง ชัยดรอปการเรียนไว้ เพราะเกเร แต่ช่วงที่ไม่ได้เรียนก็ช่วยที่บ้านขายของ ซึ่งเป็นร้านขายของเก่า ทำให้ชัยคุ้นเคยกับของเก่าดี
หลังจากที่ไปถึงจังหวัดเลย ลูกทัวร์ก็พากันไปเดินซื้อของกิน ของฝาก แต่ชัยเดินกลับมาก่อน พร้อมกับมีดเก่า ๆ หนึ่งเล่ม เขารู้สึกถูกชะตาเลยซื้อมาจากร้านขายของมือสองที่วางขายริมถนน เท่าที่ติดูก็พบว่ามีดเล่มนั้น มีรูปร่างคล้ายกับมีดปลายแหลม ตรงกลางจะป่อง คล้ายกับตัวปลาแต่ส่วนปลาย จะโง้งลง และที่ใบมีดมีอักขระบางอย่างเขียนไว้ด้วยสีดำ ที่ดูจางลงแล้ว ติจึงทักไปว่า “มีดหมอผีหรือเปล่า ทำไมมีอักขระด้วย” ชัยส่ายหน้าเพราะไม่รู้ และบอกว่าน่าจะเป็นของเก่า แต่ที่ซื้อเพราะรูปทรงแปลกดี พอคุยกันเสร็จชัยก็เดินเอามีดขึ้นไปเก็บบนรถ จนกระทั่งลูกทัวร์เดินกลับมาถึงรถกันครบแล้ว ติก็ขับรถ ไปโรงแรม
ในคืนนั้นเองที่เกิดเรื่องหลอนขึ้น สำหรับคนขับรถแล้ว เวลาที่ไปจอดค้างที่ไหน ส่วนใหญ่คนขับจะนอนเฝ้ารถ ติเองก็เช่นกัน คืนนั้นตินอนในรถ ขณะที่เอนตัวนอนและดูหนังดู อยู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านหลัง เหมือนเสียงตีเบาะรถดัง ปักปักปัก เหมือนเสียงเฉาะมะพร้าว ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงในหนัง แต่พอปิดเสียงก็ยังได้ยินอยู่ ติหันหลังไปดูภายในรถก็ไม่เจอใคร เลยตัดสินใจลุกขึ้นเดินสำรวจตามที่นั่ง จนเดินไปถึงเบาะนั่งเกือบแถวสุดท้าย ซึ่งเป็นที่นั่งของชัย ก็พบว่ามีดเก่าที่ชัยซื้อมาวางอยู่บนที่นั่ง โดยไม่ได้ห่อหรือใส่ถุงไว้ ติคิดในใจว่า ทำไมไม่เก็บให้ดี ๆ เลยเดินไปหยิบกระดาษหลังสือพิมพ์ท้ายรถมาห่อมีดแล้วเสียบไว้ตรงช่องใส่ของด้านหลังพนักพิง แล้วติก็เดินกลับไปนอนดูหนังต่อ แต่ดูได้ไม่ถึงสิบนาที เสียงปริศนานั้นก็ดังขึ้นอีก ชัยรีบหันไปดู คราวนี้เห็นร่างคล้ายกับผู้หญิง ยืนก้มหน้าอยู่ตรงทางเดินติดกับที่นั่งของชัย ผมเผ้าดูยุ่งเหยิง ห้อยลงมาปิดใบหน้าจนไม่รู้ว่าเป็นใคร แสงในรถสลัว ๆ ติพยามยามเพ่งและตะโกนถามว่า “ใครน่ะ ขึ้นมาในรถได้ไง” แต่ไม่มีเสียงตอบ
ติจึงลุกขึ้นและก้มลงไปหยิบแป๊บเหล็ก เพราะอีกใจก็กลัวว่า จะเป็นโจร แต่พอติหันกลับไปดูอีกที ร่างในแสงสลัวก็หายไปแล้ว ติเปิดไฟจนสว่างทั้งรถ แล้วค่อย ๆ ปลุกเด็กรถให้เดินไปดู พวกเขาทั้งก้มทั้งกวาดตาดู แต่ไม่มีใครเลยสักคน แต่สิ่งที่ทำให้ติประหลาดใจก็คือ มีดเก่าของชัย วางไว้บนเบาะ กระดาษหนังสือพิมพ์หายไปไหนก็ไม่รู้ ติมองดูที่คมมีดก็ตกใจเพราะมีคราบสีแดง คล้ายเลือดติดอยู่ ขณะที่กำลังจะเอื้อมมือหยิบมีด ไฟในรถก็ดับลง
ติและเด็กรถจึงยืนนิ่ง ๆ พอตาปรับสภาพจน สามารถมองเห็นลาง ๆ ติก็ตกใจก้าวถอยหลังจนแทบล้ม เพราะตรงที่นั่ง ที่มีมีดวางอยู่นั้น ดันมีร่างของ ผู้หญิงนั่งอยู่ โดยหันหน้ามามองติ ตรงกลางหน้าผากมีรอยแยกเหมือนถูกผ่าจนถึงหว่างคิ้ว เลือดไหลอาบจนถึงคาง ติรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้น แล้วเปิดประตูลงรถไป โดยที่เด็กรถอีกคน ไม่รู้ และไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
ติวิ่งไปตรงที่มี รปภ.นั่งอยู่ รปภ.ตกใจเพราะเห็นติวิ่งหน้าตาตื่นมา เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น ติตอบสั้น ๆ ว่า “ผีหลอก” ซึ่งตอนนั้น ยังไม่ถึงสี่ทุ่มดี ยังมีลูกทัวร์ ออกมานั่งเล่นที่สวนหย่อมของโรงแรม สักพักเด็กรถก็เดินลงมาแบบงง ๆ
โชคดีมากที่ติเจอกับชัยซึ่งกำลัง ยืนสูบบุหรี่อยู่ ติเลยบอกให้ชัย ไปเอามีดออกจากรถ และให้ใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางของตัวเอง โดยอ้างว่า “เป็นของเก่าหายาก กลัวจะหาย” ชัยเดินไปหยิบมีด ออกจากรถตามที่ติบอก แล้วเอาไปไว้ในห้องพัก
ช่วงแรกที่เอามีดออกจากรถ ติก็ยังไม่กล้ากลับเข้ารถ เขาจึงให้เด็กรถเฝ้าอยู่ในรถแทน เพราะเด็กไม่ได้เห็นอะไร เหมือนที่เขาได้เห็น จนผ่านไปจนถึงห้าทุ่มก็กลับไปนอนในรถอย่างระแวง แต่ติก็หลับได้จนถึงเช้า
จนกระทั่งถึงเวลาที่ลูกทัวร์ต้องออกเดินทาง ติเห็นชัยกับเพื่อนที่นอนด้วยกันเดินมา หน้าตาดูอิดโรยเหมือนไม่ได้นอน เลยทักไปว่า “หลับสบายดีไหม” ชัยส่ายหัวและบอกว่า “ไม่ได้นอนเลยพี่ ผีหลอกทั้งคืน” ว่าแล้วก็เล่าว่า ได้ยินคล้ายเสียงเฉาะมะพร้าวและเห็นผู้หญิงผมยาวหัวแบะ นั่งอยู่ข้าง ๆ มีด ที่หน้าประตู จะออกจากห้องก็ไม่ได้ ทำได้แค่นอนคลุมโปงจนถึงเช้า ติได้ฟังก็หัวเราะ และบอกให้ชัย เอามีดไปถวายวัดใกล้ ๆ โรงแรม เพราะคิดว่ามีดเล่มนั้นต้องมีวิญญาณติดมาด้วย ไม่แน่ว่ามีดเล่มนั้น อาจเป็นมีดที่เคยถูกใช้สับหัวใครมาก่อนก็ได้ หรือมีใครสะกดวิญญาณไว้ก็ไม่รู้ ชัยเห็นด้วยกับความคิดของติ แต่ชัยบอกว่าไม่ทันแล้ว เพราะชัยได้ให้มีดกับ รปภ.ไปแล้ว ซึ่งพอเดินกลับไปหาก็พบว่าออกเวรไปแล้วด้วย
ในวันนั้น ติขับรถพาลูกทัวร์ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อย่างระแวง ช่วงเย็นก็ขับเข้ากรุงเทพฯ โชคดีที่ไม่เกิดเหตุการณ์หลอนขึ้นอีก
ใครที่ชอบซื้อของเก่า ถ้าเห็นมีดปลายแหลมลงอักขระ จะซื้อไว้สะสม ก็ไม่ว่ากัน แต่ระวังจะเจอของดี โดยเฉพาะในตอนกลางคืน