ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร "เหมาเสี่ยวถง" ดาราสาวชื่อดังร่ำไห้ เมื่อถูกพ่อแท้ๆ ที่ทิ้งเธอลงถังขยะตั้งแต่แบเบาะ กลับมาขอค่าเลี้ยงดู 250 ล้านบาท ถ้าไม่ได้ก็พร้อมทำลาย

ในวงการบันเทิง ดาราแต่ละคนมักจะดูดี มีเสน่ห์ มีสง่า แต่ทว่าดาราหลายคนก็มีเบื้องหลังที่แสนเศร้ารันทดยิ่งนัก แถมยังต้องรับแรงกดดันมากมายที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อน คนเราทุกคนล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ หรือความทรงจำในวัยเด็กที่แตกต่างกันไป บางคนสอบได้คะแนนไม่ดีก็โดนพ่อแม่ดุด่า ทำให้ลูกๆเกลียดและเริ่มเกิดต่อต้านพ่อแม่ แต่จะบอกว่าเด็กเหล่านี้ที่มีพ่อแม่ดุด่า เป็นชีวิตที่มีความสุขมาก

แต่ทว่ามีดาราสาวคนหนึ่ง เธอโดนพ่อแท้ๆ นำไปทิ้งลงถังขยะตอนอายุ 1 ขวบ แต่ในปัจจุบันเธอมีชื่อเสียงโด่งดัง พ่อที่เคยทิ้งเธอไปกลับรีบแสดงตัวเพื่อตามเธอ และขอเงินค่าเลี้ยงดูเป็นเงินกว่า 50 ล้านหยวน หรือราวๆ 250 ล้านบาท

ดาราสาวคนนี้มีชื่อว่า เหมาเสี่ยวถง (Rachel Momo) เธอเริ่มเข้าวงการบันเทิง เมื่อปี 2010 ในวัย 22 ปี ในตอนนั้นเธอไม่มีชื่อเสียง แม้ว่าจะมีผลงานบ้าง กระทั่งเธอมีโอกาสได้แสดงในชีวประวัติทีวี ซีรีย์เรื่อง “Empresses in the Palace” (เจิ้นหวน จอมนางคู่แผ่นดิน) ด้วยบทบาทท่าทางที่บริสุทธิ์และสวยงามของเธอในละคร ทำให้เริ่มมีคนรู้จักเธอมากขึ้นและการงานก็รุ่งเรือง มีงานแสดงมากขึ้นและเพราะบุคลิกที่น่ารักหวานแหววของเธอ กลายเป็นที่ชื่นชอบของแฟนคลับเป็นอย่างมาก

เหมาเสี่ยวถง ในตอนนี้กับวัย 31 ปี เป็นดาราสาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีผลงานโดดเด่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ฮิตอย่าง องค์หญิงเว่ยหยาง, เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย, มังกรหยก ศึกเทพอภินิหารจ้าวอินทรีย์ และยังเคยร่วมงานกับ หนุ่ม ไมค์ พิรัชต์ ในซีรีส์เรื่อง หนุ่มหน้าใส หัวใจนักปรุง ซึ่งซีรีส์ออนไลน์เรื่องนี้ก็ยังเป็นการรับบทนำครั้งแรกของเธอด้วย เธอเรียนเต้นรำ และร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก เคยออกประกวดชนะการแข่งขันมากมาย และได้เข้าศึกษาต่อจนสำเร็จที่สถาบันการละครกลาง แห่งปักกิ่งอันโด่งดัง

มีอยู่ครั้งหนึ่งขณะออกรายการกับแม่ เมื่อโดนสัมภาษณ์เกี่ยวกับเบื้องหลังของเธอ ทำให้เธอถึงกับเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ร้องไห้กลางรายการ เธอบอกเพียงว่าตนเองเติบโตมาในครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะพ่อแม่หย่ากันตั้งแต่เธอยังเล็ก เธอกับแม่มีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่มีใครมาก่อกวน

ชีวิตของ เหมาเสี่ยวถง ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่อย่างใด เธอมีครอบครัวที่ไม่ค่อยร่ำรวยนัก และใช้ชีวิตค่อนข้างจะยากลำบาก ซึ่งคนที่ เหมาเสี่ยวถง มักจะกล่าวถึงด้วยความสำนึกในบุญคุณเสมอ ก็คือแม่ของเธอนั่นเอง

ขณะที่ลูกสาวพยายามไต่เต้าในเส้นทางของการเป็นดารา แม่ของเธอต้องทำงานหนักหลายอย่างเพื่อเลี้ยงลูกขึ้นมา ทั้งเคยทำงานในโรงงาน, ขายเสื้อผ้า, และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่ง เหมาเสี่ยวถง ก็มักจะกล่าวถึงแม่ด้วยความรู้สึกตื้นตันเสมอ และบอกอย่างสำนึกบุญคุณว่าจะพยายามดูแล และปกป้องแม่ให้ดีที่สุด

ขณะที่แม่คือคนสำคัญที่สุดในชีวิตของ เหมาเสี่ยวถง แต่พ่อของเธอกลับอยู่ในขั้วตรงกันข้าม เหมาเสี่ยวถง เคยทวีตข้อความขอบคุณแม่ที่เคย "เก็บเธอขึ้นมาจากถังขยะ" ซึ่งคนที่ทิ้งเธอลงไปในนั้นก็คือพ่อที่ไม่อยากได้ลูกสาวนั่นเอง

มีข่าวลือเกี่ยวกับพ่อของเธอมานานหลายปีแล้ว ว่าขาทิ้งเธอกับแม่ไปตั้งแต่ เหมาเสี่ยวถง อายุได้แค่ไม่กี่ขวบ และพยายามกลับเข้ามาในชีวิตเมื่อลูกสาวกลายเป็นดาราที่คนจีนรู้จักกันทั้งประเทศ

เมื่อพิธีกรพูดถึง “พ่อ” จะสังเกตเห็นว่าเธอพยายามหลบตาเหมือนกำลังหนีอะไรบางอย่าง จากนั้นก็พูดว่า “ความจริงพ่อไม่ชอบเด็กผู้หญิง เพราะตอนเธออายุได้เพียง 1 ขวบ พ่อนำเธอไปทิ้งถังขยะ โชคดีที่แม่แอบมาเก็บเธอไปเลี้ยงดู ในตอนนั้นถ้าไม่มีอุ้งมือของแม่คู่นี้ ก็คงไม่มีฉันในวันนี้เช่นกัน” ถึงแม้ว่าพ่อจะทำกับเธอแบบนี้ แต่เธอก็ไม่เคยบ่นด่าพ่อ

พ่อของ เหมาเสี่ยวถง เคยแสดงความไม่พอใจที่ลูกสาวเปลี่ยนชื่อแซ่โดยไม่บอกไม่กล่าวเขาเลย และยังเรียกร้องให้เธอกลับมาใช้สกุลเดิมของตนเอง

แม้ว่าเธอจะไม่คิดเกลียดพ่อ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอให้อภัยต่อการกระทำของพ่อ ครั้งหนึ่งขณะที่พ่อไปออกรายการหนึ่ง เมื่อกำลังอัดเทปบันทึกอยู่นั้น จู่ๆพ่อของเธอก็พูดขึ้นมาว่า "เสี่ยวถงไม่เคยกตัญญูกับตนเองเลย ไม่เคยมาถามทุกข์สุข แม้กระทั่งขอเงินค่าเลี้ยงดู 50 ล้านหยวนก็ยังไม่ให้"..."เธอทำงานหาเงินได้ง่ายก็น่าจะให้ได้"

"ถ้าไม่ให้เงิน เราก็ตกนรกไปด้วยกัน ก็แล้วกัน"

เขายอมรับตรง ๆ ว่าถึงไม่ได้เลี้ยงลูก แต่ก็อ้างว่าในฐานะ "ผู้ให้กำเนิด" ตนเองก็น่าจะได้รับเงินจำนวนดังกล่าวด้วย "ผมควรที่จะได้มีชีวิตที่สุขสบายเหมือนกับแม่ของเธอ ถ้าแม่ของเธอมีบ้านใหญ่อยู่ มีรถหรูนั่ง ผมก็มีสิทธิ์ที่จะได้เหมือนกัน"

แน่นอนว่า เหมาเสี่ยวถง ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้กับพ่อ 50 ล้านหยวน ซึ่งเขาก็ไม่ได้หยุดแค่ในรายการโทรทัศน์ แต่ยังพยายามหาทนายความ และติดต่อกับสื่อ เพื่อฟ้องร้องและทำลายชื่อเสียงของลูกสาว แม้กระแสสังคมของชาวจีนแผ่นดินใหญ่จะกล่าวประนามหยามเหยียดเขา และให้กำลังใจฝ่ายของ เหมาเสี่ยงถง อย่างล้นหลามก็ตาม

เมื่อเทปรายการนี้ออกอากาศไปได้ไม่นาน ก็มีประชาชนจำนวนมากออกมาแสดงความคิดเห็นว่า

 “แม้จะเป็นพ่อแท้ๆ แต่ไม่เคยแม้แต่จะมาดูแลลูกทำหน้าที่พ่อเลย แล้วตอนนี้จะมาเอาค่าเลี้ยงดูได้ไง?”

    “เป็นพ่อที่ใจดำมาก”

    “ยิ่งเห็นแบบนี้ ยิ่งเห็นใจเธอจริงๆ ขอเป็นกำลังใจให้ สู้ๆต่อไป”

Cr : News World.