การพูดตรงไปตรงมา
การพูดตรงไปตรงมา
คือ ไม่อ้อมค้อม ไม่วกวน
พูดเข้าจุด พูดให้เข้าใจง่ายๆ
พูดออกมาจากใจที่คิดอย่างนั้นจริงๆ
ไม่ใช่คิดอย่าง พูดอย่าง
หรือต้องชักแม่น้ำทั้งห้า
จนบางทีคนงง ไขว้เขว
ต้องแปลไทยเป็นไทยหลายชั้น
การพูดจาตรงไปตรงมา
ทำให้ใจตรง ไม่คด
คิดอะไรได้ด้วยหัวที่โปร่งใส
เห็นเป้าหมายได้ชัด เล็งผลลัพธ์ได้แม่น
คุณจะเห็นความจำเป็นของการพูดตรงไปตรงมา
ก็ตอนที่จำเป็นต้องปฏิเสธใคร
ให้เขาเข้าใจดีๆ เข้าใจทันทีว่าคุณไม่เอาด้วย
ไม่ใช่แทงกั๊กให้ความหวังเขา
แล้วต้องโดนตามตื๊อตามทวงไม่เลิกในภายหลัง
หรือตอนที่จำเป็นต้องติใคร
เพื่อให้เขาเห็นข้อบกพร่อง
ฟังแล้วเห็นภาพชัดว่าเสียหายอย่างไร
ควรปรับตัวท่าไหน
ไม่ใช่อ้อมค้อมเสียจนเขานึกว่าชม
แทนที่จะปรับตัว กลายเป็นทำหนักเข้าไปใหญ่
ยิ่งถ้าพูดจาตรงไปตรงมาด้วยอารมณ์เมตตา
ก็ยิ่งทำให้น้ำเสียงละมุน น่าฟัง
ไม่ฟังถากถาง ไม่ดูจงใจทำลายอัตตากัน
ยิ่งฝึกพูดแนวนี้มากขึ้นเท่าไร
ยิ่งเลือกคำได้ฉลาดมากขึ้นเท่านั้น
เห็นได้จากที่คนฟังได้คิดทันที
ไม่ใช่ได้รับความเจ็บปวดทันใด
ไม่ใช่ฝังใจคิดย้อนกลับมาเอาคืนบ้าง
การไม่พูดตรงไปตรงมา
มีสองสาเหตุหลักๆ
หนึ่ง คือ เป็นคนขี้เกรงใจ
ไม่อยากให้คนฟังเจ็บช้ำ
จนกระทั่งไม่พูดสิ่งที่ควรพูดเอาเลย
อันนี้เรียกว่าใจดีแบบไม่ถูกทาง
ไม่ซื่อกับตัวเอง
ทำให้ชีวิตเขาชีวิตเราพร่ามัวขึ้นทุกที
สอง คือ เป็นคนเจ้าเล่ห์
อยากลวงให้คนฟังคิดอย่างที่ตัวเองอยากให้คิด
จนกระทั่งพูดแต่ละที พูดง่ายๆตรงๆไม่ได้
ต้องหาอุบายหลอกล่อ ขุดหลุมพรางดักไว้ก่อนเสมอ
อันนี้เรียกว่าใจร้ายของจริง
ไม่ซื่อกับคนอื่น
ทำให้ชีวิตเขาชีวิตเราคดเคี้ยวขึ้นทุกที
จะพูดไม่ตรงไปตรงมาด้วยเหตุใด
ก็ให้ผลเหมือนกัน
คือ มีชีวิตที่ไม่ตรง
มีความยากลำบากอย่างใดอย่างหนึ่งรออยู่เสมอ
สังเกตง่ายที่สุดจากจิตเบี้ยวๆ ไม่ตรง ไม่ปลอดโปร่ง
เจริญสติให้ทันความจริงเกี่ยวกับใจตัวเองยาก
วิธีที่ดีที่สุด คือ รู้ตัวว่าชีวิตอึดอัดลำบากจากตรงนี้
แล้วคิดเปลี่ยน คิดฝึก คิดพูด
เริ่มจากคำง่ายๆ เช่น ไม่ครับ ไม่เอาค่ะ
อย่างนี้ไม่ดีหรอกนะจ๊ะ เพราะ... ฯลฯ
แล้วบอกตัวเองว่าคำง่ายๆ
ที่เคยพูดไม่ได้ประเภทนี้แหละ
จะเป็นจุดเริ่มต้นให้ชีวิตต่าง
สังเกตเลยว่าถ้าพูดสำเร็จ
จิตจะปลอดโปร่ง คลายความอึดอัด
ต่างจากเดิมเป็นคนละโลก!...