สมบัติผี
ลุงทิเป็นคนลาวในประเทศพม่าที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในประเทศไทยในสมัยที่แกยังเด็กปู่ของลุงทิเล่าให้ฟังว่าห่างออกไปจากหมู่บ้านที่ลุงทิอาศัยอยู่ไม่ไกลนักมีทุ่งกว้างที่ใช้สำหรับเลี้ยงวัวแต่ก่อนที่จะเดินไปถึงทุ่งเลี้ยงวัวต้องเดินผ่านเนินดินเนินหนึ่ง บ่อยครั้งที่คนเลี้ยงวัวเดินผ่านเนินนั้นแล้วมีบางอย่างแปลกๆเกิดขึ้นบางทีก็ได้ยินเสียงจามเสียงไอแต่พอมองดูรอบๆก็ไม่เจอใครเลยสักคนบางทีก็ได้กลิ่นเหมือนมีอะไรเน่าพอเดินสำรวจดูก็ไม่มีอะไรตายและที่เล่นเอาคนเลี้ยงวัวแทบช็อคก็คือในช่วงเย็นวันหนึ่ง หลังจากเลี้ยงวัวเสร็จก็จูงวัวกลับหมู่บ้าน แต่วันนั้นกลับช้ากว่าปกติ
พอไปถึงเนินดินก็เริ่มโพล้เพล้ ขณะที่เดินผ่านก็ได้ยินเสียงผู้ชายแก่หัวเราะตอนนั้นคนเลี้ยงวัวตกใจเลยโพล่งปากออกไปว่า“ใครวะ” พร้อมกับหันไปดูรอบๆแล้วก็ต้องตกใจเพราะเห็นคนแก่นุ่งโสร่งแบบพม่ายืนอยู่ใต้ต้นไม้ ช่วงโพล้เพล้แบบนั้นทำให้เห็นไม่ค่อยชัดคนเลี้ยงวัวเลยเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วก็ต้องชะงักหันหลังวิ่งทิ้งวัวไว้ตรงนั้นเพราะสิ่งที่เห็นใต้ต้นไม้นั้น ไม่ใช่คนแน่ๆ ขาของคนแก่ลอยเหนือพื้นแล้วหายวับไป ต่อหน้าต่อตา พอกลับไปถึงหมู่บ้านก็เล่าสิ่งที่เห็นให้คนอื่นๆฟังจนเรื่องไปเข้าหูโจรซึ่งในสมัยนั้นเวลาฝังศพไว้ที่ไหนญาติมักจะโยนเงินเหรียญหรือของมีค่าใส่ลงไปด้วยถ้าเป็นคนมีฐานะหน่อยก็จะใส่แหวนหรือสร้อยทองลงไปเพราะเชื่อกันว่าจะเป็นเงินเบิกทางไปสู่ภพภูมิใหม่ไม่ให้ดวงวิญญาณมีอุปสรรคขวางกั้นจนเวลาผ่านไปสามวัน
คนเลี้ยงวัวคนเดิมก็จำใจต้องย้อนกลับไปตามหาวัวของตัวเองพอเดินไปถึงเนินดินที่เจอผีคนแก่ก็รีบวิ่งผ่านไปพร้อมกับสอดส่ายสายตามองหาวัวตัวเองแต่ไม่มีวัวอยู่แถวนั้นเลยสักตัวจนวิ่งไปถึงทุ่งหญ้าก็เจอกับวัวของตัวเองยังอยู่ครบหมดคนเลี้ยงวัวดีใจมากเพราะคิดว่าถูกใครขโมยไปแล้วตอนนั้นเพิ่งจะเที่ยงกว่าๆแต่คนเลี้ยงวัวอยากพาวัวกลับไปหมู่บ้านก่อนตั้งใจว่าจะพาไปกินหญ้าที่อื่น จึงได้จูงวัวของตัวเองเดินไปตามทางจนถึงเนินดินที่ถูกผีหลอกวัวดันหยุดเดินคนเลี้ยงวัวพยายามลากแต่วัวก็ไม่ยอมเดิน แถมยังดิ้นจนเชือกหลุดแล้วพากันเดินไปที่ใต้ต้นไม้ คนเลี้ยงวัวเริ่มหงุดหงิดกลัวก็กลัว แต่ทำใจดีสู้เสือเดินตามไปที่ต้นไม้ แต่มีสิ่งที่ผิดปกติเกิดขึ้นอีกแล้วที่ใต้ต้นไม้มีร่องรอยของการขุดดินเป็นแนวยาวรูปสี่เหลี่ยมที่มุมทั้งสี่มีเสาเล็กๆ สั้นๆ ปักอยู่พร้อมกับมีสายสิญจน์ขึงไว้แนบกับพื้นดิน คนเลี้ยงวัวเดาได้ทันทีว่ามีพวกโจรมาแอบขุดหลุมศพ ขโมยของมีค่าไปอีกแน่ๆ
พอเห็นแบบนั้นก็อยากจะออกไปให้พ้นๆ จากตรงนั้นแต่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นอยู่ๆ วัวทั้งหมดก็นอนลงคนเลี้ยงวัวพยายามดันให้ลุกสลับกับตีด้วยไม้หวายแต่วัวก็ยังนอนนิ่งคนเลี้ยงวัวภาวนาในใจว่าขออย่าให้ผีคนแก่ออกมาหลอกอีกเลยหลังจากนั้นไม่ถึงนาทีฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก คนเลี้ยงวัวหันซ้ายแลขวาก็เห็นเพิงเล็กๆอยู่ถัดจากต้นไม้ไปเลยวิ่งเข้าไปหลบฝนตอนนั้นความกลัวผีคลายลง เหลือแต่รอให้ฝนหยุดเท่านั้นฝนตกได้สักพักอากาศก็เย็นคนเลี้ยงวัวเอนตัวลงนอนกอดอกแล้วเผลอหลับไป
จากนั้นก็ฝันเห็นผู้ชายสองคนกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นไม้คนหนึ่งจุดธูปเทียนท่องคาถาอะไรสักอย่างส่วนอีกคนก็ตอกหมุดคล้ายตะปูตัวใหญ่ลงดินแล้วคนที่ท่องคาถาก็ลงมือโยงสายสิญจน์จนครบสี่ด้าน จากนั้นก็ลงมือขุดตรงกลางภาพในฝันนั้นเหมือนจริงมากพอขุดไปสักพักก็เห็นโครงกระดูกชายคนที่ตอกหมุดลงมือคุ้ยเขี่ยดินออกแล้วหยิบเอาหีบๆ หนึ่งขึ้นมาจากหลุมฝังศพพอเปิดดูก็พบว่ามีทองเต็มไปหมดหลังจากนั้นภาพก็เลือนหายไปเหมือนมีหมอกมาปกคลุมพอหมอกจางไปก็เห็นเป็นหน้าของผีคนแก่ หน้าตาดูเศร้า แกพูดเสียงยานๆ ว่า “ช่วยเอาสายสิญจน์ออกจากหลุมฝังศพที ” หลังจากนั้นคนเลี้ยงวัวก็สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงวัวร้อง ตอนนั้นฝนหยุดตกแล้วคนเลี้ยงวัวเลยเดินไปดูวัวว่าเป็นอะไรแต่พอไปดูใกล้ๆก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลยสักอย่างคนเลี้ยงวัวนึกถึงความฝันที่ คนแก่ขอให้เอาสายสิญจน์ออกจากหลุมฝังศพ ตอนแรกก็ลังเลแต่พอคิดๆดูถ้าในความฝันเป็นเรื่องจริงพวกโจรก็ควรได้รับบทเรียนที่มาขโมยของคนอื่น คนเลี้ยงวัวก้มลงแล้วใช้มือดึงสายสิญจน์ออกแล้วงัดหมุดออกทั้งสี่ด้านเท่านั้นล่ะลมเย็นพัดวูบปะทะตัวอย่างแรงแล้วหายไปอย่างเร็วคนเลี้ยงวัวรีบผูกเชือกที่คอวัวแล้วลากออกไปจากตรงนั้นแปลกมากที่วัวไม่เกเรเหมือนก่อนหน้านี้
จนกระทั่งวันรุ่งขึ้นคนเลี้ยงวัวตื่นขึ้นมาก็เห็นทองจำนวนหนึ่งกองอยู่ข้างหมอนพอมองไปที่ประตูก็ตกใจเห็นผีคนแก่ยืนอยู่และยิ้มให้แล้วร่างนั้นก็เลือนหายไปคนเลี้ยงวัวคิดว่าแกคงจะนำทองที่ถูกขโมยไปมาตอบแทนที่ช่วยเอาสายสิญจน์ออกจากหลุมศพให้ แต่ชะตากรรมของโจรที่ไปขโมยทองจากหลุมศพของแกจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้เลย













