เกินไปหรือไม่? จู่ๆถูกเอาป้ายมาติดหน้าบ้านว่าหมากำลังทำลายความสุขของผู้คนในชุมชน
เฟสบุ๊กคุณ Lookpla Suchaya ได้เผยเรื่องราว หลังเธอนั้นได้เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์บูลลี่ และเพิ่งย้ายมาอยู่ในบ้านหลังใหม่และเช่าบ้านเขาอยู่ได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว แต่พอเข้าเดือนที่สองกลับมีป้ายมาติดหน้าบ้านว่าพวกเราผู้คนในชุมชนทนไม่ไหวแล้ว คุณต้องทำอะไรสักอย่าง
โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า ขอระบายความในใจและขอคำแนะนำหน่อยนะคะ คือเราอยู่บ้านเช่า ได้ประมาณ3เดือนค่ะ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เจ้าของบ้านไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องการเลี้ยงน้องๆ เพราะเขาเลี้ยงพิทบูลอยู่เหมือนกัน ซึ่งเดือนแรกไม่มีปัญหาอะไรพอเริ่มเข้าปลายเดือนที่2
น้องเขาเริ่มเห่าอะไรบ้างอย่าง ซึ่งปกติเขาจะไม่ค่อยเห่า จนมาเดือนกันยายน มีคุณป้าข้างบ้านเขามาบอกว่าทนไม่ไหวแล้ว และไปร้องกับเจ้าของบ้านว่าทนเสียงสุนัขเห่าไม่ไหว…จนกะทั่งเราลากลับบ้านและมีข้อความนี้มาติดอยู่ ซึ่งคนดูแลน้องหมาช่วยเขาถ่ายส่งมาให้…
ปรึกษาเจ้าของบ้าน เขาบอกเข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าหากจะอยู่ต่อควรย้ายน้องหมาออกเพื่อลดแรงปะทะ ปรึกษากับพี่เจ้าของฟาร์ม เข้าแนะนำว่าต้องหาสาเหตุการเห่าให้เจอ เพราะปกติบูลลี่จะไม่ค่อยเห่าถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ กับสาเหตุที่ 2 คือน้องๆเขาว่างมาก ไม่มีอะไรทำเลยเห่า
ซึ่งเขาเห่าในบ้านค่ะ แต่เสียงเขาดังมาก เห่าแค่ตัวเดียว อีกอย่างที่พี่เขาแนะนำคือเขาหวงถิ่น ส่วนสุดท้ายที่พี่เขาแนะนำคือเพราะเราไม่ค่อยอยู่บ้านน้องอยู่กันเองไม่มีเวลาอยู่ด้วยทำงานตลอดเวลาค่ ะจะเจอกันเฉพาะช่วงเย็น บางวันกะดึกหน่อย เราควรย้ายน้องๆ เลยหรือค่อยๆหาสาเหตุการเห่าให้เจอดีค่ะ
ด้านชาวเน็ตเองต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น หลายท่านก็บอกว่าต้องหาสาเหตุให้เจอ ปกติแล้วหมามันจะไม่เห่าอะไรมั่วอยู่แล้ว ในบางทีน้องอาจมองเห็นสัตว์หรือตัวอะไรบางอย่าง บ้างก็บอกว่าลองทำผนังเก็บเสียงดูมันจะช่วยลดเสียงได้ดีมากๆ ลงทุนไม่เยอะแต่ช่วยได้จริงๆ บ้างก็บอกว่าถ้าเป็นแบบนี้ควรย้ายบ้าน ใจเขาใจเรา ถ้าจะอยู่กันอย่างมีความสุขเราก็ควรย้ายออกเพราะหมาไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน ดีไม่ดีถ้าเขาทนไม่ไหวหมาเราอาจต้องเสี่ยงกับอันตรายในอนาคตก็ได้นะ เห้อ…เสียงแตกเป็นสองฝ่ายแต่ยังไงแล้วก็ขอเป็นกำลังใจให้นะ ทุกๆอย่างมันมีทางแก้เสมอ