ทำบุญ 9 วัด อยู่ในกรุงเทพก็ทำได้!
วัดที่โด่งดังหลายๆแห่งของกรุงเทพฯ ไม่ใช่แค่เพียงมีไว้เพื่อสักการะทำบุญตักบาตรหรือชื่นชมวัฒนธรรม แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจทางศิลปะอีกด้วย หากใครกำลังหาวัดไปทำบุญหรือถ่ายรูปสวยๆ เชิญทางนี้! BangkokHaps มี 9 วัดฮิตรอบกรุงเทพมานำเสนอจ้า
1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้วที่ทุกคนรู้จักนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๓๒๗ เป็นวัดที่สร้างขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง ตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ เป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาทถือพระพิพัฒน์สัตยา ถือเป็นวัดสำคัญ จึงมีการปฏิสังขรณ์ใหญ่ทุก ๕๐ ปี
เวลาเปิด-ปิด: 08.30 ถึง 16.00 น.
การเดินทาง: เรือด่วนเจ้าพระยา ลงท่าช้าง หรือนั่งรถประจำทาง สาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 39, 43, 44, 53, 59, 64, 80, 82, 91,201, 203 ปอ.501, 503, 508, 512
2. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร (วัดอรุณ)
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร มีเอกลักษณ์อยู่ที่พระปรางค์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พระปรางค์ประดับด้วยเปลือกหอย เครื่องปั้นดินเผาสีสันสวยงาน แถมตรงบริเวณซุ้มประตูทางเข้าพระอุโบสถ ยังมียักษ์วัดแจ้งที่มีชื่อเสียงยืนเฝ้าอยู่ ใครที่อยากมาไหว้พระในกรุงเทพ ห้ามลืมมาเช็คอินชื่นชมความงามของสถาปัตยกรรมจุดนี้เป็นอันขาด แนะนำว่าถ้าอยากมาถ่ายภาพวัดอรุณฯ สวยๆ ต้องมาในตอนเย็น แล้วไปจับจองพื้นที่บริเวณท่าเตียน เพื่อถ่ายรูปพระปรางค์ยามพระอาทิตย์ตกดิน เป็นทัศนียภาพที่สวยงามมากค่ะ ก่อนไปวัดอรุณ อย่าลืมศึกษาเรื่องราว จุดเด่น และมุมถ่ายภาพสวยๆ จากบทความนี้
เวลาเปิด-ปิด: 08.00 – 17.30 น.
การเดินทาง: นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเตียน หรือนั่งรถประจำทาง สาย 19, 57, 83
3. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดโพธิ์ ภายในประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ หรือ พระนอน ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ อีกทั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ทำการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำโลกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากเป็นศูนย์รวมสรรพวิชาหลากหลายแขนง รวมถึงการนวดเพื่อสุขภาพ หรือนวดเพื่อบำบัดอาการเจ็บป่วยต่างๆ ซึ่งชาวต่างชาติที่ มาเที่ยวไทย นิยมมาเรียน และใช้บริการนวด ใครที่รู้สึกปวดเมื่อยหรือต้องการบำบัดอาการเจ็บป่วยต่างๆก็ลองเข้าไปใช้บริการกันดูได้นะคะ
เวลาเปิด-ปิด: 08.00 – 16.00 น.
การเดินทาง: เรือด่วนเจ้าพระยา จะลงท่าเตียน หรือ ท่าช้างก็ได้ หรือนั่งรถประจำทาง สาย 1, 3, 6, 9, 12, 25, 43, 44, 47, 53, 60, 82, 91, 123, ปอ. 501, 508
4. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง)
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร หรือ ภูเขาทอง เรียกได้ว่าเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในกรุงเทพเลยก็ว่าได้ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะและสร้าง พระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง ซึ่งทรงกำหนดให้เป็นพระปรางค์มีฐานย่อมุมไม้สิบสอง แต่สร้างไม่สำเร็จในรัชกาล เมื่อถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ จึงทรงให้เปลี่ยนแบบเป็นภูเขาก่อพระเจดีย์ไว้บนยอด การก่อสร้างแล้วเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระเจดีย์บนยอดพระบรมบรรพตเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุมาแต่ครั้งนั้น เพื่อจะขึ้นไปด้านบนเจดีย์เราต้องปีนขึ้นบันไดถึง 318 ขั้นถึงจะเจอวิวที่สวยงามของกรุงเทพฯ ฝั่งพระนครในแบบพาโนรามา สวยงามมากค่ะ แอดมินแนะนำให้มาช่วงเย็นๆ ของวัน เพราะว่าไฮไลท์อยู่ที่การเดินบันไดขึ้นไปบนภูเขาทอง ถ้ามาตอนแดดเปรี้ยงๆเดี๋ยวจะหน้ามืดซะก่อน เมื่อขึ้นไปถึงก็จะได้สักการะพระธาตุ พร้อมกับชมวิวสวยๆของกรุงเทพฯโดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตกดิน สวยจนลืมหายใจกันเลยทีเดียว
เวลาเปิด-ปิด 08.00-18.00 น.
การเดินทาง : เราแนะนำให้นั่งรถตุ๊กๆ หรือแท็กซี่ แต่ถ้ามาทางเรือโดยสารคลองแสนแสบ สามารถลงที่ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ แล้วเดินต่อมายังวัดสระเกศ ประมาณ 5 นาที หรืออาจจะนั่งรถประจำทาง สาย 8, 15, 37, 47, 49 ก็ได้นะคะ
5. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
เจ้าพระยานิกรบดินทรทรงสร้างพระราชทาน ทั้งพระวิหารหลวงและพระประธานสำหรับพระวิหารหลวง คือ หลวงพ่อโตหรือพระพุทธไตรรัตนนายก ซึ่งหลวงพ่อโต เป็นที่เคารพสักการะ อย่างสูงโดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน และพากันเรียกขานท่านว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง หอระฆังที่เพิ่งสร้างใหม่ ตรงกลางระหว่างวิหารเล็กและพระอุโบสถหน้าวิหารหลวงเป็นที่เก็บระฆังยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดของไทย ภายในพระอุโบสถ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าพระวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ (ป่าเลไลย์) โดยรัชกาลที่ 3 ทรงสร้างพระราชทาน ทั้งยังถือเป็น 1 ใน 2 วัดของประเทศไทยที่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง แสดงพุทธประวัติและวิถีชีวิตชาวบ้านชาวเมืองในสมัยรัชกาลที่ 3 มีหอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรติ เป็นที่เก็บพระไตรปิฎกสมัยรัชกาลที่ 4 อีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: 06.00 – 18.00 น.
การเดินทาง: นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเตียนหรือนั่งรถประจำทาง สาย 149, 40, 50 ปอ. 177
6. วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร
วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร อยู่ใกล้กับตลาดวังหลังมีของซื้อของขายเพียบ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของกิน และอีกมากมาย โดยวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยรัชกาลที่ 1 ได้มีการขุดพบระฆังโบราณในเขตวัด ทำให้ประชาชนพากันเรียกว่า วัดระฆัง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สำหรับตัวระฆังที่ขุดพบนั้น สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระแก้ว และทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างชดเชยให้วัดระฆังใหม่ 5 ลูก
เวลาเปิด-ปิด: 08.00-16.00 น.
การเดินทาง: นั่งเรือข้ามฟากจากท่าเตียน หรือถ้ามาจากวัดอรุณฯ หรือนั่งรถประจำทาง สาย 19, 57, 83
7. วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
เป็นวัดเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยวัดนี้มีความเชื่อกันว่าถ้าเราต้องการชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง การไปไหว้พระที่วัดชนะสงครามก็จะเสริมความเป็นสิริมงคลให้เราสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตได้ วัดนี้ถือเป็นศูนย์กลางของชาวมอญโดยมอบเป็นรางวัลให้หลังจากช่วยไทยรบชนะพม่า วัดศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับถนนข้าวสาร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับบรรยากาศร้านค้าร้านอาหารบาร์และสถานบันเทิงยามค่ำคืนหลังจากทำบุญเสร็จแล้ว
เวลาเปิด-ปิด : 08.30-15.30 น.
การเดินทาง : นั่งเรือด่วนเจ้าพระยา ลงท่าพระอาทิตย์ หรือนั่งรถประจำทาง สาย 3, 6, 9, 15, 30, 32, 33, 43, 53, 64, 65, 82, 123, ปอ.6, ปอ.509
8. วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร
วัดนี้เป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ เมื่อครั้นทรงผนวช รวมถึงยังเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชถึง 4 พระองค์ และยังเป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยมกุฏราชวิทยาลัย ภายในวัดค่อนข้างร่มรื่น และดูสมบูรณ์เนื่องจากได้รับการทะนุบำรุงให้คงสภาพดีอยู่เสมอ ภายในพระอุโบสถ มีพระพุทธชินสีห์ ประดิษฐานเป็นพระประธาน ควรค่าแก่การสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล
เวลาเปิด-ปิด: 08.30-17.00 น.
การเดินทาง: สามารถเดินจากถนนข้าวสารได้ภายใน 10 นาที หรือนั่งรถประจำทาง สาย 12,15, 56, 68, ปอ.511
9. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
วัดเก่าแก่ใจกลางกรุงเทพอย่าง วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ตัวโบสถ์เต็มไปด้วยความสวยงามพร้อมหลังคาภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามและแผงประตูไม้สักแกะสลักอย่างประณีต การก่อสร้างของวัดเริ่มจากรัชกาลที่ 1 ต้องการปกป้องพระพุทธรูปสำริดสมัยศตวรรษที่ 13 ซึ่งขนส่งมาทางเรือจาก สุโขทัย และในที่สุดก็เสร็จสมบูรณ์ในช่วงรัชสมัยของรัชกาลที่ 3 ที่นี่เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ของรัชกาลที่ 8 ทุกปีในวันที่ 9 มิถุนายนผู้คนจะรวมตัวกันทำบุญถวายแด่ท่าน ภายในพระอุโบสถของวัดประกอบด้วยพระพุฒาไตรเชษฐ์และจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามมากมาย อุโบสถนี้มีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทยโดยใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 10 ปี การมากราบไหว้ขอพรที่คนไทยยึดถือกันก็คือ เพื่อการมีวิสัยทัศน์กว้างไกล ซึ่งบริเวณหน้าวัดยังเป็นที่ตั้งของ เสาชิงช้า แลนด์มาร์คสำคัญที่คนไทย และชาวต่างชาติที่มาเที่ยวไทย ต่างต้องมาถ่ายรูปเช็คอินกันที่นี่ค่ะ นอกจากนี้บริเวณใกล้ๆ ยังเป็นแหล่งรวมของอร่อยต่างๆ ไว้มากมาอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: 08.00-16.00 น.
การเดินทาง: สามารถนั่งรถตุ๊กๆ แท็กซี่ หรือนั่งรถประจำทาง สาย 10, 12, 15, 19, 35, 42, 48, 73, 96
และแล้วก็มาถึงท้ายบทความ เป็นยังไงบ้างกับวัดแต่ละที่ที่เราแนะนำกันไป ตัดสินใจกันได้รึยังว่าอยากจะไปเที่ยววัดไหนหรือไปวัดไหนมาแล้วบ้าง ชอบที่ไหนเป็นพิเศษมั้ยคะ คุณสามารถติดตามบทความอื่นๆ ได้ที่นี่ และอย่าลืมกดติดตามเฟสบุ๊คของเราเพื่อที่จะไม่พลาดรีวิวแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมชั่น และข่าวสารต่างๆที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ สำหรับปฏิทินกิจกรรมต่างๆ และข้อมูลสถานที่ ติดตามได้ที่ www.BangkokHaps.com