เมื่อขึ้นไปอยู่บนเมฆได้ ก็อาจกระจายไปทั่วโลก
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2019 ทีมนักวิจัยขององค์กรสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ได้เผยแพร่รายงานล่าสุด ที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกทราบว่า ขณะนี้ “พลาสติกได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมโลกไปแล้ว”
โดยพวกเขาได้รวบรวมตัวอย่างน้ำฝนจากทั่วรัฐโคโลราโดเพื่อทำการศึกษามลพิษ จากนั้นจึงนำมาวิเคราะห์และส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ จนพบว่า “กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของตัวอย่างน้ำฝน มีเส้นใยพลาสติกหลากสีสันและเม็ดบีดส์พลาสติกอยู่ในนั้น”
“พลาสติกส่วนใหญ่ที่พบในตัวอย่าง เป็นเส้นใยพลาสติกขนาดเล็กที่ต้องใช้กำลังขยายกว่า 40 เท่า จึงจะเห็นได้ ซึ่งหนึ่งในตัวอย่างน้ำฝนที่ทำให้เราทึ่งสุด ๆ คือตัวอย่างจากน้ำฝนบนเทือกเขาร็อกกี้ (Rocky Mountain) ที่ระดับความสูง 3,159 เมตร เราคิดไม่ถึงเลยว่า ด้วยความสูงระดับดังกล่าว จะพบไมโครพลาสติกมากมายขนาดนี้
นี่จึงทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ปัจจุบันมีพลาสติกปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่มากขนาดไหน ? เพราะการที่พลาสติกเล็ก ๆ จะขึ้นไปบนท้องฟ้าและรวมตัวกับเมฆได้นั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย อีกทั้งหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ น้ำที่ปนเปื้อนก็จะกระจายไปอย่างกว้างขวาง ฝนที่ตกจะมีพลาสติกไปปนเปื้อนกับแหล่งน้ำที่มนุษย์ใช้ดื่มกินทั่วโลก” – เกรกอรี เวเทอร์บี หนึ่งในทีมนักวิจัย USGS กล่าว
และเชื่อหรือไม่ครับว่า ? การค้นพบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะอเมริกา เพราะฝรั่งเศสก็ค้นพบปัญหาสิ่งแวดล้อมแบบนี้เช่นเดียวกัน เมื่อเดือนเมษายน 2019 นักวิจัยฝรั่งเศสได้พบว่า ในทุก ๆ 365 ตารางเมตร บนเทือกเขาพิรินี (Pyrenees) จะพบไมโครพลาสติก 1 ชิ้น ซึ่งเทือกเขาแห่งนี้มีขนาดพื้นที่ 430,000,000 ตารางเมตร
Fact – นักวิจัยจาก WWF พบว่า เฉลี่ยแล้วคนเราจะบริโภคพลาสติกที่มีขนาดเล็กกว่า 1 มิลลิเมตร ประมาณ 5 กรัมต่อสัปดาห์ ซึ่งเป็นปริมาณเทียบเท่ากับบัตรเครดิต 1 ใบ เลยทีเดียว (หากคิดเป็นปีจะเท่ากับ 102,000 ชิ้น หรือ 250 กรัมต่อปีครับ)
Fact 2 – เมื่อปี 1951 หลังจากที่ทีมกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ปฏิบัติภารกิจสำรวจจุดที่ต่ำที่สุดของเปลือกโลก “Deep Challenger” ความลึกราว 10.9 กิโลเมตร พวกเขาก็ได้พบ ขยะกว่า 3,500 ชิ้น กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณนั้น