มะลิ นักศึกษาญี่ปุ่น คลิปขวาง จักรยานยนต์ขี่บนทางเท้า เผยทำมาตลอด 6 ปี ที่อยู่ไทย ทนไม่ได้เห็นคนผิดกฎ เคยโดนทำร้าย 4 ครั้ง ด้าน กทม. จ่อมอบประกาศนียบัตร
จากกรณีโลกโชเชียลแห่ชื่นชมนักศึกษาสาว ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสกลนคร ในการขึ้นไปบอกกล่าว ห้ามปราม ผู้ใช้จักรยานยนต์บนทางเท้าอย่างกล้าหาญ บริเวณแยกลำสาลี บางกะปิ กทม. นักศึกษาคนดังกล่าวแสดงออกถึงความมีระเบียบวินัย ต้องการให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกฎหมายจราจร และยึดหลักความถูกต้อง ถือเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม และเป็นที่ชื่นชมอย่างแพร่หลาย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสกลนคร เพื่อขอเข้าสัมภาษณ์นักศึกษาคนดังกล่าว พบว่าเป็นชาวญี่ปุ่น ชื่อคุณเมกุมิ โมริโมโตะ หรือคุณจันทร์ (ชื่อไทย) อายุ 55 ปี ส่วนเพื่อนๆ นักศึกษาเรียกกันในชื่อ มะลิ พื้นเพเป็นคนชนบท อยู่ชานเมืองฮิโรชิมา มีพี่น้องสองคน เดินทางมาอยู่เมืองไทยมาแล้ว 6 ปี คุณเมกุมิ โมริโมโตะ กล่าวว่า ตนหลงรักเมืองไทย ชอบวัฒนธรรมไทย อาหารการกิน และธรรมชาติ ตนเป็นนักศึกษา ปี 1 ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสกลนคร เพราะมหาลัยที่นี่มีสาขาวิชาที่อยากเรียน คือคณะทรัพยากรธรรมชาติ และอุตสาหกรรมเกษตร สาขาอาหารปลอดภัยและโภชนาการ
โดยเหตุดังกล่าวถือเป็นปกติของตน ที่จะทนไม่ได้เมื่อเห็นการทำผิดกฎระเบียบ ในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการใช้ถนน ขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นมาบนทางเท้า ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าผิดกฎ และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ เฉี่ยวชนคนเดินเท้าได้ อดีตตนก็เคยประสบอุบัติเหตุเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จนต้องเข้ารับการตรวจร่างกายอยู่เป็นประจำ ซึ่งวันดังกล่าวตนเดินทางไปรับการตรวจสุขภาพที่กรุงเทพ ขณะที่เดินอยู่บนฟุตปาธ พบรถจักยานยนต์จำนวนมากใช้ฟุตปาธ เป็นเส้นทางสัญจร ตนจึงเข้าไปบอกกล่าวกับคนพวกนั้น ว่าไม่ควรขี่จักรยานยนต์ขึ้นมา และไม่รู้ว่ามีคนถ่ายคลิปดังกล่าวอยู่ ตนก็พูดกับเขาดีๆ ว่า “หยุดค่ะ มันอันตราย ข้างหน้ามีผู้คนเดินสัญจรอยู่เป็นจำนวนมาก เดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุเอาได้” บางคนก็รับฟังและยอมเลี้ยวรถกลับ แต่บางคนก็ต่อว่าฉัน ซึ่งฉันก็จะพยายามพูดกับคนนั้นให้ยอมเข้าใจให้ได้
คุณเมกุมิ บอกอีกว่า ตลอด 6 ปี ที่อยู่ประเทศไทย ตนทำแบบนี้มาเกือบร้อยครั้ง ตนจำได้ว่าเคยโดนผู้ใช้จักรยานยนต์ทำร้ายมา 4 ครั้ง ตนโดนต่อย โดนถีบ แต่ตนไม่ยอม ตนเป็นห่วงคนเดินเท้า ถึงตนจะโดนทำร้ายก็จะไม่ยอมให้เขาผ่านไป ซึ่งทุกครั้งก็จะมีคนไทยเข้ามาช่วย ยอมรับว่าทุกประเทศมีกฎระเบียบ และอาจมีคนฝ่าฝืนเหมือนกัน สำหรับตนแล้วก็ขอเป็นส่วนหนึ่งในการรักษากฎระเบียบที่ดีเอาไว้ โดยยึดเอาประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
ด้าน นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวชื่นชม คุณเมกุมิ ที่ยืนขวางรถจักรยานยนต์ไม่ให้วิ่งบนทางเท้า พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานเพื่อจะมอบประกาศนียบัตรเชิดชูให้กำลังใจในการเป็นตัวอย่างคนทำดีจาก กทม. คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้น่าจะสามารถทำพิธีมอบประกาศนียบัตรเชิดชูให้ ส่วนเรื่องบทลงโทษนั้น แม้จะมีการเพิ่มค่าปรับเป็น 2,000 บาทแล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่เกรงกลัวกฎหมาย ดังนั้น หากยังมีการทำผิดซ้ำ จะปรับเพิ่มค่าปรับจาก 2,000 บาท เป็น 3,000 บาท เพื่อให้ผู้ฝ่าฝืนนั้นหลาบจำ ให้เริ่มตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป