ญี่ปุ่นกลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ ของสหรัฐฯ แทนที่จีนไปแล้ว
เฟซบุ๊กแฟนเพจ Sinthorn เพจที่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนเรื่องหุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุน โดย @MrMessenger แห่ง Pantip ได้รายงานข้อมูลจากเวบไซต์ต่างประเทศ โดยเปิดเผยว่าขณะนี้ ญี่ปุ่น กลายเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ ของ สหรัฐฯ แทนที่จีน ไปแล้ว
โดยรายระเอียดระบุว่า เมื่อเดือนม.ค. ต้นปี 2019 กระทรวงการคลังสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขหนี้ออกมาทะลุ $22 Trillion (22 ล้านล้านดอลลาร์)
ถามว่า หนี้ก้อนนี้เยอะไหม แปลงเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ 682 ล้านล้านบาท หรือ คิดเป็นขนาด 48 เท่า ของขนาด GDP ไทย
เทียบอีกแบบ ถ้าแปลงหนี้สหรัฐฯเป็บแบงก์ 1 ดอลล่าร์ แล้วเอามาเรียงต่อกัน จะสามารถเรียงต่อกันรอบเส้นผ่าศูนย์กลางของโลกได้มากกว่า 80,000 รอบ !!
ซึ่งเหตุผลที่ตัวเลขพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วระยะหลัง สาเหตุมาจากนโยบายการคลัง ที่รัฐบาลของนายโดนัล ทรัมป์ ลดการจัดเก็บภาษี รายได้จึงลดลง รวมทั้งก่อหนี้มากขึ้นเพื่อให้หน่วยงานภาครัฐฯสามารถเปิดบริการต่อไปได้
แต่ที่อยากพูดถึงวันนี้เลยก็คือ สัดส่วนเจ้าหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งวันนี้มันเปลี่ยนไป และส่งสัญญาณอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ
นั้นก็คือ กระทรวงการคลังสหรัฐฯรายงานสัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯแบ่งเป็นรายประเทศ พบว่า เจ้าหนี้รายใหญ่ ไม่ใช่ประเทศจีนอีกต่อไป แต่เป็น "ญี่ปุ่น" โดยถืออยู่ที่ 1.1229 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนมียอดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอยู่ที่ 1.1125 ล้านล้านดอลลาร์
ถามว่า ทำไมญี่ปุ่น ถึงเข้าพันธบัตรสหรัฐฯเยอะขึ้น?
เปล่าเลยครับ เอาจริงๆ นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ญี่ปุ่นลดสัดส่วนการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯมาตลอด โดยเคยขึ้นไปแตะระดับ 1.241 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อปลายปี 2014 เช่นเดียวกันกับ จีน ซึ่งจุดสูงสุดที่เคยถือพันธบัตรสหรัฐฯ คือ เมื่อปลายปี 2013 อยู่ที่ 1.361 ล้านล้านดอลลาร์
แต่เพราะจีน ลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯมาอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว นับตั้งแต่ปี 2015 โดยมาลดอย่างมีนัยยะแทบจะทุกๆเดือนก็ในช่วงปี 2017 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นช่วงสมัยที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคือ นายทรัมป์ พอดิบพอดี
ทำไม 2 ประเทศนี้ ต้องถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ?
ก็เพราะสองประเทศนี้ เป็นคู่ค้าอันดับต้นๆของสหรัฐฯ แถมได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯมาอย่างต่อเนื่อง เรียกว่า เศรษฐกิจมีความผูกพันกับสหรัฐฯมาก ว่าแบบนั้นก็ได้
แล้วทำไมต้องลดการถือในตอนนี้?
สำหรับญี่ปุ่น จริงๆ พอย่างเข้าปี 2019 ก็สะสมพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุน่าจะเป็นเพราะ ยังไม่เป็นเป้าโจมตีใน trade wars ณ ตอนนี้ และมีประเด็นกับคู่ค้ารายอื่นอย่างเกาหลี ทำให้ต้องกลับมากระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯมากขึ้น (หรือเปล่า?)
แต่กับประเทศจีน เหมือนชัดเจนว่า กระบวน De-dollarization หรือ ลดความสำคัญของค่าเงินดอลล่าร์ต่อเศรษฐกิจตัวเองนั้น เป็นกลยุทธ์ระยะยาวที่จีนใช้มาอย่างต่อเนื่องในทุกๆมุมที่จีนคิดออก ไม่ว่าจะ ทำข้อตกลงขายน้ำมันเป็นสกุลหยวน, โครงการ one belt one road, การจัดตั้งธนาคาร AIIB หรือ แม้กระทั้งเอาค่าเงินหยวน เข้าไปคำนวนในตะกร้า SDRs ของ IMF
ทำไมต้องลดความสำคัญของดอลล่าร์ลง?
สัดส่วนการถือครองพันบัตรสหรัฐฯโดยภาคเอกชน เคยพุ่งขึ้นเกิน 100% ของ GDP เมื่อปี 1946 (วิกฤตหลังสงครามโลกครั้งที่ 2) ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักออกมาเตือนว่า สหรัฐฯ ตัวเลขนี้ กำลังจะวิ่งไปถึงจุดนั้นอีกครั้งภายใน 10 ปีข้างหน้าหรืออาจจะเร็วกว่า เพราะ ค่าใช้จ่ายภาครัฐฯ มีแต่จะเพิ่มสูงขึ้นในทุกๆทาง ขณะที่รัฐบาลก็ยังจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดการจัดเก็บภาษี รายได้ก็ลดลงด้วย แปลง่ายๆ คือ มองไม่เห็นว่าว่า สัดส่วนหนี้จะลดลงได้ยังไง และความเสี่ยงเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
สรุปเหตุการณ์นี้ บอกอะไรเรา?
ที่แน่ๆ ญี่ปุ่น ไม่ได้รักสหรัฐฯมากขึ้นนะครับ อย่าไปตีความมุมนั้น และจริงๆ ประเทศแกนหลักของโลก ก็พยายามลดความสัมพันธ์ในเชิงเศรษฐกิจของตัวเองที่ผูกพันกับสหรัฐฯลงมา เพราะนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯในตอนนี้ ไม่เอื้อประโยชน์กับเขา
และเอาจริงๆ เจ้าหนี้รายใหญ่ของสหรัฐฯ ก็คือ คนอเมริกันเอง ที่ถือครองพันธบัตรในสัดส่วน 40% ของสัดส่วนที่ถือครองโดยภาคเอกชน (เจ้าหนี้ต่างประเทศ สัดส่วน 39% และน่าจะลดลงเรื่อยๆ)
จีน กำลังพยายามปรับตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อเศรษฐกิจตัวเอง โดยมองโลกเป็นตลาดใหญ่
ขณะที่สหรัฐฯ กำลังพยายามปรับตัวเอง แต่เพื่อเศรษฐกิจตัวเองไม่ใช่เพื่อโลก...
อำนาจเก่า กำลังถูกท้าท้ายด้วย อำนาจใหม่
ใครจะอยู่ใครจะไปน้อออ?
Source: https://www.cnbc.com/2019/08/15/japan-surpasses-china-as-largest-foreign-holder-of-us-treasurys.html?fbclid=IwAR2BxEv_MqZ3b-q9-oyRiwHsB0gK8lBmbL5ob5lFJ1ZsCFWXkdQMm2PgY0M
https://www.reuters.com/article/us-usa-trade-china-bonds-explainer/explainer-will-china-dump-u-s-bonds-as-a-trade-weapon-not-so-fast-idUSKCN1SY0BS?fbclid=IwAR0B-eHVcDw5jR_X39cZYRxS5Z-yyM0b019SMHN5CiAz0psYaMlUKM8-4Rw
https://www.npr.org/2019/02/13/694199256/u-s-national-debt-hits-22-trillion-a-new-record-thats-predicted-to-fall?fbclid=IwAR3j4UjeTIRZXSici34eJBPhCKitgTqjcksB_zCgDrY743PsyvcAhga-bV0