หนูได้เจอแม่แล้ว! เด็กไทยถูกแม่ทิ้งไว้ที่ รพ.ออสเตรเลีย 14 ปีต่อมาเธอประกาศตามหาแม่
เพจ Poetry of Bitch โพสต์เรื่องราว.....
หนูได้เจอแม่แล้ว!
เด็กไทยถูกแม่ทิ้งไว้ที่ รพ.ออสเตรเลีย
14 ปีต่อมาเธอประกาศตามหาแม่
:
1- กลางปี 2547 “นารี” (นามสมมุติ) สาวไทยวัย 18 ได้ย้ายตามครอบครัวมาอยู่ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย แต่หลังย้ายมาได้เพียง 1 เดือน เธอก็พบว่าตัวเองตั้งท้องมาจากประเทศไทย
2- นารีกลัวมากและไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี เพราะเธอตั้งท้องโดยไม่ได้แต่งงานและไม่มีพ่อเด็ก เธอตัดสินใจเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ไม่บอกใครแม้แต่คนเดียว
3- เมื่อท้องโตขึ้น คนในครอบครัวเห็นเธอดูตัวใหญ่ขึ้น แต่นารีกลบเกลื่อนด้วยการบอกทุกคนว่าเธอทานเยอะจึงน้ำหนักขึ้น
4- 17 มกราคม 2548 นารีปวดท้องคลอดลูกขณะเดินออกไปซื้อของกับยาย เธอจึงรีบปลีกตัวกลับบ้าน แล้วเข้าไปแอบคลอดลูกคนเดียวในห้องนอน
5- นารีพยายามทำทุกอย่างให้เงียบที่สุด โชคดีที่ทารกน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกก็ไม่ส่งเสียงร้องเลย ทำให้เธอสามารถเก็บความลับไว้ได้
6- จากนั้นนารีรอจนทุกคนในบ้านเข้านอน แล้วเอาผ้าขนหนูห่อตัวลูก แอบอุ้มออกมาเรียกแท็กซี่ไปโรงพยาบาล คนขับเห็นสภาพแล้วสงสาร จึงไม่ได้คิดค่าโดยสาร แถมยังให้เงินนารีมาอีก 20 ดอลลาร์สำหรับซื้อของใช้ให้ลูก
7- ที่โรงพยาบาลลิเวอร์พูล นารีแจ้งโรงพยาบาลด้วยชื่อปลอม และถามหาล่ามที่พูดภาษาไทยได้
8- นารีในชุดนอนนั่งอุ้มลูกอยู่ที่เก้าอี้ในโรงพยาบาลเพื่อรอหมอ จากนั้นเธอวางลูกไว้บนเก้าอี้ และเดินออกจากโรงพยาบาลไปด้วยมือเปล่า ทิ้งลูกน้อยอายุเพียง 8 ชม. ไว้ข้างหลัง
.
ทั้งหมดนี้ถูกบันทึกไว้ได้ด้วยกล้องวิดีโอวงจรปิดภายในโรงพยาบาล
9- นารีกลับบ้านไปนอน เช้าวันรุ่งก็ไปเรียนภาษาที่โรงเรียนสอนภาษาตามปกติ
10- ข่าวเด็กถูกทิ้งที่โรงพยาบาลกลายเป็นข่าวใหญ่ สื่อทุกสื่อนำเสนอข่าวนี้ แน่นอนว่านารีเองก็เห็นข่าว เธอเห็นรูปลูกในหนังสือพิมพ์และแอบตัดรูปเก็บใส่กระเป๋าไว้ดูต่างหน้า และได้แต่ภาวนาให้ลูกมีอนาคตที่ดี
11- ทารกน้อยถูกตั้งชื่อว่า “เจสสิก้า” มีอาสาสมัครรับเธอไปเลี้ยงดูชั่วคราว และหลังจากที่ทุกฝ่ายพยายามตามหาแม่ของเจสสิก้าอยู่นานถึง 5 เดือน แต่ไม่มีใครยอมแสดงตัว แบรดกับแอนนา โบทไรท์ สองสามีภรรยา (สามีเป็นชาวออสเตรเลีย ภรรยาเป็นชาวเอเชีย) ก็ ยื่นเรื่องต่อศาล ขอเจสสิก้ามาเป็นบุตรบุญธรรม
12- 14 ปีผ่านไป เจสสิก้าเติบโตขึ้นเป็นเด็กหญิงวัย 14 ที่ฉลาด รักการเรียนและชอบเล่นกีฬา เธอได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากพ่อแม่บุญธรรม แต่เธอก็ยังอยากจะเจอแม่แท้ ๆ สักครั้ง หลังจากปรึกษาพ่อแม่บุญธรรมแล้วทั้งคู่ยินดีสนับสนุนเธอเต็มที่ เจสสิก้าก็ประกาศตามหาแม่
13- เมษายน 2562 เจสสิก้าไปออกรายการโทรทัศน์ A Current Affairs ช่อง 9 ออสเตรเลีย บอกว่าอยากเจอแม่แท้ ๆ สักครั้ง
.
“หนูอยากเจอแม่ อยากนั่งคุยกับแม่ กอดแม่แน่น ๆ และบอกแม่ว่า แม่ไม่ต้องรู้สึกแย่หรือรู้สึกผิดเลย มันไม่ใช่ความผิดของแม่ หนูเข้าใจดีว่าแม่ต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่าง หรือแม่อาจอยากให้หนูมีชีวิตที่ดีกว่า หนูอยากบอกแม่ว่าตอนนี้หนูมีชีวิตที่ดี หนูอยู่กับครอบครัวที่แสนวิเศษ”
14- เจสสิก้ายังบอกรักแม่ผ่านรายการนี้ด้วย... “หนูรักแม่ ถึงแม้ว่าหนูจะไม่เคยเจอแม่ก็ตาม ขอแค่ให้แม่กล้าพอและเดินออกมาหาหนูสักครั้ง”
15- เรื่องของเจสสิก้าทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ชาวออสเตรเลียทั้งประเทศช่วยกันตามหาแม่ของเธอ ผู้คนทั่วประเทศส่งข้อความมาให้กำลังใจเจสสิก้าอย่างล้นหลาม
16- แน่นอนว่านารีซึ่งยังอยู่ที่ออสเตรเลียก็ได้เห็นข่าวนี้ และเธอรู้ว่านี่คือลูกสาวของเธอ ในที่สุดนารีจึงตัดสินใจติดต่อไปที่รายการ แต่ขอให้ปิดบังชื่อและใบหน้าของเธอ
17- “ทุกวันผ่านไปด้วยความรู้สึกผิด ฉันอยากเจอลูกและอยากจะบอกใครสักคนแต่ฉันก็ไม่กล้าพอ คนอาจจะคิดว่าฉันเห็นแก่ตัว แต่ฉันอยากบอกพวกเขาว่า ทุกคนมีเหตุผลเป็นของตัวเอง”
.
นารีให้สัมภาษณ์กับรายการ A Current Affairs อย่างนั้น
18- นารีบอกเหตุผลที่เธอออกมาแสดงตัวว่า เพราะได้ยินประโยคที่ลูกพูดว่า “หนูรักแม่ ไม่สำคัญเลยว่าแม่จะเป็นใครมาจากไหน หนูไม่เคยโกรธและหนูให้อภัยแม่ทุกอย่าง”
19- หลังตรวจดีเอ็นเอและพบว่าตรงกัน ในที่สุดเมื่อวันที่ 12 ส.ค. 62 เจสสิก้าก็ได้เจอแม่ โดยนารีเป็นฝ่ายเดินทางไปหาเจสสิก้าที่บ้าน เธอขอบคุณแบรดกับแอนนาที่เลี้ยงดูลูกสาวของเธออย่างดี
20- ทุกคนสวมกอดกันและร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ เจสสิก้าให้แม่ดูภาพของเธอในวัยเด็ก...
.
ซึ่งเป็นภาพที่แม่ผู้ให้กำเนิดพลาดโอกาสที่จะได้เห็น...อย่างน่าเสียดาย
:
** มีคลิปสัมภาษณ์น้องสั้น ๆ ในคอมเมนท์นะคะ >>> blob:https://www.facebook.com/a73ada86-566a-4e8c-8fdd-28d3bdf3b4ea
แหล่งที่มา: https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1312655738937656&id=1093222840880948&__tn__=K-R