จากผู้ลี้ภัยกลายเป็น "ราชินี" ที่สวยที่สุดในโลก อ่อนโยนสวยสง่า จนได้ฉายา "ไดอาน่าแห่งโลกอาหรับ"
ในตะวันออกกลางมีผู้หญิงที่มีอิทธิพลคนหนึ่งที่เกิดมาในครอบครัวผู้ลี้ภัย แต่ประสบความสำเร็จได้รับหัวใจของเจ้าชาย และกลายเป็นเจ้าหญิง เธอได้รับการยกย่องว่าเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุดในโลก จากการสำรวจทุกราชวงศ์ในโลก และถูกขนานนามว่า "เจ้าหญิงไดอาน่าแห่งโลกอาหรับ"
เธอได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 30 ผู้หญิงที่สร้างแรงบันดาลใจมากที่สุดใน US Forbes เธอได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Time ของสหรัฐอเมริกา และได้รับความนิยมจากทั่วโลกด้วยความงามและอาชีพของเธอ
เธอคือราชินีที่อายุน้อยที่สุดในโลก Rania Abdullah ใบหน้างดงาม แต่งตัวตามแฟชั่น สง่างามมีน้ำใจ นำบรรยากาศใหม่ๆ มาสู่ราชวงศ์จอร์แดน
บางครั้งก็สวมชุดสีแดงสุดฮอต แสนสะดุดตา
การสวมเสื้อเดรส ที่ทำให้เธอดูสง่างามและนำสมัย
ปีนี้ Rania อายุเกือบ 50 ปี เธอเกิดมาในครอบครัวแพทย์สามัญชนเชื้อสายปาเลสไตน์ และเติบโตขึ้นมาในคูเวตตั้งแต่เริ่มสงคราม Rania มาที่จอร์แดนพร้อมครอบครัวของเธอ
แม้ว่าเธอจะมีใบหน้าสวยงามตามธรรมชาติ ใจดีแถมอบอุ่น แต่กลับไม่เหมือนเด็กสาวทั่วไปที่ฝันอยากเป็นเจ้าหญิง เธออยู่ในโลกแห่งความจริง เธอไปเรียน เข้ามหาวิทยาลัยไคโร เลือกเรียนสายธุรกิจ
Rania ไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับคนในราชวงศ์ แต่ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะจัดให้ทุกอย่าง ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง Rania ได้พบกับอับดุลลาห์นักเรียนจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เธอไม่รู้ว่าผู้ชายแสนฉลาดที่อยู่ตรงหน้าเธอคือเจ้าชาย สองคนตกหลุมรักกันอย่างรวดเร็ว
ในวันที่ 10 เดือนมิถุนายนปี 1993 Rania ในวัย 23 ปีกับเจ้าชายอับดุลลาห์ ก็จูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์
ในเรื่องนี้ Rania เล่าว่า “ตอนเล็กๆ ฉันไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าจะได้แต่งงานกับเจ้าชาย แต่ฉันหวังมาตลอดว่าจะได้เจอผู้ชายที่ใจดี เขาทำให้ความปรารถนาของฉันเป็นจริง”
5 ปีต่อมา กษัตริย์แห่งจอร์แดนสิ้นพระชนม์ เจ้าชายแห่งอับดุลลาห์จึงขึ้นครองราชย์ต่อ Rania ในวัย 28 ปี จึงเปลี่ยนจากผู้ลี้ภัยกลายเป็นราชินี และกลายเป็น “พระราชินีที่เยาว์วัยที่สุดในโลก”
ต่อมา Rania ให้กำเนิดลูกชาย 2 หญิง 2 ซึ่งเธออบรมสั่งสอนด้วยตัวเอง ครอบครัวมีความสุข มีรอยยิ้มเปิดกว้างอยู่เสมอ ความสุขที่สุดบนโลกใบนี้คงจะประมาณนี้เอง
Rania ที่มีชื่อเสียงหลังแต่งงานยิ่งเปล่งประกาย ไม้แขวนเสื้อท่านนี้แสดงเสน่ห์ออกมาในเสื้อผ้าแบบต่างๆ
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ Rania ไม่เคยทำตัวเป็นแค่แจกันดอกไม้ เธอมีส่วนร่วมในการเมืองอย่างแข็งขัน และผ่านทางมูลนิธิจอร์แดนของเธอ เธอเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการทำงานของผู้หญิงและช่วยเริ่มธุรกิจ
ในจอร์แดนมีประเพณีมุสลิมที่ไร้มนุษยธรรม เช่นถ้าผู้หญิงที่สูญเสียความบริสุทธิ์ของเธอก่อนแต่งงานจะถูกตำหนิว่าเป็นเรื่องน่าละอายสำหรับทั้งครอบครัว พ่อและพี่ชายของเธอจะฆ่าเธอเพื่อรักษาชื่อเสียงครอบครัว
แต่ Rania กล้าที่จะทำลายประเพณีนี้ เย้ยหยันในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น และกระตุ้นให้รัฐสภาพิจารณาซ้ำๆ ว่าการล่วงละเมิดผู้หญิงเป็นอาชญากรรมร้ายแรง
เธอยังได้จัดตั้งหน่วยงานเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ถูกทารุณกรรมและทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สิทธิเด็ก เพื่อต่อต้านการปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล เธอไม่กลัวที่จะเข้าร่วมขบวนพาเหรดและนำประชาชนของประเทศให้บริจาคเลือดอย่างแข็งขัน
Rania เดินทางไปเยี่ยมเมืองและหมู่บ้านต่างๆ ของประเทศเพื่อทำความเข้าใจผู้คนในเขตทุรกันดาร และสนับสนุนโครงการไมโครไฟแนนซ์ เธอรับบทบาทเป็นนักกิจกรรมทางสังคมและสนับสนุนอย่างจริงจังในทุกด้านเกี่ยวกับการดูแลเด็ก การต่อต้านการสูบบุหรี่ สิทธิสตรี และการศึกษา
แม้ในการเจรจาทางธุรกิจระดับสูง Rania ก็ยังสามารถแสดงความคิดเห็นของเธอในโลกธุรกิจอย่างสง่างาม ทำให้ผู้คนที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกประทับใจในเสน่ห์ของเธออย่างมาก
หุ้นส่วนของมูลนิธิจอร์แดนซึ่งทำงานกับเธอกล่าวว่า "เธอเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่าย เข้าใจปัญหาที่ผู้คนเผชิญอยู่ เธอเป็นคนจริงใจ ชอบความท้าทายและมีความรู้มาก"
จริงๆ แล้วเมื่อสวมมงกุฎ ก็ต้องแบกรับภาระหนักที่ตามมา ทุกคนเป็นเจ้าของโชคชะตาของตัวเอง พยายามพัฒนาตัวเองให้ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง ตามใดที่คุณเต็มใจที่จะยอมแบกรับ สิ่งที่คุณได้รับก็จะคุ้มค่า
Cr : SaraDee.