ความคืบหน้าอาคารรัฐสภาเเห่งใหม่ของไทย อลังการทรงคุณค่าไม่น้อยหน้าสถาปัตยฯระดับโลก
สมาชิกเฟซบุ๊ก Boonchai Tienwang ได้เผยแพร่ภาพ ความคืบหน้าความอลังการอาคารรัฐสภาเเห่งใหม่ของไทย มีชื่อว่า “สัปปายะสภาสถาน” ด้วยความสวยงามของตัวสถาปัตยกรรมแล้ว ส่งเสริมให้อาคารสัปปายะสภาสถาน เป็นแลนด์มาร์คใหม่ของริมน้ำเจ้าพระยาเลย เทียบเท่าโครงการ MEGA PROJECT แบบ MIX-USED ใหญ่ๆหลายเเห่ง
หากอาคารรัฐสภาแห่งนี้สำเร็จเสร็จลงได้อย่างสมบูรณ์ จะสามารถนำเสนอคุณค่าสูงสุดด้านศิลปวัฒนธรรมและโลกทัศน์ของไทย ที่ไม่น้อยหน้าสถาปัตยกรรมระดับโลกใดๆเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังได้โพสท์ข้อมูลรายละเอียกการก่อสร้างอาคาร สัปปายะสภาสถานระบุว่า
-โหมโรง-
วันเสาร์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ -สัปปายะสภาสถาน- ที่กำลังก่อสร้างกันอยู่อย่างขมักเขม้น
สถาปัตยกรรมแห่งนี้ เป็นงานออกแบบของกลุ่มบริษัทที่นำโดยสถาบันอาศรมศิลป์และสถาปนิกต้นศิลป์ และบริษัทอื่นๆ อีกกว่า 20 แห่ง ซึ่งชนะเลิศจากการประกวดแบบระดับประเทศในปี 2553 จากผู้เข้าร่วมทั้งหมด 133 ชิ้น ซึ่งนับเป็นปรากฎการณ์ไม่บ่อยครั้งนัก ในแวดวงอาคารของรัฐไทยที่ได้งานมาด้วยวิธีนี้
อาคารพื้นที่ 424,000 ตร.ม. สูง 11 ชั้น ยาว 500 เมตร บนที่ดินเกือบ 120 ไร่ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
แบบที่ชนะเลิศที่กำลังก่อสร้างนี้ ได้นำเสนอสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อประกอบกรรมดี โดยใช้ความคิดด้านศาสนา เรื่องไตรภูมิ อันเป็นความเชื่อเรื่องสันฐานของโลก ที่เข้ามากำกับ ความสัมพันธ์ระหว่างโลกมนุษย์ + สวรรค์ + นรก อันมีเขาพระสุเมรุ อยู่ตรงกลาง มาใช้จัดวางผังอาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นอาคารที่มีรูปแบบการใช้งานที่สลับซับซ้อนอย่างยิ่ง ทั้งห้องประชุมสส. และ สว., สำนักงาน, ศูนย์ประชุม, พิพิธภัณฑ์, ศูนย์กีฬา, โรงอาหาร หรือแม้กระทั่งโรงพิมพ์ ฯลฯ เข้าด้วยกัน โดยต้องจัดลำดับชั้นด้านระบบรักษาความปลอดภัยภายในอาคารขั้นสูงสุด
:::งานออกแบบและก่อสร้าง:::
สถาปนิกที่เคยทำงานจัดวางผังโครงการมาก่อน คงทราบกันดีว่า แค่ต้องจัดวางรูปแบบการใช้งานที่สลับซับซ้อนทั้งหมดนี้ เข้าด้วยกันเพื่อให้ใช้งานได้อย่างดี, สอดคล้องกับงานวิศวกรรม และถูกต้องตามกฎหมาย ก็นับว่าหนักหนาสาหัสแล้ว แต่ทั้งหมดนี้ ยังต้องผสมผสานฉันทลักษณ์สถาปัตยกรรมไทยแบบกึ่งประเพณี กึ่งสมัยใหม่ เข้าไปอย่างกลมกล่อม และตอบโจทย์ความเป็นอาคารกึ่งสาธารณะให้ประชาชนทั่วไป ให้เข้าถึงส่วนสำคัญๆ ของอาคาร และริมฝั่งแม่น้ำได้ ตามระบอบประชาธิปไตยสากลด้วยนั้น คงมีเพียงเป็นสุดยอดฝีมือระดับสูงสุดของวงการเท่านั้น ถึงจะทำได้แบบนี้
คุณ วิโรจน์ เทศน์สาลี @wirote tessalee หัวหน้าสถาปนิกที่ดูแลงานเขียนแบบและก่อสร้าง ของสัปปายะสภาสถาน พร้อมทีมงานก่อสร้างของชิโนไทย ได้พาเราไปเยี่ยมชมในจุดสำคัญๆ ของโครงการ ตั้งแต่ชั้นใต้ดิน ไปจนถึงชั้นบนสุดของอาคาร อันเป็นที่ตั้งของเครื่องยอดสถาปัตยกรรมแบบไทยประเพณี สูง 81 เมตร ที่เสียดแทงขึ้นไปกินอากาศได้อย่างสง่างาม สมกับอุดมคติของโครงการ ที่กล่าวไว้ว่า “บังอบาย-เบิกฟ้า-ฝึกฟื้น-ใจเมือง”
Hilight อย่างแท้จริงของการเยี่ยมชมครั้งนี้ คงไม่พ้นห้องประชุมจันทรา ที่รองรับการประชุมของเหล่าสว. ที่ใกล้จะก่อสร้างเสร็จแล้วนั้น ถูกออกแบบมาในทรงโดมขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 36 เมตร ปิดผิวภายในโดยรอบด้วยไม้สักทำสีฝ้าซีด พร้อมซ่อนไฟด้านหลัง ที่เรืองแสงออกมาราวพระจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญ เห็นแล้ว รู้สึกเหมือนสถาปัตยกรรมกำลังสื่อสารเรื่องวัฎสังสาร การเวียนว่ายตายเกิด ผลลัพธ์ที่ได้น่าอัศจรรย์มาก เห็นแล้วแทบลืมหายใจ ต้องย่นระย่อให้กับความอลังการและพลังแห่งสถาปัตยกรรมเลยทีเดียว
RIVER FRONT - LATE AFTERNOON
แสงพระอาทิตย์ยามเย็นอาบเข้
:::งบประมาณ:::
งบประมาณที่ใช้ก่อสร้างอาคารนี้ทั้งหมด 12,000 ล้านบาท ฟังเผินๆแล้วเหมือนเยอะ แต่ราคานี้รวมงาน ภูมิสถาปัตยกรรม, งานตกแต่งภายในทั้งหมด, เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและ BUILT-IN, เครื่องใช้ไฟฟ้า และระบบแสงสีเสียง ทั้งหมดเอาไว้แล้วชนิดหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย ด้วยสนนราคาต่อพื้นที่ออกมาจะตกอยู่ที่ประมาณ 28,300 บาท / ตารางเมตรเท่านั้น หากใครอยู่ในแวดวงงานก่อสร้าง คงทราบดีว่า ด้วยงบประมาณเท่านี้นั้น จริงๆ แล้วจะก่อสร้างได้แค่คอนโดระดับปานกลาง ที่ไม่รวมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวใดๆ เลยเท่านั้น
การที่ทีมงาน สามารถออกแบบและก่อสร้างอาคารที่เป็นหน้าเป็นตาระดับประเทศ ได้อย่างสง่างาม ด้วยมาตรฐานงานก่อสร้างระดับสูงที่แข็งแรงทนทาน - ให้ใช้งานได้อย่างดีเป็น 100 ปี ด้วยงบประมาณเพียงเท่านี้ ผมคิดว่าเป็นความสามารถในการออกแบบที่ต้องมีความรู้เชิงช่างในระดับปรมาจารย์ที่น่าทึ่งมาก
:::FINAL THOUGHT:::
ผมเคยมีวาสนา ได้เข้าเยี่ยมชมอาคารรัฐสภา มาแล้ว 3 ประเทศ ที่เยอรมัน (Foster&Associates) สกอตแลนด์ (EMBT) และศรีลังกา (โดย Geoffrey Bawa) ผมเชื่อว่าหากรัฐสภาแห่งนี้สำเร็จเสร็จลงได้อย่างสมบูรณ์นั้น จะสามารถนำเสนอคุณค่าสูงสุดด้านศิลปวัฒนธรรมและโลกทัศน์ของไทย ที่ไม่น้อยหน้าสถาปัตยกรรมระดับโลกทั้ง 3 แห่งแต่อย่างใดเลย
ด้วยขนาดของโครงการ 424,000 ตร.ม. สูง 11 ชั้น ทอดตัวยาวกว่า 500 เมตร บนที่ดินประมาณ 120 ไร่ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้การมาเยี่ยมชมงานของผมครั้งนี้ กินเวลาตั้งแต่เช้า จนเสร็จเอาช่วงเย็นย่ำค่ำ พอขับรถกลับถึงบ้านเล่นเอาสลบสไลไม่ได้สติยันสว่าง เหนื่อยข้ามวันข้ามคืน ซึ่งเทียบกันไม่ได้เลยกับทุกฝ่ายที่ต้องลงมือลงแรงในโครงการนี้
สุดท้ายนี้ก็ขอให้กำลังใจกับทีมงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ทั้งทีมงานสถาปนิก, มัณฑนากร, วิศวกร กว่า 200 ชีวิต รวมถึงผู้รับเหมาทั้งหลาย ที่เปรียบเสมือนตัวแทนทั้งสายวิชาชีพ และประชาชนคนไทยจำนวนมาก ในการทำโครงการนี้ให้สำเร็จ โดยส่วนตัวเชื่อว่า รัฐสภาแห่งใหม่จะกลายเป็นหมุดหมายสำคัญด้านสถาปัตยกรรมและงานก่อสร้างระดับประเทศของไทย และเป็นที่กล่าวขานไปอีกหลายชั่วอายุคน
:::Note:::
รูปถ่ายทั้งหมด ยกเว้นที่ระบุไว้ โดย boonchai tienwang
เครื่องยอดสูงสุดของอาคาร 81 เมตร ที่จะเป็นที่ประดิษฐานของพร
เครื่องยอดทางสถาปัตยกรรม -หยดน้ำค้าง-
โถงพิพิธภัณฑ์ชาติไทย - โถงสูง 7 ชั้น อยู่ตรงกลาง main hall ในบริเวณชั้น Ground นี้ ทีมงานสถาปนิกออกแบบไว้ให้ส
ห้องประชุมจันทรา-สว ห้องประชุมจันทรา ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 36 เมตร สูงประมาณ 30 เมตรเปลือกภายในของห้องประชุมถู
ห้องประชุมจันทรา ห้องประชุมจันทรา ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 36 เมตร รองรับการประชุมของ สว. จำนวน 250 คน photo by -Kwan
ห้องประชุมจันทรา แผ่น acoustic ไม้สักแต่ละแผู่น จะถูกจัดเรียงเป็นชั้นๆ แต่ละชั้นมีขนาดไม่เท่ากัน โดยจะค่อยๆ ลดหลั่นลงมาจากยอดโดม เพื่อให้สอดคล้องกับสันฐานท
ห้องประชุมจันทรา- แผ่น acoustic ไม้สักแต่ละแผู่น จะถูกจัดเรียงเป็นชั้นๆ แต่ละชั้น จะมีขนาดที่ค่อยๆ ลดหลั่นลงมาจากยอดโดม เพื่อให้สอดคล้องกับสันฐานท
ห้องประชุมสุริยัน-สส.ห้องประชุมสุริยัน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 50 เมตร ถูกออกแบบให้โดดเด่นแตกต่าง
ห้องประชุมสุริยัน-สส.วัสดุปิดผิวจะแสดงผิวลวดลาย
กลุ่มสถาปนิกและทีมงานที่เข
:::OVERALL PLANNING::: ภาพถ่ายจากมุมสูง ทำให้เห็นลักษณะการจัดวางผั
::ZOOM IN PLANNING:::การจัดวางผังในรูปแบบสมมาตร
FB Skyline Thailand