ผวา! พี่สาวเผย วิญญาณน้องกร เคาะฝาบ้านลาครอบครัวคืนก่อนรู้ข่าวเศร้า
วันนี้ 19 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้องกร หรือ นายพิสิษฐ ขำงิ้ว อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนชื่อดังในจังหวัดนครปฐม ซึ่งนอนไม่รู้สึกตัวอาการโคม่า ที่ห้องผู้ป่วยหนัก ชั้น2 โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม หลังจากถูกรุ่นพี่ได้แอบนัดหมายไปสังสรรค์ แต่กลับมีการจัดการรับน้องเพื่อแลกกับสร้อยข้อมือเลสประจำรุ่น โดยการทดสอบความอดทนของร่างกาย ด้วยการเตะเข้าที่หน้าอก แต่กลับถูกเตะจนทำให้หมดสติ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อปฐมพยาบาลตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่าน กระทั่งร่างกายของน้องกร ไม่สามารถทนกับความบาดเจ็บได้ไหวและได้สิ้นลมเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.18 น. ที่ผ่านของเช้าวันนี้
โดยทางครอบครัว ได้นำร่างที่ไร้วิญญาณกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ วัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ท่ามกลางความโศกเศร้าของพ่อแม่ และคนในครอบครัว โดยทุกคนอยู่ในความเงียบสงบและอยู่ในความโศกเศร้า ขณะที่มีการนำพวงหรีดของผู้บริหารการศึกษา ซึ่งเป็นต้นสังกัดที่น้องกรศึกษาอยู่ ซึ่งทางญาติได้กำหนดทำการสวดพระอภิธรรมไว้ 5 คืน
นางสาว เอ(นามสมมติ) พี่สาวของน้องกร บอกว่า ตั้งแต่น้องกรนั้นถูกทำร้ายร่างกายมา นานกว่า 20 วันด้วยอาการหมดสติ สมองบวม กระทั่งเมื่อคืนเวลา ประมาณ 03.30 น. ทีมแพทย์ พยาบาล ได้มามาบอกแม่ที่นอนเฝ้าน้องกร ที่หน้าห้องผู้ป่วยหนักว่า น้องกรมีอาการหัวใจไม่เต้น จึงได้เข้าไปดูอาการ และทีมแพทย์ได้พยายามปั๊มหัวใจเพื่อยื้อชีวิต อยู่นานเกือบ 1 ชั่วโมง แต่น้องกร นั้นร่างกายไม่สามารถทนกับความบาดเจ็บได้ไหวและสิ้นลม เมื่อเวลา 04.18 น. โดยเป็นการต่อสู้มานานหลายวันและไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น
นางสาวเอ (นามสมมติ) บอกอีกว่า วันนี้คดีความเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยังไม่คืบหน้า หน่วยงานก็มีมาดูแลคือจากกระทรวงยุติธรรมและจากผู้ที่มาติดตามเรื่องตั้งแต่แรกเท่านั้น วันนี้คดีความยังไม่ทราบว่ามีอะไรคืบไปไหน ส่วนตัวยังเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะไม่มีคนเดียว หรือก่อเหตุแบบรุมทำร้าย หรืออาจจะมีการเตะหน้าอกตามที่บอก แต่ไม่ได้เตะไป 3 ครั้งตามที่ผู้ต้องหาให้การมา และวอนตำรวจช่วยติดตามเรื่องนี้ให้เร็วมากขึ้นเพราะตอนนี้เรื่องก็ยังเงียบและช้า โดยตอนนี้น้องกร ได้เสียชีวิตแล้วเค้าลุกขึ้นมาพูดเพื่อความถูกต้องไม่ได้ วอนขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวเราด้วย
ทางด้านนางสาวเอ (นามสมมติ) พี่สาวของน้องกร เปิดใจเล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่ม คืนก่อนที่จะได้ยินข่าวว่าน้องอาการแย่ ที่บ้านได้ยินเสียงหมาเห่าตลอด และประกอบกับภายในบ้านได้ยินเสียงแปลกประหลาด หลายครั้ง คล้ายกับคนเดินและเคาะสิ่งของ ซึ่งเป็นนิสัยของน้องกร ที่ชอบแกล้ง ตนเองพยายามตามหาต้นเสียงแล้วแต่ก็ไม่เจอ กระทั่งดูจากกล้องวงจรปิดก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงมีความเชื่อว่าน้องแวะกลับมาที่บ้านเพื่อจะบอกอะไรบางอย่าง
แหล่งที่มา: Cr.pracha manu