"บัตรคนจน" ทำยอดขาย "มาม่า" พุ่งในรอบหลายปี ชี้ ถ้าเศรษฐกิจดีมาม่าก็ขายดี
คงมีคนไม่น้อยที่ชื่นชอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่สะดวกต่อการรับประทาน และมีหลายรสชาติให้เลือกกัน แถมยังมีราคาที่ย่อมเยาว์เริ่มต้นเพียง 5 บาท เท่านั้น ล่าสุด นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 มียอดขายรวมอยู่ที่ 4,600 ล้านบาท เติบโตจากครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมาถึง 11.6% เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากเดิมตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 5%
ปัจจัยหลักมาจาก มาม่า โอเค ซึ่งเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในกลุ่มพรีเมี่ยม ที่มีราคาขาย 15 บาท ที่ออกตลาดเมื่อเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว ได้รับการตอบรับดีมาก
ประกอบกับการมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำให้ผู้บริโภคที่มีบัตรมาใช้ซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันกันมากขึ้น และมาม่า เป็นหนึ่งในสินค้าที่ผู้บริโภคเลือกซื้อ
มาม่า โอเค ที่ออกมา 3 ตัวได้รับการตอบรับดีมาก ทำให้ยอดขายมาม่ารวมเติบโตเกินคาด และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของมาม่าให้เพิ่มขึ้น 3% หรือปัจจุบันอยู่ที่ 51% ถือว่าเป็นการเพิ่มของส่วนแบ่งตลาดที่มากที่สุดเท่าที่มีมา จากปกติมาม่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาเป็นการรักษาส่วนแบ่งตลาดเท่านั้น
พร้อมกันนี้การเติบโตของมาม่ายังส่งผลให้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ครึ่งปีแรกเติบโต 6.5% เป็นการเติบโตที่สูงสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ดังนั้นสิ้นปีนี้มาม่าน่าจะเติบโตได้ 10.5% หรือมียอดขายรวม 10,350 ล้านบาท โดยในครึ่งปีหลังบริษัทจึงรุกตลาดหนักต่อ โดยเน้นการต่อยอดความสำเร็จจากสินค้าเดิมที่ได้รับความนิยม ที่ผ่านมาสินค้าข้าวต้มคัพ รสหมูสับกระเทียมพริกไทย ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และยังได้ขยายโปรดักส์ไลน์ของมาม่า โอเค ที่ได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี จากเดิมที่เป็นซองให้เป็นแบบคัพใหญ่
ทั้งนี้ทางผู้บริหารยังกล่าวอีกว่า มาม่าไม่ใช่ดัชนีผกผันทางเศรษฐกิจอย่างที่คนเข้าใจกัน ซึ่งมาม่าเป็นธุรกิจหนึ่งในยุคเศรษฐกิจขยายตัวดี ยอดขายเลยเติบโตขึ้นมาก แต่ในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดียอดก็ตกลงตามไปด้วย
แหล่งที่มา: https://www.thimnews.com