หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ การเงิน Pic Post แชร์ลิ้ง
 
Page หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype
 
อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่
 
เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ
 
คำนวณ การเงิน ราคา BitCoin/Crypto
 
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
 
Login เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
 
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

คัดจมูก สาเหตุและวิธีรักษาด้วยตัวเอง

บอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้ โพสท์โดย thaihomeonline2017

หลายคนอาจเคยมีอาการคัดจมูก หรือรู้สึกคล้ายมีสิ่งอุดตันอยู่ภายในจมูกจนหายใจไม่สะดวก และบางครั้งก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ซึ่งอาการคัดจมูกนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุรวมทั้งวิธีบรรเทาอาการในเบื้องต้นอาจช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงของอาการนี้ และอาจช่วยให้หาวิธีรับมือกับอาการดังกล่าวได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย

อาการคัดจมูกเกิดจากสาเหตุใดบ้าง ?

อาการคัดจมูกอาจเกิดจากสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้เนื้อเยื่อในจมูกเกิดการอักเสบและระคายเคือง โดยปัจจัยหลัก ๆ ที่พบได้บ่อย มีดังนี้

นอกจากนี้ อาการคัดจมูกยังอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น ต่อมอะดีนอยด์บวม การได้รับบาดเจ็บที่จมูก การสูดดมควันบูหรี่ มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในจมูก มีเนื้องอกที่โพรงจมูกหรือภายในจมูก ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ การตั้งครรภ์ ความเครียด โรคหืด รวมถึงการใช้ยาบางชนิด เป็นต้น

วิธีรับมือเมื่อเกิดอาการคัดจมูก

ผู้ที่มีอาการคัดจมูกสามารถบรรเทาอาการในเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง โดยปฏิบัติตามคำแนะนำต่าง ๆ ดังนี้

นอกจากนี้ หากมีอาการน้ำมูกไหลอย่างต่อเนื่อง และมีอาการจาม คัน หรือน้ำตาไหล อาจรับประทานยาแก้แพ้ที่หาซื้อได้เอง โดยปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด

 

อาการแบบใดที่ควรไปพบแพทย์ ?

แม้อาจบรรเทาอาการคัดจมูกด้วยตนเองในเบื้องต้นได้ แต่ผู้ป่วยก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหากคัดจมูกติดต่อกันเป็นระยะเวลานานกว่า 10 วันโดยไม่ทราบสาเหตุ รวมทั้งหากมีไข้สูง รู้สึกแน่นจมูกเพียงข้างเดียว มีเลือดปนออกมากับน้ำมูก มีน้ำมูกใสหลังจากได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือมีอาการบางอย่างที่อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น มีน้ำมูกสีเหลืองหรือสีเขียวข้นเป็นปริมาณมาก มีไข้ หรือมีอาการปวดบริเวณไซนัส เป็นต้น

ส่วนอาการคัดจมูกในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 เดือน หากพ่อแม่พบว่าลูกน้อยมีอาการคัดจมูก มีไข้ หรือมีน้ำมูกไหลจนอาจส่งผลกระทบต่อการดูดนม หรืออาการเหล่านั้นทำให้เด็กหายใจลำบาก ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์ทันที

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : pobpad.com

ดูบทความดีๆได้ที่ : www.thaihomeonline.com หรือ LINE@ : @thaihomeonline  ครบเครื่องเรื่องบ้าน คอนโด การลงทุน

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 


โพสท์โดย: thaihomeonline2017
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
นักวิทยาศาสตร์เผยค้นพบ ความคิดของเหล่าแมว ว่าจริงๆ แล้วเจ้าเหมียวพวกนี้ คิดว่าเราเป็นตัวอะไรกันแน่!!?ปลงสังขารชีวิต!! ถอดวิก-ลบเมคอัพ 'คุณสุมณี คุณะเกษม' ใช้ชีวิตบั้นปลายในคฤหาสน์สาวกัมพูชา เย้ย โซเชียลไทย ลั่น โง่แล้วอย่าทำตัวฉลาด!?ปีที่ไทยมีหนี้สินมากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศ😁 มาเฮฮาคลายเครียดแบบป่วนๆ ของเหล่าสัตว์เลี้ยงกัน 😆รทสช. เปิดตัว "หมอเหรียญทอง"-"บิ๊กตู่" ลั่น ประเทศไทยไม่ใช่สถานประกอบการจังหวัดเดียวในเขตภาคใต้ที่มีอำเภอเพียงสามอำเภอแทบไม่น่าเชื่อขายสินค้าไม่กี่อย่าง ไม่แตกไลน์ทำอย่างอื่น ใช้แพคเกจจิ้งแบบเดิม แต่กำไรเกือบ 1,200 ล้านบาทมะนาวผลดก กินไม่ทัน เก็บได้ยาวๆ ไม่เน่า!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
การขับเคลื่อนที่ควบคุมพลังงานอันไร้ขอบเขตจากดวงอาทิตย์Sale Page Facebook ดียังไง ทำไมจึงเพิ่มยอดขายแบบก้าวกระโดด?กินผักนี้ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ดีทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพในด้านการคิดวิเคราะห์ Critical Thinking Skill
ตั้งกระทู้ใหม่