เปิด 3 กลุ่มธุรกิจ "เลิกประกอบกิจการ" สูงสุด เดือน พ.ค. 62
SmartSME รายงานจาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย 3 กลุ่มธุรกิจ "เลิกประกอบกิจการ" สูงสุด ในเดือน พ.ค. ปี 62
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้มอบหมายให้ นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือน พฤษภาคม 2562 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ผลการจดทะเบียนธุรกิจธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนพฤษภาคม
- จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในเดือนพฤษภาคม 2562 จำนวน 5,942 ราย เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 5,865 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 77 ราย คิดเป็นร้อยละ 1 และเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2562 จำนวน 5,944 ราย ลดลงจำนวน 2 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.03
ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 530 ราย คิดเป็นร้อยละ 9
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 371 ราย คิดเป็นร้อยละ 6
ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร จำนวน 164 ราย คิดเป็นร้อยละ 3
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนพฤษภาคม
- จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 1,130 ราย เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2562 จำนวน 985 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 145 ราย คิดเป็นร้อยละ 15 และเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2561 จำนวน 1,014 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 116 ราย คิดเป็นร้อยละ 11
ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 136 ราย คิดเป็นร้อยละ 12
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 75 ราย คิดเป็นร้อยละ 7
ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร จำนวน 35 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ
ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนพฤษภาคม
- ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 พ.ค. 62) ธุรกิจที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน739,288 ราย มูลค่าทุน 16.73 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด / ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 186,796 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.27 บริษัทจำกัด จำนวน 551,253 ราย คิดเป็นร้อยละ 74.56 และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,239 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17
เมื่อประเมินจากอัตราการเติบโตของ GDP และแนวโน้มด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตามฤดูกาล (Seasonal Trend) คาดว่า เดือนมิถุนายน 2562 จะมีสถานการณ์การจัดตั้งธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2562 และมียอดสะสมทั้งปี (ม.ค. – มิ.ย. 62) ไม่น้อยกว่า 37,000 ราย