พิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 สมัยสอง
11 มิ.ย. 2562 เวลา 13.33 น. นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อัญเชิญพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี มายังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนอ่านพระบรมราชโองการ ความว่า
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2562 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกที่ทั้งหมดมีอยู่ทั้งสองสภา จึงแต่งตั้งให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
นายชวน หลีกภัย
ประธานสภาผู้แทนราษฎร
พล.อ. ประยุทธ์ได้กล่าวน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แถลงการณ์กับประชาชน โดยระบุตอนหนึ่งว่า จะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ จะเพียรพยายาม มุ่งมั่นทำงาน พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกสาขาอาชีพทุกช่วงวัยในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศในทุกด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็ง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
ด้วยการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเงินการคลัง และเอกชนมีส่วนร่วม ตลอดจน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา ประเทศ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลกยุคดิจิทัลและเทคโนโลยี
จะสร้างสรรค์สังคมให้มีความรักความสามัคคีปรองดอง สมานฉันท์ เกื้อกูลกันในทุกโอกาส" เพื่อความกินดี อยู่ดี และความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน พร้อมจะปกป้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิแห่งสถาบันชาติ ศาสนา ตลอดจนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย
ขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาที่ทำหน้าที่ที่ผ่านมา และขอบคุณพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่สนับสนุน และให้โอกาสได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะเป็นพลังที่คอยเกื้อหนุน และร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาล เพื่อนำพาประเทศไทยของเราให้มีความสงบร่มเย็นมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนตลอดไป