ส่ง"แพทย์กัญชา"ลงทุกจังหวัด พบผู้ป่วยช็อคหลังซื้อน้ำมันกัญชาใช้เอง
จากการเปิดลงทะเบียนกัญชาสำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้กัญชา ในวันที่ 13-21 พฤษภมคม ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้สนใจลงทะเบียนถึง 1.4 แสนราย แต่มีผู้ทำตามขั้นตอนครบ 43,893 เท่านั้น โดย 50% เป็นคนจากกรุงเทพมหานคร
โรคที่มีผู้ลงทะเบียนเป็นอันดับ 1 คือ โรคมะเร็ง อันดับสอง โรคไบโพลาร์ อันดับสาม โรคซึมเศร้า และอันดับสี่ โรคอัลไซเมอร์
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. หนังสือพิมพ์ผู้จัดการมีรายงาน ลูกช็อคหลังจากทดลองใช้น้ำมันกัญชาแทนแม่ ตามข่าวคือแม่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ลูกจึงสั่งซื้อน้ำมันกัญชาทางอินเตอร์เน็ตมาใช้เอง ราคาขวดละ 700 บาท แต่ทดลองใช้เองก่อน ประมาณเที่ยงคืนได้หยดน้ำมันกัญชาใต้ลิ้น 1 หยด และตี 1 ก็มีอาการหัวใจสั่น ปากชา ลิ้นแข็ง ขยับร่างกายไม่ได้จึงนำส่งโรงพยาบาล
และอีกรายงานจากข่าวกรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า ในรอบ 1 เดือน รพ.นพรัตน์รับคนไข้น็อคกัญชา 7 ราย เนื่องจากซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันกัญชามาใช้ด้วยตนเอง ผู้ป่วยมาด้วยอาการน็อคกัญชาวิงเวียน คลื่นไส้ บ้านหมุน ปวดบิดท้อง และมี 1 รายที่ถึงขั้นเป็นอัมพาตครึ่งซีก
ทั้งนี้ แพทย์ได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้แล้วว่า "น้ำมันกัญชา" ยังเป็นเรื่องใหม่ในไทย และในขณะนี้อยู่ในขั้นวิจัยและทดลองใช้ ยังไม่ได้มีการรับรองเป็นยาจาก อย. อย่างเป็นทางการ และยังไม่มีการขึ้นบัญชียาแห่งชาติ
ดังนั้น ไม่ควรซื้อน้ำมันกัญชามาใช้เองโดยไม่อยู่ในความดูแลของแพทย์ อาจมีสารปนเปื้อนที่ทำให้ไม่ปลอดภัยได้
คณะนี้คณะกรรมการแพทย์แผนไทยและสาธารณสุข กำลังร่วมหารือวิธีการสกัดน้ำมันกัญชาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่ออธิบายว่าการสกัดในสารที่ละลายในน้ำ/แอลกอฮอล์ ออกมาได้อย่างไร ปลดภัยหรือไม่
ทั้งนี้ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดอบรมหลักสูตรการใช้กัญชาทางการแพทย์ให้แก่แพทย์และเภสัชกร เมื่อผู้ป่วยพบแพทย์ที่ผ่านการอบรมวินิจฉัยว่า ต้องสั่งจ่ายยากัญชาหรือไม่ โดยมีเภสัชกรเป็นผู้จ่ายตามกฎหมาย การอบรมจะจัดขึ้น 17-18 มิ.ย. นี้ รุ่นแรก จำนวน 250 คน และในปลายเดือน กค เปิดอบรมหลักสูตรสำหรับแพทย์ทีมดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง (Palliative Care) อีก 180 คน เพื่อให้ทุกจังหวัดมีแพทย์กัญชาคอยให้คำปรึกษาได้อย่างครอบคลุมภายในเดือน มิถุนายน นี้ ไม่ควรซื้อใช้เองโดยไม่มีแพทย์เป็นผู้ดูแล
แหล่งที่มา: กรุงเทพธุรกิจ, ผู้จัดการออนไลน์, Chiangraitimes.com