ไฟ LED อันตรายต่อสุขภาพ
สมาคมการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา ประกาศเตือนการใช้ไฟ LED บนท้องถนน โดยขอให้ลดความร้อน และหรี่แสงลง ควรต้องมีการปรับการใช้ไฟ LED บนถนนทั่วประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงในการที่จะเกิดอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์และส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ทั้งนี้ ท้องถนนในสหรัฐอเมริกา ได้เปลี่ยนมาใช้ไฟ LED เนื่องจากหลอดไฟดังกล่าวมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ช่วยประหยัดงบประมาณในการซ่อมและการเปลี่ยนหลอดไฟ ตามท้องถนนไปได้มาก แต่ก็ค้นพบว่าควรออกแบบใหม่เหมาะสมเสียก่อน เพราะแสงไฟนั้น มีผลกับสุขภาพของมนุษย์
LED กับแสงสีฟ้า แสงไฟที่เปิดให้ความสว่างภายนอก ในเวลากลางคืน โดยเฉพาะบนถนน ควรจะมีอุณหภูมิสีไม่เกิน 3000 เคลวิน ถนนหนทางตามเมืองใหญ่ๆ หลายเมือง รวมทั้งซีแอตเติลและนิวยอร์ค เลือกใช้หลอดไฟ LED สีขาว ซึ่งมีค่า CT อยู่ที่ 4000 เคลวิน หรือ 5000 เคลวิน ซึ่งถือว่าสูงมากทีเดียว
ปัญหาของ LED ไฟถนน LED ก่อให้เกิดปัญหา 2 อย่าง อย่างแรกคือแสงจ้ามาก ทำให้ไม่สบายตา ทำให้ม่านตาหดเล็กลง และแสงที่สว่างมากเกินไป ก็สามารถทำให้เกิดความเสียหายขึ้นกับจอตา เมื่อตาต้องมีการปรับ ก็ส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ และการเดินบนท้องถนนในเวลากลางคืน อีกสิ่งหนึ่งก็คือ การที่มนุษย์ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สว่าง เป็นระยะเวลามากกว่าที่ควรจะเป็น ก็จะมีผลกระทบต่อนาฬิกาชีวิตของร่างกาย ดังนั้นแสงไฟในเวลากลางคืนมีผลต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของการนอนหลับพักผ่อน
สมาคมการแพทย์ของสหรัฐอเมริกายอมรับว่าการใช้ LED นั้นช่วยประหยัดงบประมาณ และลดปริมาณขยะจากหลอดไฟเก่า ที่ต้องเปลี่ยนกันบ่อยๆ แต่อยากให้มีการควบคุมและลดปริมาณอุณหภูมิแสงสีฟ้า และลดความสว่างจ้าของไฟลง นอกจากนี้ตามถนน ก็ควรใช้ไฟที่มีอุณหภูมิสีไม่เกิน 3000 เคลวิน เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ และสภาพแวดล้อมที่อาจจะมีขึ้นมาในอนาคต
เนื้อหาจาก CNN