วันที่ 22 พ.ค.62 นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยถึงการนัดหารือระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และตน ที่ไปร่วมรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านทีเฮ้าส์ ย่านถนนพระราม 6 เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า เป็นการรับประทานอาหารร่วมกันครั้งที่ 2 โดยก่อนหน้านี้ก่อนเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ ครั้งนั้นเป็นการแสดงความยินดีระหว่างกันในฐานะพรรคพวกเพื่อนฝูงที่ชอบพอกัน ส่วนการพบปะครั้งล่าสุดเป็นการพูดคุยตามที่นายอนุทินระบุในเฟซบุ๊ก คือ ไปทำงาน พูดคุยกันว่าเราต้องการทำงานอะไรด้านไหน
.
“แกนนำทั้งสองพรรคต่างยืนยันที่จะจับมือเดินไปด้วยกัน ไม่มีแตกแยกหรือปล่อยมือทิ้งกัน ถ้าข้อเสนอที่บอกไปได้รับการตอบรับ โดยพรรคภูมิใจไทยนั้นสื่อก็ทราบมาแล้วว่าต้องการบริหารงานต่อยอดจากนโยบายที่หาเสียงไว้ คือ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข เพื่อปลดล็อกกัญชาเป็นยารักษาโรค และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อต่อยอดทั้งงานด้านกีฬา และบูมจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ขอกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาพืชผลการเกษตรตกต่ำ และกระทรวงพลังงาน แต่ถ้าไม่ได้ตามนี้ เราก็ยืนยันว่าจะจับมือกัน ส่วนจะพิจารณาเป็นขั้วที่ 3 หรือไม่นั้นไม่ทราบ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการหารือดังกล่าวตัวแทนพรรคพลังประชารัฐเสนอโควตาตำแหน่งมาให้ทั้งสองพรรค พรรคละ 7 ตำแหน่ง อยู่ที่สูตร 3 กระทรวงหลักเกรดเอ 4 รมช. หรืออาจเป็น 3 กระทรวงหลักบวก 1 รองนายกฯ และ 3 รมช. นอกจากกระทรวงหลักที่ทั้งสองพรรคระบุไปแล้ว ไม่มีการระบุขอตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการแต่อย่างใด แต่หากข้อเสนอร่วมดังกล่าวของทั้งสองพรรคไม่ได้รับการตอบสนอง ทั้งสองพรรคอาจพิจารณาเป็นขั้วที่ 3 โดยมีการประสานกับพรรคขนาดเล็กอีก 2 พรรค คือ ชาติไทยพัฒนา ที่มี 10 ส.ส.และพรรคชาติพัฒนาอีก 3 ส.ส.รวมเป็น 116 ส.ส. เพราะเห็นว่าพรรคหลักทั้งสองขั้วมีจุดยืนที่ต่างกันมาก ไม่ว่าขั้วใดตั้งรัฐบาลได้ก็จะเป็นเสียงปริ่มน้ำ หรืออาจเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่จะมีปัญหาในการบริหารราชการที่สุดจะกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลและอาจเป็นรัฐบาลที่อายุสั้น
.
.
.