เตือนกามโรคพุ่ง! โรคซิฟิลิสระบาดหนักในรอบ 5 ปี หนุ่มสาว 15-24 ปีที่ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 3 พันคน พบทารกติดเชื้อสูง249 ราย
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเผยโรคซิฟิลิสระบาดหนัก ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 15-24 ปี พบสถิติ 5 เดือนป่วยโรคนี้มากถึง 3,080 คนที่มีเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัย เสี่ยงติดเชื้อHIV พบทารกติดเชื้อซิฟิลิสถึง 249 คน ส่วนกลุ่มนักเรียนพบอัตราการป่วยเพิ่มสูงขึ้น
19 พฤษภาคม 2562- สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์ของโรคซิฟิลิส ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ถึง 13 พ.ค.ที่ผ่านมา พบผู้ป่วย 3,080 คน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 15-24 ปี คิดเป็นร้อยละ 40.42 รองลงมา คืออายุระหว่าง 25-34 ปี คิดเป็นร้อยละ 24.48 นายแพทย์ สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถิติดังกล่าวเป็นสัญญาณถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยของกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียน และวัยเจริญพันธุ์ เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จึงได้สั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ของโรคอย่างใกล้ชิด รวมถึงประสานสถานศึกษาให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการป้องกันโรค แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี เพื่อลดความเสี่ยง ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย เจาะเลือดเพื่อตรวจคัดกรองซิฟิลิส และเอชไอวีอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ต้องเข้ารับการฝากครรภ์ในระยะที่กำหนด และรับการตรวจคัดกรองพร้อมสามี เพื่อป้องกันและลดโอกาสการแพร่เชื้อของโรค ทั้งนี้ โรคซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อจะทราบว่าติดเชื้อต่อเมื่อได้รับการตรวจเลือด แม่ที่ติดเชื้อซิฟิลิสแล้วไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลถึงทารกในครรภ์ และในปี 2562 พบเด็กแรกคลอดป่วยซิฟิลิสถึง 249 คน
ข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก Bangrak STIs Center (โรงพยาบาลบางรัก) ได้โพสต์เตือนสถานการณ์โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ “ซิฟิลิส” เรียบเรียงโดย พญ.ธันยนันท์ กังวาฬพรโรจน์ ระบุว่า ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง เกิดจากการสัมผัสเชื้อโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น การมีเพศสัมพันธ์ การได้รับเลือด หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยซิฟิลิส
เมื่อ 100 ปีที่แล้วซิฟิลิสเป็นโรคที่ทุกคนกลัวกันมาก เนื่องจากติดจากเพศสัมพันธ์ ตัวโรคอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ไม่มียารักษา (ปัจจุบันมีแล้ว) และถ้าเป็นไปนานๆจะถึงซิฟิลิสระยะที่สาม (เหมือนลำยองในทองเนื้อเก้า) คือจะทำให้มีรอยโรคตามตัว มีผลต่อระบบประสาท
ขณะนี้ให้อยากดูว่าในประเทศไทย โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้งแล้ว และกราฟของซิฟิลิสนั้นพุ่งทะยานขึ้นดั่งรถไฟเหาะ มีคนติดเชื้อจำนวนมาก แต่ไม่รู้ตัวว่าติดเนื่องจากไม่เคยตรวจโรคนี้
ปัจจุบันในประเทศไทยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์กลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง โดยกราฟของซิฟิลิสพุ่งสูง มีอัตราผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมากแต่ไม่รู้ตัวว่าติดเนื่องจากไม่เคยตรวจโรคนี้ โดยในปี 2559 อัตราผู้ป่วยซิฟิลิสอยู่ที่ 6.22 ต่อแสนประชากร ปี 2560 อยู่ที่ 8.17 ต่อแสนประชากร และ ในปี 2561 อยู่ที่ 11.91 ต่อแสนประชากร
ทั้งนี้ หากดูกราฟจะพบว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พบมากที่สุดในกลุ่มของวัยรุ่นประมาณมัธยมถึงมหาลัย ช่วงอายุระหว่าง 15 -24 ปี แต่อย่างไรก็ตามซิฟิลิสก็พบได้ในทุกเพศทุกวัยแม้แต่เด็กแรกเกิดที่เกิดจากแม่ที่ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นซิฟิลิส
หากดูกราฟจะพบว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พบมากที่สุดในกลุ่มของวัยรุ่นประมาณมัธยมถึงมหาลัย ช่วงอายุระหว่าง 15 -24 ปี แต่อย่างไรก็ตามซิฟิลิสก็พบได้ในทุกเพศทุกวัยแม้แต่เด็กแรกเกิดที่เกิดจากแม่ที่ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นซิฟิลิส
พอเข้าไปดูในระดับจังหวัด ใครๆ ก็คิดว่าต้องเป็นกรุงเทพฯ หรือพัทยา ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวแน่ๆ แต่เอาเข้าจริงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พบได้ในทุกจังหวัด แม้จะไม่ใช่จังหวัดท่องเที่ยว
อาการของซิฟิลิส -หลังจากติดเชื้อผู้ป่วยจะมีแผลริมแข็ง ไม่เจ็บ ขึ้นที่อวัยวะเพศ หลังจากนั้นแผลสามารถหายได้เอง ผ่านไปสักพักจะกลายเป็นระยะที่สอง คือมีผื่นขึ้นตามฝ่ามือฝ่าเท้า บางคนขึ้นตามตัวก็ได้ มีผมร่วงเป็นหย่อมๆเหมือนโดนแมลงแทะ และแผลที่อวัยวะเพศเรียกว่า condyloma lata บางคนอาจจะไม่มีอาการอะไรเลย บางคนมีแค่บางอาการ แล้วก็หายไปในที่สุด
หลังจากนั้นเชื้อจะยังอยู่ในร่างกายเราไปเรื่อยๆ จนถึงระยะที่ 3 ที่กินเวลาไปเป็น 10 ปี กลายเป็นสภาพเหมือนลำยองในทองเนื้อเก้า เชื้อยังทำให้กลายเป็นซิฟิลิสที่หลอดเลือดหัวใจ ในสมอง กินเข้ากระดูกได้
ซิฟิลิสรักษาได้-สำหรับโรคซิฟิลิสสามารถรักษาให้หายได้ โดยรักษาได้ง่ายในระยะแรก ด้วยยาฆ่าเชื้อเป็นยาเพนนิซิลินฉีดเข้ากล้ามเนื้อครั้งเดียว สําหรับผู้เป็นโรคภายในระยะเวลา 1 ปี หากเป็นมานานเกิน 1 ปีจะต้องฉีดยาเพิ่มมากกว่า 1 ครั้ง ผู้แพ้ยาจะใช้ยาตัวอื่น การรักษาจะป้องกันการทําลายอวัยวะในร่างกาย แต่ไม่สามารถรักษาอวัยวะที่ถูกทําลายไปแล้ว
ผู้ที่ได้รับการรักษาจะต้องงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหายไป ผู้ที่ติดเชื้อควรต้องแจ้งแก่คู่นอนให้ทราบเพื่อจะได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาด้วย อย่างไรก็ตาม หากเคยเป็นโรคนี้แล้วสามารถติดซ้ำได้ และในบางรายโรคอาจจะซ่อนอยู่ในช่องคลอด ทวารหนัก ดังนั้น จึงควรป้องกันและตรวจโรคทุก 1 ปี
ปิดท้ายด้วยความจริงทั้งหมดที่แพทย์อยากบอกคือ
1 เสี่ยงทุกครั้ง ใส่ถุงทุกครั้ง แม้ oral sex ก็ต้องใส่ถุง
2 อย่าเปลี่ยนคู่นอนบ่อย หากจริงจังจริงใจ จับมือกันมาตรวจเพื่อความสบายใจ อย่ารอตอนท้อง บริจาคเลือดแล้วเพิ่งมาเจอผลเลือด
3 เวลาเสี่ยงมา แล้วกังวล ก็มักจะตรวจแค่ HIV แนะนำให้ตรวจทุกโรค เช่น ซิฟิลิส ไวรัสตับบี ไวรัสตับซี
4 หากมีอาการผิดปกติ ควรมาพบแพทย์ อย่าซื้อยากินเอง อย่าปล่อยทิ้งไว้