รณรงค์ยกเลิกอีอีซี
มีประเด็น "รณรงค์ยกเลิก EEC" ใน www.change.org ดร.โสภณเห็นด้วย จึงขอร่วมรณรงค์ให้ยกเลิกเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC: Easter Economic Corridor)
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) ได้รับข่าวการรณรงค์ยกเลิก EEC (https://bit.ly/2Wb36TF) โดย "somlak hutanuwatr" ซึ่งเป็นการรณรงค์ที่น่าสนใจ จึงขอร่วมรณรงค์และส่งข้อความนี้เผื่อท่านสนใจร่วมรณรงค์ด้วย โดยผู้ที่เห็นด้วยสามารถร่วมลงชื่อได้ที่: https://bit.ly/2Wb36TF
ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ (บางส่วน) ในการรณรงค์นี้ก็คือ
1. ให้ต่างชาติถือโฉนดที่ดินไทยได้โดยไม่มีข้อจำกัดทั้งขนาดและเวลา หรือเช่าที่ดินไทยได้ 50+49 รวม 99ปี
2. ให้อำนาจพ่อค้านักธุรกิจเข้าไปมีอำนาจเทียบเท่ารัฐมนตรี คือ สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทย ร่วมเป็นคณะกรรมการที่มีรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีรวม 15 คนในคณะรัฐบาลเป็นกรรมการ
3. มีอำนาจขีดพื้นที่เพื่อเวนคืนที่ดินของประชาชน แก้ไขผังเมืองจากเกษตรกรรมเป็นอุตหสากรรม และคณะกรรมการมีอำนาจทำการแทนกฎหมายอื่นและมีอำนาจในกฎหมายใหม่รวมกัน 33 ฉบับ
4. ไม่ต้องใช้เงินบาทในพื้นที่ EEC
5. ยกเว้นภาษีรายได้นิติบุคคลยาวนานถึง 13 และ 15 ปี ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักณและวัตถุดิบ และสิทธิประโยชน์ต่างๆอีกมากมาย
6. เขต EEC ส่วนมากเป็นการประกาศทับลงบนนิคมอุตสาหกรรมเดิมเกือบทั้งหมด เพื่อเอื้อประโยชน์ด้านการลดหย่อนภาษียืดยาวออกไปให้แก่กลุ่มทุน ขณะที่รองนายกฝ่ายกฎหมายเคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรม ที่ได้รับการประกาศมากที่สุด ซึ่งลาออกจากประธานบริษัทนั้นเพียง 1 วัน ก็ได้เป็นรองนายกฯ และยังเป็นประธานพิจารณากฎหมาย EEC อีกด้วย
6. ทำผิดกฎหมายผังเมือง พื้นที่นิคมฯอมตะ2 ที่ประกาศเป็นเขต EEC, พื้นที่ท่าเรือบก และพื้นที่โครงการบลูเทค ซิตี้ เป็นพื้นที่สีเขียวเพื่อเกษตรกรรมตามประกาศผังเมือง ห้ามมิให้มีการก่อสร้างคลังสินค้า แต่ใบอนุญาตของ อบต.ระบุว่าเพื่อทำคลังสินค้า อันเป็นการกระทำผิดกฎหมายผังเมือง
6. การเลือกปฎิบัติ ทำผิดกฎหมาย EEC
7. ใช้ประโยชน์ที่ดินไม่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ เจตนารมณ์ของกฎหมายระบุการใช้ที่ดินให้เป็นไปอย่างเหมาะสมกับสภาพและศักยภาพของพื้นที่ได้อย่างแท้จริง แต่อุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นไม่สอดคล้องกัน เนื่องจากพื้นที่อำเภอบางปะกง บ้านโพธิ์ และพานทอง เป็นพื้นที่เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม สภาพภูมิประเทศเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ เป็นที่รองรับน้ำหลากตามธรรมชาติ ซึ่งช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์แก่ดิน จึงทำให้ลดการใช้สารเคมีการเกษตรลงได้มาก พื้นที่ดังกล่าวเป็นเมืองสองน้ำคือฤดูน้ำจืดทำนา ฤดูน้ำเค็มเลี้ยงปลา กุ้ง ปู เป็นพื้นที่ป่าชายเลน มีนกและสัตว์ตามธรรมชาติหลายชนิดอาศัยอยู่อย่างสมดุลย์กับระบบนิเวศ จึงควรส่งเสริมเกษตรกรรม การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและชุมชน ซึ่งอยู่ในเป้าหมายของ พรบ.EEC
8. มีเขต EEC ที่ประกาศแล้วขัดกับเหตุผลของกฎหมาย เขต EEC นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ส่วนมากประกาศทับนิคมอุตสาหกรรมเดิม มีโรงงานจำนวนมากที่เปิดมานานกว่า 10 ปี บางโรงงานในเขต EEC ทำกิจการรับซื้อเศษเหล็ก ย่อมขัดกับกฎหมายที่ระบุว่า “..ส่งเสริมการประกอบพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ทันสมัย สร้างนวัตกรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม..” ฯลฯ
กลุ่มที่ลงชื่อมีข้อเสนอ:
1. ขอให้เปิดเวทีสาธารณะรับฟังเสียงประชาชน
2. นำผลการรายงานจากข้อ (1) ปรับปรุงหรือทบทวนนโยบาย คำสั่ง หรือประกาศที่ออกไปแล้วให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่. . . เป็นต้น
โปรดพิจารณาร่วมลงชื่อตามอัธยาศัยที่: https://bit.ly/2Wb36TF
ที่มา : https://bit.ly/2WeNYoy.