เปิดใจ บ่าว-สาว ถูกเหยียดเรือนร่าง อ้วนแล้วผิดด้วยหรอ(มีคลิป)
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ นิชนันท์ แสงสุรินทร์ โพสต์เรื่องราวของคู่บ่าวสาวที่เป็นเพื่อนของเธอ ว่าโดนเพจดังเพจหนึ่ง นำภาพของเจ้าบ่าวเจ้าสาวซึ่งเป็นเพื่อนของเธอไปวิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับสรีระ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวเธอโพสต์ด้วยใจความว่า
เจ้าบ่าว เจ้าสาว ที่ถูกนำรูปไปโพสต์
ถึง...เพจหลักแสน ที่ไม่มีสมอง
การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว และขาดความเข้าใจในสิทธิพื้นฐานของแต่ละบุคคล จึงมักเกิดเหตุการณ์จากการล้อเลียน เยาะเย้ยขำ ๆ หรืออำ พร้อมข้ออ้างว่า “คิดมากทำไม แค่ล้อเล่นขำๆ จริงจังไปไหม”
แต่ในความเป็นจริงนั้น การกระทำที่ส่งผลต่อจิตใจคนอื่น โดยกระทบศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นนั้น ในทางสากลถือเป็นการดูถูกเหยียดหยาม ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หลายต่อหลายครั้งสังคมหรือคนรอบข้างอาจมองข้ามเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น ที่บางครั้งก็ยากจะเยียวยาความรู้สึกผู้ถูกละเมิดให้กลับเป็นดังเดิมได้เพราะคนแต่ละคนมีความรักและห่วงแหนในเกียรติยศของตนเอง
ตามกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 420 ความว่า “ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างได้ก็ดี ท่านว่าผู้นั้นละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น”
#เหยียด #คนอ้วน #นินทา #ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
นางภัทรามาส ใจเย็น และ นายอาทร ผิวเหลือง คู่บ่าวสาว
ซึ่งล่าสุด วันที่ 25 เม.ย. 62 นางภัทรามาส ใจเย็น สาวที่ถูกนำรูปไปโพสต์ บอกว่า ตอนแรกน้อยใจว่าเราไปทำอะไรให้ เราก็คบกับแฟนเหมือนที่คนอื่นคบกัน แล้วเราผิดแปลกจากคนอื่นตรงไหน แต่กลับถูกเพจนี้นำไปโพสต์แบบนี้ และในช่วงนี้ซึ่งครอบครัวได้สูญเสียคุณยายไป ก็ยิ่งทำให้รู้สึกเสียใจ
งานแต่งงานที่เต็มไปด้วยความชื่นมื่น และความสุข
ทางด้านนายอาทร ผิวเหลือง เจ้าบ่าว เปิดเผยว่า ตอนแรกที่เห็นก็คิดว่าจะปล่อยผ่าน แต่พอทราบว่ามีการโพสต์จำนวนมาก จึงรวบรวมพยานหลักฐานและปรึกษาทนายความ อาจจะฟ้องร้องเพื่อดำเนินคดีเป็นกรณีตัวอย่าง เนื่องจากเหตุการณ์ลักษณะนี้มีบ่อยครั้ง ที่โซเชียลโพสต์หมิ่นเหยียดหยาม อยากให้เห็นว่าการที่เอารูปของคนอื่นไปโพสต์ในทางเสียหาย ก็ต้องได้รับผลที่ทำไป
ทั้งนี้ การละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว และขาดความเข้าใจในสิทธิพื้นฐานของแต่ละบุคคล จึงมักเกิดเหตุการณ์จากการล้อเลียน เยาะเย้ยขำ ๆ หรืออำ พร้อมข้ออ้างว่า “คิดมากทำไม แค่ล้อเล่นขำๆ จริงจังไปไหม” สิ่งเหล่านี้ทุกคนควรตระหนักถึงสิทธิเสรีภาพ สิทธิส่วนบุคคล และมารยาทที่พึงมีในสังคม ไม่ควรเอาความสนุกปากมาสร้างความสุขให้ตัวเราเอง อันเกิดจากการบูลลี่ผู้อื่น เพราะผู้ที่ถูกนำชื่อไปล้อเลียนเขาไม่ได้สนุกหรือมีความสุขกับสิ่งที่คุณพูด อีกทั้งยังไปสร้างปมในใจให้คนอื่นอีกด้วย และที่สำคัญที่ต้องตระหนักถึงก็คือ คนเราไม่ได้มีสภาพจิตใจที่แข็งแรงเหมือนกันทุกคน บางคนอาจจะรับเรื่องที่ถูกบูลลี่ไม่ได้จนถึงขั้นฆ่าตัวตาย อย่าคิดว่าการนินทา ว่าร้ายผู้อื่นคือเรื่องเล็ก ๆ มันคือฆาตรกรตัวร้ายที่เกิดจากน้ำมือคุณเอง ก่อนจะว่าอะไรใครก็คิดสักนิดนึงเนอะ
แหล่งที่มา: mekhaoduan.com
อมรินทีวี