ชัดเจนนะ รมว.คลัง แจงเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ประกาศกรมภาษีเกี่ยวกับการหักภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก ตรงนี้เป็นกฎหมายมานานแล้วกำหนดให้ผู้มีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยเกิน 2 หมื่นบาทต้องเสียภาษี พบว่าเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาเกิดปัญหาธนาคารบางแห่งไปช่วยลูกค้าในการหลบเลี่ยงภาษี เช่น พอดอกเบี้ย 1.9 หมื่นบาทให้ปิดบัญชีเปิดใหม่ ดังนั้นกรมสรรพากรจึงจำเป็นต้องออกประกาศให้ธนาคารส่งข้อมูลดอกเบี้ยรับมายังกรมสรรพากร และกรมจะรวมข้อมูลเองว่าใครที่มีรายได้ดอกเบี้ยรับเกิน 2 หมื่นบาทต่อปี ต้องเสียภาษีบ้าง ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องหารือมานาน 2 ปี ธนาคารรับรู้ข้อมูลตรงนี้แล้ว
“ข้อมูลที่ส่งมากรมสรรพากรจะนำมารวมเอง ถ้าใครรับดอกเบี้ยรวมกันไม่เกิน 2 หมื่นบาทไม่ต้องเสีย แต่ถ้าใครรวมกันเกิน ต้องเสีย จะได้ไม่มีปัญหาหลบเลี่ยงภาษีกันอีก ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ทำเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม อะไรไม่ถูกก็ต้องถูกต้อง ตามกฎหมายคนที่มีเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์รวมกันตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป จะมีรายได้จากดอกเบี้ย 2 หมื่นบาทต่อปีเป็นกลุ่มต้องเสียภาษี”นายอภิศักดิ์กล่าว
ด้านนายปิ่นสาย สุรัสวดี กล่าวว่า หากดอกเบี้ยเกิน 2 หมื่นบาทต่อปี ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายในอัตรา 15 % แต่ที่ผ่านมาระบบธนาคารยังไม่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกันได้ แม้เป็นธนาคารเดียวกัน จึงเกิดการเลี่ยงภาษีทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา ดังนั้นกรมจึงกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต้องส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ให้กรม ซึ่งกรมจะนำเลขที่บัตรประชาชน มาจับคู่กับบัญชีเงินฝาก เพื่อดูว่าคนฝากเงินแต่ละรายมีรายรับจากดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ในทุกบัญชีในทุกธนาคารเท่าไหร่
ภาพจาก internet
ทั้งนี้ระหว่างนี้ขอให้ประชาชนที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ยินยอมสถาบันการเงินที่มีเงินฝากอยู่ทุกแห่งให้จัดส่งข้อมูลทางบัญชีให้กรมสรรพากร เพราะหากไม่ดำเนินการ ผู้ฝากทุกรายจะมีภาระการเสียภาษี ณ ที่จ่าย จากรายได้จากดอกเบี้ย 15% ทันทีโดยอัตโนมัติ แม้รายได้ดังกล่าวไม่เกิน 20,000 บาท แต่สามารถขอคืนภาษีดังกล่าวในช่วงปลายปี
ภาพจาก internet