เทวดาเดินดิน ศิษย์สองแผ่นดินแน่นวัด ร่วมเปลี่ยนผ้าไตร “หลวงปู่สรวง” ละสังขาร 19 ปีไม่เน่าเปื่อย
เมื่อ 10.00 น.วันที่ 8 เม.ย. 62 ที่วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงโปรดให้ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ผู้แทนพระองค์ ในการบำเพ็ญพระกุศลและเปลี่ยนผ้าไตรสรีระสังขารหลวงปู่สรวง ซึ่งทางวัดจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เป็นปีที่ 19 นับแต่หลวงปู่สรวงละสังขาร เพื่อถวายเป็นกุศล และแสดงความกตัญญู กตเวทิตา บูชาคุณมหาปูชนียาจารย์ และเปิดโอกาสให้ศิษยานุศิษย์ ได้กราบสักการะสรีระสังขารหลวงปู่สรวง เนื่องในเทศกาลสงกรานต์
หลวงปู่สรวง ชาวบ้านรู้จักกันว่าเป็นพระชาวกัมพูชา ที่อาศัยอยู่แถบชายแดนตามเชิงเขาพนมดงรัก เป็นผู้ทรงศีลปฎิบัติธรรม พักอาศัยอยู่ตามกระท่อมในไร่นาของชาวบ้าน และย้ายไปในที่ต่าง ๆ ตามแถบเทือกเขาฯ ซึ่งชาวบ้านทั่วไปจะเข้าใจท่านในฐานะผู้ทรงศีลที่มีคุณวิเศษ มีความเมตตาช่วยเหลือชาวบ้าน และเรียกขานว่า "ลูกเอาวเบ๊าะ" หรือ "ลูกตาเบ๊าะ" เป็นภาษาเขมร หมายถึงพระดาบส เป็นพระมักน้อย สันโดษ สมถะ มีอุเบกขาสูง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวกัมพูชา รวมถึงชาวจังหวัดศรีสะเกษ และใกล้เคียง หลวงปู่สรวง ละสังขาร เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2543 แต่สังขารยังคงสภาพเดิม ศิษยานุศิษย์จึงได้นำสรีระสังขารหลวงปู่สรวงบรรจุในโลงแก้ว พร้อมสร้างมณฑปปราสาทให้เพื่อถวายเป็นกุศล และเป็นศูนย์รวมจิตใจ
โอกาสนี้ ได้ไถ่ชีวิตโค-กระบือ จำนวน 7 ตัว เพื่อมอบให้แก่เกษตรกรในพื้นที่อำเภอภูสิงห์ ตามโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ, มอบพันธุ์ไม้ดอกลำดวน ดอกไม้ประจำจังหวัด และพันธุ์ปลากระแหแก่ผู้ใหญ่บ้าน 7 หมู่บ้าน เพื่อนำไปปลูกในชุมชน และขยายพันธุ์เป็นแหล่งอาหาร พร้อมมอบทุนการศึกษาและรถจักรยานแก่ผู้แทนนักเรียนไทย และนักเรียนกัมพูชา ที่อยู่ในพื้นที่เขตชายแดนไทย-กัมพูชาจำนวน 40 คน
สำหรับวัดไพรพัฒนา ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี 2550 โดยได้พัฒนาเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาของชุมชน มีศาสนสถาน ศาสนวัตถุ เช่น โบสถ์ วิหาร ศาลาหอฉัน กุฏิสงฆ์ กุฏิรับรองพระเถรานุเถระ และมณฑปปราสาทหลวงปู่สรวง ปัจจุบันมี พระครูโกศลสิกขกิจ หรือ หลวงพ่อพุฒ วายาโม เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์และสามเณร จำพรรษา 28 รูป