“บิ๊กตู่” ลั่น ขจัดคนไม่ดี คนที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ออกไป!!
“บิ๊กตู่” ออกสาร จากนายกฯ ชี้ จัดตั้งรัฐบาล ไม่ใช่การต่อสู้ทางการเมือง แต่เป็นการรวมกลุ่มกัน เพื่อทำความดีเพื่อชาติบ้านเมือง ประชาชน และขจัดคนไม่ดี คนที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ออกไป ....วอนสื่อเสนอข่าวอย่างระมัดระวัง
/ขอประชาชน อย่าได้หลงเชื่อคำบิดเบือน ที่หวังนำประเทศกลับไปสู่อันตรายเดิมๆ ...แย้มการแก้เศรษฐกิจต้องอาศัยจากทุกพรรคการเมือง และนักการเมืองทุกคน
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี. ได้มีสารจากนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การทำงานของรัฐบาลและคสช, เหล่าทัพ , สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานภาครัฐในห้วงที่ผ่านมา ได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะสร้างความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมือง สร้างความรักความศรัทธาต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพื่อประเทศชาติและประชาชนอันเป็นที่รักของคนไทยทุกคน
ข่าวสารการรวมจัดตั้งรัฐบาลของพรรคต่างๆ ที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นกังวลอยู่เวลานี้ ไม่อยากให้ มองว่าเป็นการมุ่งเน้นการต่อสู้ทางการเมืองอย่างเดียว
“หากแต่เป็นการรวมกลุ่มกัน เพื่อทำความดีให้กับชาติบ้านเมืองและประชาชน และขจัดคนไม่ดี หรือคนที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายออกไป”
สื่อต่างๆ ขอให้นำเสนอข่าว
อย่างพอเหมาะพอควร ช่วยกันสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับบ้านเมืองเรา สร้างความสงบสุขให้กับ พี่น้องประชาชน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่น ให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
ปัญหาความขัดแย้ง การขาดความรักความสามัคคี การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ล้วนแล้วแต่เป็นอุปสรรคที่สสำคัญ
ของความสงบสุขเรียบร้อย การพัฒนาและการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ
ดังน้ันช่วงเวลานี้จึงขอให้ประชาชนทุกคน ได้ใช้ความระมัดระวังในการรับรู้ข่าวสารใดๆ ทั้งจากสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ โซเชียลมีเดีย
โดยขอให้พิจารณาอย่างมีเหตุมีผลประกอบข้อเท็จจริงทั้งในปัจจุบันและในอดีต
ขออย่าได้หลงเชื่อคำบิดเบือน
ต่างๆ อันจะทำให้ประเทศกลับไปสู่อันตรายเดิมๆ ที่เราได้เคยร่วมกันฝ่าฟันมาแล้ว
การเป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่ให้ความสำคัญ แต่เพียง เสียงมาก เสียงน้อยใครเป็นฝ่ายค้าน ใครเป็นรัฐบาล
แต่ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่พี่น้องประชาชนจะไดัรับอันได้แก่ ได้รัฐบาลและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มี
ธรรมาภิบาลหรือไม่ ประชาชนทุกฝ่ายไม่ว่าจะเลือกใครได้รับการดูแลอย่างทั่ว ถึงหรือไม่
ประเทศชาติได้รับการสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มขีดความสามารถหรือไม่ นี่คือสิ่งสำคัญที่รัฐบาลนี้ยึดถือเป็นหลักการมาโดยตลอด
การพัฒนาด้านเศรษฐกิจจำเป็นต้อง อาศัยความร่วมมือจากคนหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และ
ภาคเอกชน รวมถึงทุกพรรคการเมือง นักการเมืองทุกคน
เราต้องยอมรับว่าวิธีการเดิมๆ ตั้งแต่ก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามา ไม่สามารถแก้ไขปัญหาในเชิงโครงสร้างหรือเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอะไรได้เลย
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีวิธีการใหม่ๆ ที่ทันต่อเทคโนโลยี มีการบูรณาการอย่างแท้จริง โดยเราจะต้องสร้าง สนับสนุน รณรงค์ สร้างการเรียนรู้ช่วยกันปรับปรุงพัฒนาทุกเรื่องให้ครบวงจร สร้างความเข้มแข็งให้เกิดความยั่งยืน มิใช่แก้ไขปัญหาที่ปลายทางอย่างเดียวภายใต้งบประมาณที่มีอยู่จำกัด สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ดีๆ ที่เป็นอนาคตและหลักชัยของประเทศ
ไม่ว่า ใครมาเป็นรัฐบาล ควรต้องสานต่อ ขยายหรือปรับปรุงให้ดียิ่งๆขึ้นไป
โดยสรุปแล้วความสงบสุขของบ้านเมือง ความรักความสามัคคีของพี่น้องประชาชนคนไทย เป็นสิ่งสำคัญที่จะนำพาประเทศก้าวต่อไปอย่างมีเกียรติ์ มีศักดิ์ศรีและมีเสถียรภาพ