เตียงเก็บของ #ของมันต้องมีคู่คอนโด

              คอนโดสมัยนี้แข่งกันแคบ แข่งกันเล็กรึเปล่า ยังไงก็ไม่รู้นะ บางที่ทำเลดีมากเวอร์ ใกล้ห้าง ใกล้รถไฟฟ้าเดิน 5 นาทีถึง แต่พอขึ้นไปดูห้องแล้วถึงขั้นกับต้องอุทานในใจเบาๆ ว่าอยู่ได้จริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย แต่ซื้อมาแล้วก็ต้องอยู่ให้ได้! ทุบผนังก็ไม่ได้ งั้นก็ปรับที่เฟอนิเจอร์ก็แล้วกัน       

              แล้วถ้าพูดถึงเฟอนิเจอร์ในห้องก็ต้องเริ่มมาตั้งแต่ห้องรับแขก ตู้เก็บของต้องเยอะ ตรงไหนแทรกตู้ได้แทรก ชั้นลอยสำหรับวางของก็ได้จะได้ดูไม่ทึบเกินไป ห้องครัวโดยส่วนมากคอนโดจะให้เคาน์เตอร์ครัวพร้อมอ่างล้างมือไว้อยู่แล้ว ก็จะมีตู้เก็บของด้านล่างไว้ให้ บางโครงการก็ให้ตู้ลอยด้านบนมาด้วย เวลาไปดูห้องตัวอย่างก็ถามเซลโครงการให้แน่ใจก็ดี เพราะเราจะได้ไปวางแผนต่อว่าเราจะตกแต่งห้องของตัวเองยังไง และสุดท้ายห้องนอนที่สำคัญที่สุดคือเตียงที่จะต้องเลือกให้เหมาะกับสรีระตัวเอง แล้วยังต้องเลือกให้ใช้งานได้เต็มฟังก์ชั่นด้วย เราเลยมีไอเดียทำเตียงธรรมดาให้มีพื้นที่เก็บของได้มากขึ้นสำหรับคนห้องไซส์มินิ จะเป็นแบบไหนบ้างที่เข้าตาเราไปดูกันเลย 

เตียงแบบนี้เหมาะกับคนไม่ค่อยมีของเยอะมาก ไว้เก็บอะไรจุกจิก เช่น หนังสือที่ชอบอ่านก่อนนอน แถมไม่ใช่ตู้ปิด ใครของเยอะๆ แล้วไม่ได้ใช้อาจจะทำให้ฝุ่นมาเกาะ

แบบนี้ตอบโจทย์คนของเยอะ บิวท์อินตู้กว้างๆ สูงถึงเพดานกันไปเลย ตัดความไม่เรียบร้อยออกไปได้บานไม้ทึบ

เหมาะมากสำหรับคนจะประหยัดพื้นที่ทำใต้เตียงเป็นลิ้นชักใหญ่ๆ ไปเลย เก็บได้ตั้งแต่หมอนยันผ้านวมผืนใหญ่

เพิ่มพื้นอีกชั้นกันไปเลย ทำชั้นไม้เหมือนเป็นฐานขึ้นไปข้างๆ ทำเป็นชั้นวางของ ตู้เก็บของแบบปิด และด้านบนวางฟูกขึ้นไปนอนได้เลย

แบบนี้เพิ่มฟังก์ชั่นให้มีโต๊ะเลื่อนออกมาได้ เป็นมุมทำงานได้อีกมุม

ห้องนักดนตรี เรียบๆ ก็ดูสวยไปอีกแบบ

ใช้สีเขียวแบบนี้ หรือใครมีสีที่ชอบก็เพิ่มสีสันให้นอนธรรมดาให้น่าอยู่ขึ้นได้ 

          สุดท้ายตรงใจคนของเยอะมากๆ แน่นอน เรียกว่าทำตู้ขนาดเท่าผนังห้องสูงติดเพดาน แล้วย้ายตัวเองไปนอนบนตู้นั้นเอง ฮ่าๆ

          แอบบอกทริกนะ ว่าถ้าตัดสินใจจะเลือกห้องไซส์มินิแล้วก็เลือกห้องเพดานสูงๆ ไว้ก็ดี ปกติเพดานคอนโดต้องสูงไม่ต่ำกว่า 2.4 เมตร 

 คำแนะนำ,ซื้อบ้าน,ซื้อคอนโด,แต่งบ้านแต่งคอนโด,บ้านสวย,ไลฟ์สไตล์,ฮวงจุ้ย