พปชร.เปิดหนังสือ ฉายตัวตน’ลุงตู่’ ปัด250สว.เอื้อเลือกนายก
วันที่ 25 ก.พ.2562 ที่พรรคพลังประชารัฐ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค ร่วมแถลงเปิดตัวหนังสือ “ประชารัฐสร้างชาติ”
.
นายอุตตม กล่าวว่า ทางพรรคผลิตขึ้นมาเพื่่่อมอบให้ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต 350 เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ 120 คน และทีมงาน เพื่อให้มีข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและ ผลงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค โดยเนื้อหาในหนังสือจะบอกเล่าถึงตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่เด็ก สิ่งที่ทำมาก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี และการทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในช่วงที่ผ่านมา ส่วนผู้สมัครของพรรคจะเอาไปถ่ายทอดอย่างไร ขึ้นอยู่กับ ผู้สมัคร
.
สำหรับหนังสือ ประชารัฐสร้างชาติ พรรคจัดทำทั้งหมด 10,000 เล่ม ต้นทุนเล่มละ 100 บาท จะแจกให้กับผู้สมัครเขตละ 20 เล่ม และบัญชีรายชื่อ รวม 7,000 กว่าเล่ม อีก 3,000 เล่มจะเก็บไว้ก่อน โดยยืนยันไม่มีการแจกทั่วไป และไม่มีวางจำหน่าย สำหรับค่าใช้จ่ายจะถูกนำไปรวมในงบประมาณหาเสียงของพรรค และได้แจ้ง กกต.ให้รับทราบเกี่ยวกับการทำหนังสือครั้งนี้แล้ว นายอุตตม ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการแสดงวิสัยทัศน์ และการดีเบต ของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ทางพรรค กำลังดำเนินการหารืออยู่ ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรในเรื่องนี้
.
.
ด้านนายสนธิรัตน์ ชี้แจงกรณีพรรคพลังประชารัฐถูกโจมตีในหลายประเด็นขณะนี้ว่า พรรคมีคำตอบสำหรับทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็น วาทกรรมเรื่องความเป็นประชาธิปไตยกับไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งยืนยันว่า พรรคเราเคารพเรื่องประชาธิปไตย และไม่เห็นด้วยที่จะใช้วาทกรรมเรื่องนี้มาโจมตีกัน เพราะขณะนี้ทุกพรรคกำลังเดินเข้าสู่ประชาธิปไตย ตามกลไกของรัฐธรรมนูญที่เราให้ความเชื่อมั่น ในการเปลี่ยนผ่านประเทศ ดังนั้นอย่าเอาเรื่องการสืบทอดอำนาจมาพูด เพราะเป็นการพูดคนละตอน พร้อมยืนยันว่า พรรคไม่เกี่ยวข้องกับกลไกการเปลี่ยนแปลงประเทศในช่วงที่ผ่านมา และเมื่อมีโอกาส พรรคก็เดินหน้าเข้าสู่กลไกตามระบอบไม่มีอะไรที่ไม่เป็นประชาธิปไตย
.
ส่วนกรณี 250 ส.ว. ที่หลายฝ่ายโจมตีว่าเอื้อประโยชน์ให้พรรคนั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กลไกที่จะให้ ส.ว.มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี เกิดก่อนที่พรรคพลังประชารัฐ และอีกหลายพรรคจะถูกตั้งขึ้น เป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญที่ผ่านความเห็นชอบของประชาชน ในลักษณะคำถามพ่วง เพราะคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ต้องการความชัดเจนจากประชาชน จึงให้ประชาชนเลือก และ ผลก็ออกมาว่า ประชาชน 13.9 ล้านคนเห็นชอบ การมีกลไกให้ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีในช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศซึ่งยังขัดแย้งอยู่ ดังนั้น ยืนยันได้ว่า เราเคารพกติกา และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหา ส.ว. ที่สำคัญวันนี้ยังไม่เห็นตัวตน ว่า ส.ว.250 คนเป็นใครบ้าง ไม่มีใครเกี่ยวข้องกับพรรค แต่วันนี้เรากลับไปพูดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นให้เป็นปัญหา
.
นายสนธิรัตน์ ยืนยันว่า กลไกจัดตั้งรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญหลังการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคมีจุดยืนว่า รัฐบาลต้องมีเสียงข้างมากในรัฐสภา หากเป็นแกนนำในการจัดตั้งก็ต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง แต่การเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นกลไกนอกเหนือของพรรค เพราะเป็นกลไกของสองสภาจึงยืนยันว่า พรรคไม่มีส่วนร่วม จึงขออย่าพูดไปก่อน ทั้งนี้หากพรรคเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลก็ต้องมีเสียงสนับสนุนมากพอในการจัดตั้ง คือต้องรวบรวมเสียงให้ได้มากกว่า 250 เสียง หรือพรรคไหนรวบรวมเสียงได้เกิน 250 เสียงก็สามารถตั้งรัฐบาลได้
.
นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คะแนนนิยมของพรรคตกลงทุกสัปดาห์ ว่า พรรครับฟังผลโพล จากทุกสำนัก และพรรคก็มีวิธีการทำโพลของพรรค ซึ่งผลที่ออกมาก็มักไปเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา แต่เราก็จะมุ่งนำเสนอนโยบายให้ประชาชนสนใจ เพราะขณะนี้ยังมีประชาชนอีกกว่า 50% ที่ยังไม่ตัดสินใจก็จะทำให้ดีที่สุด
.
ส่วนกรณีที่มีการโจมตีว่า คนเลือก ส.ว.คือ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ส่วนตัวผมเคารพกลไก และเชื่อว่า คนเป็น ส.ว มีวิจารณญาณและดุลยพินิจที่จะพิจารณาซึ่งเราต้องไว้วางใจ ขณะเดียวกันยังไม่ถึงเวลาที่จะกังวลว่าพรรคอาจถูกบอยคอตในสภาจนต้องเป็นฝ่ายค้าน เพราะขณะนี้ เราขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
แหล่งที่มา: http://isarapost.com/83286