อาถรรพ์วันพระใหญ่ หนุ่มเล่านาที เห็นปลาเกร็ดสีทองขนาดใหญ่ ก่อนกลายเป็นศพ กู้ภัยเผยวินาทีก่อนเจอศพ

เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 19 ก.พ. เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำ หน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา จ.ชลบุรี รุดเข้าให้การช่วยเหลือ เหตุบุคคลสูญหายภายในน้ำ ที่อ่างเก็บน้ำชากนอก ม.1 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่พบนายรังสรรค์ พลับเกลี่ยง อายุ 33 ปี เพื่อนของผู้สูญหาย ยืนชี้จุดที่ นายประยูร ฟองนาที อายุ 40 ปี ช่างก่อสร้าง หายลงไปในน้ำขณะหาปลา

โดยตลอดการค้นหานั้น เจ้าหน้าที่พบอุปสรรค เป็นตอไม้ โคลน และวัชพืช จำพวก จอก แหน ผักตบชวา ผักกระเฉด ปกคลุมหนาประมาณ 30-50 เซนติเมตร ทำให้การค้นหาผู้สูญหายเป็นไปด้วยความยากลำบาก ขณะเดียวกันมีการจุดธูปขอขมาสิงศักดิ์สิทธิ์ ขอให้พบร่างผู้สูญหายโดยเร็ว และเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ก่อนลงค้นหา

โดยจุดที่ชาวบ้านเห็นว่าเป็นแสงไฟส่องสว่างอยู่ใต้น้ำก็ยังไม่พบร่างผู้สูญหาย พบเพียงขันเก่ามีร่องรอยคล้ายไฟไหม้ใบเดียว เจ้าหน้าที่จึงย้ายไปค้นหายังจุดที่ผู้แจ้งพบผู้สูญหายครั้งสุดท้ายอีกครั้ง ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง จึงค้นหาร่างผู้สูญหายเสียชีวิตติดอยู่กับตอไม้ใต้น้ำ ซึ่งลึกกว่า 2 เมตร จึงเคลื่อนย้ายขึ้นมาบนฝั่ง แล้วใช้ผ้าคลุมกันเป็นที่อุดจาดตา ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของภรรยาและเพื่อนๆของผู้ตาย

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันร่ำลือถึงอาถรรพ์ของอ่างเก็บน้ำชากนอกที่มักจะมีคนเสียชีวิตในวันพระใหญ่และจะมีเหตุการณ์ลักษณะดังกล่างเกิดขึ้นทุกปี

นายรังสรรค์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ดำน้ำลงไปยิงปลากันอยู่นั้น นายประยูร ได้ตะโกนบอกว่าเจอปลาตัวใหญ่ จึงดำผุดดำว่ายหายลงไปใต้น้ำ ตนเห็นว่านายประยูร ลงไปในน้ำนานผิดสังเกต จึงตะโกนเรียกก็ไม่ตอบรับจึงรีบไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง แล้วพยายามช่วยกันดำลงไปค้นหาแต่ไม่พบ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือ

นางสมจิต อ่องสันเทียะ อายุ 36 ปี ภรรยาผู้ตายซึ่งตั้งครรภ์ได้ 1 เดือน เปิดเผยว่า เมื่อวันก่อนสามีตนได้มาหาปลาที่อ่างเก็บน้ำแห่งนี้แล้วพบกับสัตว์บางชนิดลำตัวใหญ่ยาวขนาด 3 เมตร มีเกร็ดสีทอง หางเท่าแขน ก็ตกใจและกลัวอย่างมากจึงรีบขึ้นจากน้ำแล้วกลับบ้านทันที ตนเองก็ได้ห้ามปรามแล้วว่าอย่ามาหาปลาที่นี่อีกเลย สามีตนได้บอกว่าไม่มาแล้วเพราะเป็นวันพระ แต่ไม่รู้ว่านึกอย่างไรถึงพากันออกมา จนกระทั่งมาทราบอีกทีว่า สามรจมหายไปในน้ำ

ด้าน น.ส.จิฎามาส วงษา อายุ 40 ปี เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตคือ นายประยูร ได้มาเล่าให้ตนฟังว่า รู้สึกใจคอไม่ค่อยดี เพราะมาหาปลาที่อ่างเก็บน้ำแห่งนี้แล้วดำน้ำลงไปเจอปลาเกร็ดสีทองขนาดใหญ่แล้วก็ว่ายหายไป เมื่อโผล่ขึ้นมาพ้นน้ำก็เจอสิ่งผิดปกติบางอย่างคล้ายดวงวิญญาณกำลังเดินอยู่บนผิวน้ำ และจ้องมองมาที่ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนายประยูรได้ประสบเหตุการณ์ประหลาดดังกล่าวมา 2 ครั้งแล้ว

น.ส.จิฎามาส เผยต่อว่า ตนจึงได้เตือนนายประยูรว่าอย่ามาที่อ่างเก็บน้ำแห่งนี้อีก นอกจากนี้นายประยูรยังเล่าให้ตนฟังเกี่ยวกับ ขันน้ำที่มีลักษณะคล้ายพานมีร่องรอยเหมือนถูกไฟเผาไหม้จนดำ ซึ่งนายประยูร ได้ไปเจออยู่ในอ่างเก็บน้ำและนำมาใส่ปลาที่หาได้และเก็บกลับมาที่บ้าน ทุกคนที่รู้เรื่องต่างพยายามเตือนให้นายประยูรนำมาคืนที่เดิม เนื่องจากเมื่อเอาขันใบนี้กลับบ้านแล้ว มักจะพบเห็นแต่สิ่งแปลกๆ

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้เปิดเผยถึงเรื่องประหลาดที่พบในการค้นหาผู้สูญหายว่า ในจุดแรกที่ทุกคนเห็นไฟฉายของผู้เสียชีวิตส่องสว่างมานั้น เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังลงไปตามจุดเป้าหมาย เมื่อลงไปในน้ำกลับไม่พบร่างผู้สูญหาย แต่ไปติดกับกอหญ้าขนาดใหญ่จนต้องขอกำลังเสริมให้ลงไปช่วย

โดยระหวา่างการค้นหานั้น เจ้าหน้าที่พบเพียงแค่ขันเก่าถูกไฟไหม้ ลักษณะคล้ายกับที่นายประยูรนำกลับไปบ้าน ตามที่เพื่อนนายประยูรเล่าให้ฟัง แต่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำยังไม่ลดละในการค้นหาร่างผู้สูญหาย เวลาผ่านไปกว่า 2-3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้ย้อนกลับมาค้นหายังจุดที่สูญหายไปอีกครั้ง ก็ต้องแปลกใจเมื่อเจอแสงไฟวิ่งในน้ำได้ลักษณะคล้ายปลาสีทองว่ายนำไปจนพบ คู่บัดดี้ในการลงค้นหาผู้สูญหายพร้อมกับพบร่างผู้เสียชีวิตอยู่ใต้น้ำ สร้างความแปลกใจให้กับทีมกู้ภัยและชาวบ้านที่เฝ้าดูเหตุการณ์เป็นอย่างมาก