หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

สาวถูกรถชนจนพิการ ก่อนเรียนจบพยาบาล ตัดสินใจเขียนฎีกาถึง “สมเด็จพระเทพฯ” จนในที่สุดความฝันของเธอก็เป็นจริง

โพสท์โดย NIXA

วันนี้เราขอนำเสนอ สาวถูกรถชนจนพิการ ก่อนเรียนจบพยาบาล ตัดสินใจเขียนฎีกาถึง “สมเด็จพระเทพฯ” จนในที่สุดความฝันของเธอก็เป็นจริง

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวที่น่ายินดีจริงๆ ค่ะสำหรับ กรรณิการ์ ศรีวิจา พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลสันทราย เขียนเล่าประสบการณ์เจ็บปวด จากคนธรรมดาถูกรถชนจนพิการเดินไม่ได้ ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่อายุ 23 ปี และกำลังจะเรียนจบเป็นพยาบาล จนในวันนี้เธอต่อสู้ไม่ย่อท้อจนสามารถทำตามความฝันได้เป็นพยาบาลวิชาชีพอีกครั้งสมกับที่ตั้งใจไว้

เธอได้เปิดเผยว่าว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่เกิดมาปกติครบ 32 ประการ ฉันใช้ชีวิตปกติแบบคนทั่วไป ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง หรือมีความลำบาก แต่เมื่อฉันอายุ 23 บริบูรณ์และฉันกำลังจะเรียนจบ! เหตุการณ์ที่ฉันไม่ได้คาดฝันมาก่อน เหตุการณ์ที่นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวฉันครั้งยิ่งใหญ่ ฉันประสบอุบัติเหตุ

ใช่วันนั้นรถชน และสิ่งที่ตามมาคือร่างกายของฉันตั้งแต่ใต้ราวนมลงมาไม่มีความรู้สึกการประมวลผลร่างกายของนักศึกษาพยาบาลปี 4 ที่อีก 1 เดือนจะเรียนจบและเป็นพยาบาลเต็มตัวในสมองคิดขึ้นมาได้ทันทีว่า

ฉันกำลังบาดเจ็บหนัก และกำลังคาบเกี่ยวกับคำว่าจะสามารถกลับมาเดินได้ตามปกติ หรืออาจจะเดินไม่ได้เลย สิ่งเดียวทีต้องการวันนั้น ฉันแค่รอเพื่อทำการผ่าตัดให้เร็วที่สุดเรื่องอื่นค่อยคุยกันที่หลัง……ฉันยิ้มให้ทุกคนและบอกว่า ฉันไม่เป็นไรและหลังจาก ออกมาจากห้องผ่าตัดทุกอย่างจะดีขึ้น

ฉันยิ้มให้กับทุกคนแล้วบอกทุกคนว่าอย่าร้องไห้ เพราะฉันเป็นคนป่วยฉันยังไม่ร้องไห้ ฉันยิ้มทุกครั้งที่มีคนอยู่ด้วย ทำตัวเองให้ปกติที่สุด เพราะถ้าฉันแสดงออกว่าฉันอ่อนแอเมื่อไหร่นั่นแปลว่า ครอบครัวของฉันจะเป็นกังวล ฉันประเมินตัวเองหลังผ่าตัด ฉันรู้ดีในใจว่าฉันต้องทำกายภาพอีกยาวนานและก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ร่างกายฉันถึงจะฟื้นขึ้นมาได้ฉันรู้ดีว่าฉันกำลังจะเป็นผู้ป่วยเรื้อรังและต้องมีคนค่อยดูแลฉันอย่างใกล้ชิด

ความกังวลที่ตามมากจากการที่คิดว่าอาจจะเดินไม่ได้ความกังวลใจที่มันมากกว่า คือ ฉันอาจไม่ได้เป็นพยาบาล สิ่งที่น่ากลัว สิ่งที่ฉันต้องเก็บไว้ และสิ่งที่ฉันต้องฝืนยิ้ม ฉันทำแบบนั้นซ้ำ ๆ ฝืนยิ้มทั้ง ๆ ที่ใจฉันมันกำลังเศร้า

รอยยิ้มของฉันตอนนั้นฉันยิ้มด้วยนัยตาที่ฉันเศร้าหมอง จนแฟนคนที่เสียไปพูดกับฉันว่า อยากร้อง ก็ร้องมันออกมา ตัวเองไม่ต้องทำตัวเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้ เค้ารู้ว่าตัวไม่อยากอ่อนแอให้ใครเห็น ฉันได้แค่ยิ้มกลับไปแล้วไม่พูดอะไรเลย

การรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์เป็นเวลา 2 เดือนครึ่งพี่นักกายภาพ นักกิจกรรมบำบัดทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อให้ร่างกายฉันพยายามฟื้นขึ้นมา แต่เวลา 2 เดือนครึ่งที่ฉันรักษาตัวที่นั่น ฉันแค่กระดิกนิ้วเท้าข้างขวาได้เท่านั้น ถึงเวลาต้องกลับมาพักฟื้นที่รักษาตัวอยู่ที่บ้านสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตก็เกิดขึ้น

ระบบทางบ้านรวนไปหมด ปัญหาหลาย ๆ อย่างเริ่มรุมเร้าเพราะฉันต้องมีคนค่อยดูแล 24 ชั่วโมงแต่ปัญหาคือพ่อแม่ฉันแยกทางกันและก็มีหน้าที่การงานต้องรับผิดชอบไม่สามารถอยู่ดูแลฉันได้ต้องพึ่งแฟนน้องชายที่มาคอยดูแลอยู่กับป้าที่บ้าน ฉันได้แค่นอนอยู่บนเตียง ที่นาน ๆ ครั้งฉันจะตะโกนขอคนอื่นมาพลิกตัวให้เพราะฉันทั้งเกรงใจ

และไม่อยากทำให้คนอื่นลำบาก ตอนนั้นฉันกำลังเริ่มเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า ฉันทำได้แค่อดทนรอ เพื่อพลิกตัวไปมาซ้ายขวา รอเวลาเพื่อให้คนอื่นมาพยุงลุกแล้วไปกินข้าวและดีที่สุดคือการนั่งวีลแชร์ไปนั่งสูดอากาศหน้าบ้าน

ความรักครั้งใหม่มันเหมือนจะสวยงาม แต่เมื่อฉันเป็นผู้ป่วยที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากเท่าไหร่และการกายภาพของฉันยังไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าไหร่สิ่งที่ฉันต้องกลับมาพบเจออีกครั้ง คือการนอกใจ

สุดท้ายคำพูดที่เค้าปฏิญาณไว้ทุกอย่าง เค้าทำไม่ได้สุดท้ายฉันก็แพ้ให้กับผู้หญิงคนอื่นเหมือนเดิม เพียงเพราะฉัน เดินไม่ได้

เป็นเวลา 1 ปี กับ 1 เดือนที่ฉันประสบอุบัติเหตุพอดีที่เค้าทิ้งฉันไป ปัจจุบัน ฉันไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้อยู่ที่ไหนของโลก และฉันก็ไม่รู้ว่าเค้ารู้สึกผิดบ้างมั้ย ที่ทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งจากที่เดินได้ปกติแต่กลับต้องมานั่งวีลแชร์

และฟันฝ่าอุปสรรคหลาย ๆ อย่างเพื่อให้เธอกลับมาใช้ชีวิตให้ปกติดังเดิมได้ แต่ฉันไม่ถือโทษโกธรเค้า เพราะฉันต้องขอบคุณเค้าที่เป็นตัวพลักดันให้ชีวิตฉันดีขึ้น

และฉันได้ปล่อยคนไม่ดีออกจากชีวิตของฉันไปได้อีกหนึ่งคน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ฉันเขียนเพจบันทึกจากวีลแชร์ เพียงเพราะตอนนั้นฉ้นต้องการระบายความเจ็บปวดที่ฉันมีให้คนอื่นได้รับฟังฉันบ้าง

ความเจ็บปวดครั้งนี้ สอนให้ฉันรู้ว่าฉันควรรักตัวเอง และทำเพื่อตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ฉันพาตัวเองอาสาช่วยทำงานในหอผู้ป่วยไปพูดคุยกับผู้ป่วยและให้กำลังใจฉันกายภาพอย่างหนักเพื่อฟื้นร่างกายให้ได้มากที่สุด

ฉันฝึกการใช้วีลแชร์ เพื่อให้วีลแชร์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน ฉันสร้างเพจบันทึกจากวีลแชร์เพื่อเขียนให้กำลังใจคนอื่นและตัวเอง ฉันถักตุ้กตาขายเพื่อหารายได้เสริมให้กับตัวเอง พาตัวเองออกไปทำกิจกรรมข้างนอก พาตัวเองออกไปวิ่ง วิ่งในแบบที่ฉันใช้แขนวิ่ง ฉันฟังคำสอนของพระ ว.วชิรเมธี ทุกคืน

ฉันอ่านหนังสือปรัชญาเป็นตั้ง ๆ เพื่อพัฒนาจิตใจและความคิดของตัวเอง ทุกกิจกรรมที่ฉันได้ทำ มันทำให้ฉันรู้ว่า ความสุขที่แท้จริงของฉันคือ การทำประโยชน์เพื่อคนอื่น ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ทั้งฉันและคนที่ได้รับก็มีความสุขเหมือนกัน คำสอนที่ฉันได้คือ การทำดี ทำไปเรื่อย ๆ สักวันเราก็จะได้รับสิ่งดี ๆ ตอบแทนเอง และฉันก็ทำมันเรื่อย ๆ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าฉันจะได้รับกลับคืนมาเมื่อไหร่ก็ตาม

และฉันก็พยายามพาตัวเองเพื่อให้กลับไปเรียนต่อให้จบได้ ฉันได้รับการช่วยเหลือจากโรงพยาบาลสันทราย คุณหมอ ชลาทิพย์ หมอเวชสาสตร์ฟื้นฟูที่รักษาฉัน พี่ ๆ และเพื่อนนักกายภาพ พี่นักกิจกรรมบำบัด โรงพยาบาลสันทราย และผู้ชายคนหนึ่งที่ติดตามเพจฉันตั้งแต่แรก จนวันหนึ่งมีผู้ชายคนนี้

ได้แนะนำให้ฉันเขียนฎีกาถึงสมเด็จพระเทพฯ เพื่อกราบทูลขอกลับไปเรียนต่อ และสุดท้ายฉันก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพ ฯให้ฉันได้กลับมาเรียนในวิชาชีพที่ฉันรักอีกครั้ง

วิชาชีพพยาบาล ทางวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่ ให้โอกาสฉันได้กลับมาฝึกงานที่เหลือให้จบและดูแลฉันเป็นอย่างดีระหว่างที่ฉันต้องสอบจบของสถาบันราชชนกสอบจบของมหาวิทยาลับเชียงใหม่ และสอบใบประกอบวิชาชีพ ให้ผ่านทั้ง 8 วิชา

จนปัจจุบันฉันสามารถจบและกลับมาทำงานในฐานะพยาบาลวิชาชีพ ที่โรงพยาบาลสันทราย และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอย่างเคย แค่เพียงฉันมีเก้าอี้ส่วนตัว ที่ไม่ต้องมีใครมาแย่งเก่าอี้ของฉัน

(ผู้ชายที่ติดตามเพจฉัน และแนะนำให้ฉันเขียนฎีกาคือแฟนคนปัจจุบันของฉัน ที่เค้าติดตามเพจของฉันตั้งแต่แรก และค่อยให้กำลังใจฉันตลอดมาจนวันหนึ่งมีเหตุการณ์ระเบิดที่สามชายแดนใต้ ฉันเลยทักไปถามไถ่ เพราะเห็นว่าเค้าอยู่แถวนั้น ด้วยความที่เค้าคอยเป็นห่วงเราเสมอมา เลยให้กำลังใจเค้าไป นั่นคือจุดเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ของฉันอีกครั้ง กับผู้ชายที่กรีดยางอยู่ที่สามจังหวัดชายแดนใต้)

เกือบจะ 3 ปี กับการเดินทางอันยาวนานของฉัน ฉันมีคุณย่าที่อยู่ข้างฉันมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่ฉันประสบอุบัติเหตุย่าจะพูดเสมอว่า ถ้ายิวยังสู้ ย่าก็จะสู้ไปกับยิว นี่คือกำลังใจที่สำคัญที่ทำให้ฉันลุกขึ้นมาสู้ถึงทุกวันนี้ ฉันต้องมาเรียนรู้กับร่างกายที่ต้องมีอุปกรณ์พิเศษ กว่ามันจะสวยงามแบบทุกวันนี้

ฉันได้ผ่านความเจ็บปวดมามากมายเพื่อแลกกับการประสบความสำเร็จของฉัน ฉันต้องใช้น้ำตา และความอดทนเพื่อแลกกับสิ่งที่มันคุ้มค่าที่สุดในชีวิตฉัน ฉันพุ่งชนหลายครั้ง เพราะฉันไม่มีทางเลือกอีกแล้ว ทุกการตัดสินใจกว่าที่ฉันจะประสบความสำเร็จ ฉันแลกมันมาด้วยคำว่า ไม่ท้อ ไม่ถอย ไม่ถอดใจ

โพสท์โดย: NIXA
แหล่งที่มา: http://rwm-mitr.com
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
NIXA's profile


โพสท์โดย: NIXA
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
20 VOTES (5/5 จาก 4 คน)
VOTED: นางเบิร์ด, แสร์, Hard man, อากาศธาตุและน้ำสะอาด
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ลูกค้าหนุ่มเศร้า หลังรีวิวชุดกีฬาที่ซื้อมา แต่ดันพลาดเห็นหนอนน้อย❤️หวยเด็ด 17 สำนัก❤️คัดมาให้แล้ว หวยซอง (( ชุดที่ 4 )) ประจำงวด 2 พ.ค. 2567เลขเด็ดลุงแป้น 2 พฤษภาคม 2567
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชาวลาวไม่ทน! หลังหนุ่มจีนโพสทิ้งเงินกีบลงในถังขยะ ทำคนลาวถึงกับไม่พอใจ?อิหร่านขู่ถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ ของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธชวนมารู้จักลาบูบู้ มาการอง เดี๋ยวจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
อิหร่านขู่ถล่มที่ตั้งนิวเคลียร์ ของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธคนไข้วัย 72 ติดเชื้อโควิดนาน 613 วัน ก่อนกลายพันธุ์ในร่างกายกว่า 50 ครั้งชาวเน็ตจีนวิจารณ์หลังสถานีรถไฟใหม่หน้าตาเหมือนโกเต็กลูกค้าหนุ่มเศร้า หลังรีวิวชุดกีฬาที่ซื้อมา แต่ดันพลาดเห็นหนอนน้อย
ตั้งกระทู้ใหม่