ตรุษจีนปีนี้อัตราขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ7ปี คาดเงินสะพัด 5.8 หมื่นล้าน ผบ.ตร.สั่งคุมเข้มความปลอดภัย
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดเทศกาลตรุษจีนปีนี้มีเงินสะพัดกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท ฟุ่งสูงสุดในรอบ 11 ปี แต่อัตราขยายตัวต่ำสุดในรอบ 7 ปี ฝุ่นจิ๋วทำตรุษจีนปีหมูไม่คึกอย่างที่คิด ประชาชนยังผวาเศรษฐกิจไม่ดีจริง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผย ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงตรุษจีน 2562 คาดว่าจะมีเงินสะพัดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในรอบ 11 ปี ที่ 58,398 ล้านบาท เติบโตขึ้น 2.7% จากปี 2560 ที่เงินสะพัด 56,860 ล้านบาท โดย เป็นผลจากสินค้ามีราคาแพงขึ้นและการจับจ่ายที่มากขึ้น
แต่อัตราการขยายตัวที่ 2.7% ถือเป็นการเติบโตต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี จากปี 2556 ที่ขยายตัวถึง 11.6% เนื่องจากผู้บริโภคยังกังวลผลจากสงครามการค้าสหรัฐอเมริกาและจีน การเจรจาเบร็กซิต และเศรษฐกิจไทยที่การส่งออกชะลอตัวลง รวมทั้งจากราคาพืชผลการเกษตรที่ยังอยู่ในระดับต่ำ
โดยการจับจ่ายซื้อของไหว้นั้นพบว่า ปริมาณการซื้อและมูลค่าการซื้อใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 พบว่าประชาชนมีการซื้อกระดาษน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ถึง 21.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ขณะที่พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยถึงมาตรการการดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน ในช่วงวันที่ 3-5 ก.พ.ที่มีการจัดงานในหลายพื้นที่ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด อาทิ ภูเก็ต, สุพรรณบุรี, นครสวรรค์ และอุดรธานี ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีความเป็นห่วงเป็นใยประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ได้สั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่มีความพร้อมปฏิบัติหน้าในเชิงรุกดูแลความปลอดภัย รักษาความสงบเรียบร้อยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว 100% โดยสั่งการให้ทุกกองบัญชาการบูรณาการร่วมกัน
“ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามหาข่าว กลุ่มผู้ที่ไม่หวังดีอาจอาศัยช่วงวันเวลาก่อเหตุความวุ่นวาย ออกตรวจตราการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด ในลักษณะสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น รวมทั้งการยิงปืนขึ้นฟ้า และได้สั่งการให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจเข้มการเดินทางเข้า-ออกประเทศของนักท่องเที่ยว และได้สั่งให้ตำรวจในท้องที่อำนวยความสะดวกจราจร โดยเฉพาะในพื้นที่จัดงานไม่ให้ติดขัด พร้อมประชาสัมพันธ์ประกาศให้ประชาชนระมัดระวังเรื่องเพลิงไหม้ โดยเฉพาะการจุดธูปเทียนไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ รวมทั้งการเผาสิ่งของเซ่นไหว้” พ.ต.อ.กฤษณะกล่าว