รัฐบาลตั้งงบขาดดุล 3.2ล้านๆ. ขาดดุลเพิ่มอีก4.5แสนล้านบ. วงในจับตาโมเดลรีดภาษีใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 8 ม.ค. 2562 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำนวน 2 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.7% โดยเป็นงบประมาณขาดดุลจำนวน 4.5 แสนล้านบาท
สำนักงบประมาณรายงานว่า สาระสำคัญของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 3,200,000 ล้านบาท ดังนี้ 1.โครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประกอบด้วยประมาณการรายจ่าย ดังต่อไปนี้ รายจ่ายประจำ จํานวน 2,358,410.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำนวน 85,754.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.8% และคิดเป็นสัดส่วน 73.7% ของวงเงินงบประมาณรวม ลดลงจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ซึ่งมีสัดส่วน 75.8%
รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง จำนวน 62,709.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ซึ่งไม่มีการเสนอตั้งงบประมาณ หรือเพิ่มขึ้น 100% และคิดเป็นสัดส่วน 20% ของวงเงินงบประมาณรวม
รายจ่ายลงทุน จำนวน 691,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 จำนวน 42,061.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.5% และคิดเป็นสัดส่วน 21.6% ของวงเงินงบประมาณรวม เท่ากับปีงบประมาณ พ.ศ. 2562
ด้านแหล่งข่าวนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ ระบุว่า จากการที่ภาครัฐมีการจัดทำงบขาดดุลอีก 4.4 แสนบาทในปี 2563 จึงเชื่อได้ว่าทางภาครัฐคงจะมีการสรรหาโมเดลใหม่ๆ เพื่อมาจัดเก็บภาษีเพิ่มเติม จากช่วงที่ผ่านมาได้ออกมาเก็บภาษีที่ดิน, ภาษีน้ำตาล ฯลฯ
ซึ่งยังเหลืออีก 1 โมเดล คือ ภาษีคนโสด ที่ยังไม่ได้มีออกหรืออาจจะมีโมเดลภาษีใหม่ๆ เพื่อรีดเงินเข้าคลังชดเชยส่วนดังกล่าวที่ขาดดุลในปี 2563