น้ำแข๊งเรื่องน่ารู้ที่หลายคนก็ยังไม่รู้อีกหลายเรื่อง

หากพูดถึง "น้ำแข็ง" เชื่อว่า ในปัจจุบันนี้ ทุกคนต้องรู้จักเป็นอย่างดี และ เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันเราเกือบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการนำน้ำแข็งมาใส่ในเครื่องดื่ม เพื่อดับกระหายคลายร้อนกับเครื่องดื่มที่เราชอบเพิ่มรสชาติให้สดชื่นแจ่มใส

ในช่วงอากาศร้อนๆ ถือว่าเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว หรือจะเป็นการรักษาสภาพอาหารสดโดยการแช่เย็น ที่ทางร้านค้า ร้านอาหารต้องมีนั่นเองค่ะ 

แต่การที่จะเราจำนำน้ำแข็งมาบริโภคนั้น ต้องมั่นใจว่า น้ำแข็ง มีความสะอาด เนื่องจากหากมีจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคปนเปื้อนอยู่อาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการป่วยจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้ เราจึงต้องมั่นใจว่า โรงงานทำน้ำแข็งได้ผ่านคุณภาพหรือมาตรฐาน กรรมวิธีการผลิต ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้กำหนดหรือไม่

"น้ำแข็ง" มาจากไหน และเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไรกันนะ?

สมัยโบราณเมื่อ 1000 กว่าปีก่อน มีการใช้ประโยชน์จากน้ำแข็งแล้ว โดยมนุษย์ตัดน้ำแข็งมาแช่อาหารเพื่อยืดอายุให้ได้นานกว่าเดิม เคยมีพ่อค้าชาวอเมริกันคนหนึ่งตัดน้ำแข็งบรรทุกลงเรือแล่นออกมาหวังจะขายแก่กลุ่มประเทศในเขตร้อน แต่น้ำแข็งเหล่านั้นได้ละลายระหว่างเดินทางจนหมด

น้ำแข็งเข้ามาในประเทศไทยราวๆ สมัยรัชกาลที่ 4 โดยนำมาจากประเทศสิงคโปร์โดยอาศัยเรือกลไฟที่มีชื่อว่า “เจ้าพระยา” ต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 วัน ต่อ 1 เที่ยว โดยที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บันทึกเรื่องน้ำแข็งไว้ในหนังสือความทรงจำ ซึ่งหากคำนาณแล้วพระองค์ประสูตเมื่อ พ.ศ. 2405 ส่วนรัชกาลที่ 4 เสด็จสวรรคตเมื่อ พ.ศ. 2411 น้ำแข็งก็น่าจะเข้ามาในไทยในช่วงระหว่างปีพ.ศ. 2405-2411