จากพี่ตูน บอดี้สแลม...สู่ปรากฏการณ์ลดการใช้ถุงพลาสติกของประเทศไทย
ไม่กี่วันที่ผ่านมาได้เห็นแคมเปญของ 7-11 ที่ได้ชวนพี่ตูน บอดี้แสลม มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับโครงการดีๆอย่างการลดการใช้ถุงพลาสติก นับเป็นการเรียกกระแสความตื่นตัวกับกลุ่มคนในสังคม ให้หันมาจับตากับสิ่งที่ 7-11 กำลังทำอยู่ตอนนี้ อันที่จริงแล้วเซเว่นเองได้มีการออกมาประกาศจุดยืนเกี่ยวกับนโยบาย 7 Go Green (เซเว่นโกกรีน) กับสังคมมาแล้วก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยรณรงค์ ลด และ เลิกใช้ถุงพลาสติกที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทั่วประเทศ ที่จะมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชนและสังคม ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
แต่มาฮือฮาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาที่เปิดตัวพรีเซนต์เตอร์เป็นพี่ตูน บอดี้แสลม โดยคราวนี้พี่ตูนบอกว่า "พลังเล็กๆ ถ้ารวมกันด้วยคนจำนวนเยอะๆมันมีความหมายจริงๆ" ทุกครั้งที่เราปฏิเสธการรับถุงพลาสติกทาง 7-11 จะเปลี่ยนเป็นเงิน 20 สต. เพื่อนำร่วมบริจาคเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่ อาคารนวมินทรบพิตร๘๔พรรษา ร.พ.ศิริราช เรียกได้ว่าเป็นแคมเปญที่ช่วยทั้งสิ่งแวดล้อม และได้ช่วยทำบุญต่อชีวิตคน
เราลองมาอ่านสาระสำคัญจากการประกาศ #ลดและเลิกถุงพลาสติก (อีกครั้ง) แบบจั๋งหนับแล้วทีนี้ ของ 7-Eleven Thailand ...
ในฐานะคนที่ไปยืนอยู่บนเวทีด้วยในวันนี้ วันที่ 7 ธันวาคม ผมเล่าได้ว่า....
ผมเห็นว่าน่าจะได้กลวิธีที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งแล้วล่ะสำหรับสังคมไทย โดยเฉพาะ “คนไทย” ที่เดิมไม่ค่อยคิดอะไร เพื่อให้มาร่วมรับผิดชอบต่อโลกนี้ได้ไวกว่าการที่ “กฎหมายจะถูกเขียนออกมาเพื่อปรับเงิน” ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้นได้ ลูกหลานผมคงโตแล้ว...
1. CP All เชิญ “ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย” มา “เขยื้อนภูเขา” ให้ทั้งลูกค้าและพนักงานของเขาเกิดความใส่ใจกับเรื่องนี้ด้วยกัน โดยจะมี Standee “พี่ตูน” ยืนกล่าว #ขอบคุณที่ไม่รับถุงพลาสติกครับ ด้วยลายมือเขาเอง อยู่ที่หน้าประตูร้านเซเว่นทุกสาขากว่าหมื่นแห่ง ป้ายนี้เห็นกันจะจะแน่นอน ... แล้วตัวคุณตูนเองก็เป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยได้ดีมากแบบที่ประจักษ์แก่ตาแล้ว ...การใช้ “เบอร์ใหญ่” ระดับนี้ก็น่าจะกระตุ้นได้แรงพอ
2. การ “ปฏิเสธการรับถุง” ทุกครั้งจากลูกค้าจะทำให้พนักงานกดปุ่มบนแป้นแคชเชียร์ ระบุคำ “ขอบคุณที่ไม่รับถุงพลาสติก” ลงไปบนใบเสร็จของลูกค้าผู้นั้น
***ตรงนี้ไฮไลต์ : ข้อมูลจะออนไลน์ทั่วถึงกัน (ปกติระบบก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพื่อใช้ตรวจสอบทุกเรื่อง)
สำนักงานใหญ่จะรู้รายงานยอดการปฏิเสธถุงพลาสติกในแต่ละวัน โดยจะสรุปตัวเลขทุก ๆ เช้า 7.00น. (ปิดยอดทุกเที่ยงคืน) เพื่อโอนเงินบริจาคที่ได้จากการประหยัดถุง “มูลค่าใบละ 20 สตางค์” (ซึ่ง 1 บิลน่าจะหมายถึง 1 ใบนี่แหละครับ) เข้าสู่โครงการ ก้าว คนละก้าว เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ติดตั้งไว้ใช้ในอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โรงพยาบาลศิริราช ไว้ใช้รักษาพวกเรานี่แหละตามสิทธิพลเมือง ซึ่งจะเปิดให้บริการรักษาในปีหน้านี้แล้ว
3. เงิน “20 สตางค์” คือมูลค่าถุงพลาสติกต่อใบที่เซเว่นฯ จะประหยัดไปได้จากการรณรงค์นี้นี่แหละครับ
น้ำใจครั้งนี้ถือว่าใจป้ำนะที่ให้ทั้งหมด และจะให้ทุกใบที่ประหยัดไปได้ ...
ลองคิดดูเล่น ๆ 5 คนที่ปฏิเสธจะเท่ากับ 1 บาท ... แล้ววัน ๆ นึงคนไทยเข้าเซเว่นฯ ไม่ต่ำกว่า 8 ล้านคน
โครงการก้าวฯ ของพี่ตูน (ซึ่งพี่ตูนย้ำทุกครั้งว่าไม่ใช่โครงการของแก แต่เป็นของทุกคน) ก็จะได้รับเงินบริจาค “ทุกวัน” อย่างมากมายมหาศาลอีกครั้ง และต่อเนื่องไปอีกเรื่อย ๆ เพราะ “การตัดเงินค่าถุงที่ถูกปฏิเสธไปบริจาค” ครั้งนี้ “ยังไม่มีการวางกรอบเวลาไว้” หรือเรียกง่าย ๆ “ยังไม่มีกำหนดเลิกทำ” คือจะทำไปเรื่อย ๆ
ฉะนั้นคุณผู้อ่านโพสต์ผมที่พิมพ์จากมือที่สั่นเทาเพราะตื่นเต้นในครั้งนี้ จึงไม่มีเหตุผลที่จะรับถุงพลาสติกมาเพื่อเพิ่มจำนวนขยะแก่ชุมชนและส่งลงทะเลอีกแล้ว
จำง่าย ๆ ด้วยความรู้ร่วมรับผิดชอบด้วยว่า “เราในฐานะมนุษย์ตัวเล็ก ๆ มีส่วนเกี่ยวข้องถึงกันหมด” เพราะไม่ใครอยู่อย่างโดดเดียว โลกของเรามีใบเดียว
พลาสติกที่มนุษย์นำมาบริโภคเพียง 5-9 วินาทีจากเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้าแล้วถูกดึงทิ้งแบบแทบจะในทันทีนี้ มีเพียง 9% เท่านั้นที่ถูกนำไปเข้ากระบวนการรีไซเคิล
อีก 91% ถูกจัดการด้วยกระบวนการ Land Fill คือฝังกลบ แต่มันเยอะจนฝั่งดินได้ไม่หมด มันก็กองเป็นภูเขาเลากา (อันนี้ผมเชื่อว่าทุกคนเห็นภาพนะ) พอลมพัด มันก็ตกลงสู่แหล่งน้ำ และทุกแหล่งน้ำมีทางออกสู่ทะเล
ขณะนี้ปริมาณ “แพขยะ” ในมหาสมุทรแปซิฟิค ใกล้ๆ ดินแดนเรานี้มี “ขนาดใหญ่กว่าประเทศไทย 2 เท่าแล้ว”
สิ่งเหล่านี้ถูกตากแดดกลางทะเลไปนานวันเข้าก็แตกออกเป็น “ไมโครพลาสติก” อาหารปลาชั้นเลวที่ปลามันไม่รู้อิโหน่อิเหน่เผลอทานเข้าไปแล้ววนเวียนอยู่ใน “ห่วงโซ่อาหาร”
ซึ่งความจริงที่เจ็บปวดคือ “มนุษย์หน้าโง่อย่างเราๆ มันอยู่บนชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหารนี้
ถ้าปลาใหญ่ตาย หรือเต่าทะเลถูกทำร้ายไม่ใช่ปัญหาของคุณ ... ผมก็มั่นใจได้ว่า “ไมโครพลาสติก” และสารปนเปื้อนในอาหารคือปัญหาของเราแล้ว เพราะจากรายงานล่าสุด อุจจาระมนุษย์มีพลาสติกเป็นส่วนประกอบแล้วล่ะนะ ฮ่า ฮ่า 55 ห้า ห้า แฮ่ แฮ่ ฮือ ฮือ 😭 (กูขำไม่ออกว่ะเพื่อน’โทษด้วย!)
ส่งต่อกันไปเพื่อ “ปฏิเสธถุงพลาสติก/หลอด/แก้วน้ำ” ไปด้วยกันครับเพื่อน ๆ ทุกคน
พกถุงผ้าลายที่ชอบออกจากบ้าน ใส่แก้วใบที่ใช่ไว้ในถุงผ้านั้นแล้วออกไปใช้บริการร้านรวงต่างๆ ...เท่ตายห่าครับ!!
ทำเถอะ ทำแล้วโคตรสบายใจครับ 🙏🏼🙏🏼🙏🏼🙏🏼❤️❤️❤️❤️
update ข้อมูลล่าสุด 11/12/2018
เพราะถ้าคนเราใช้ถุงผ้าสัปดาห์ละ 1 วัน
จะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกได้มากกว่า 100 ล้านถุงต่อปีเชียวนะ !!!
ขอบคุณบทความจาก Line