อยากรู้มั้ย...ผ่อนบ้าน 1 หลัง ต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าไหร่
ปกติเมื่อตัดสินใจซื้อบ้านไปแล้วเราก็จะก้มหน้าก้มตาผ่อนกันไปแบบยาวๆ ยิ่งโดยเฉพาะช่วง 1-3 ปีแรก เงินผ่อนชำระค่าบ้านในแต่ละเดือนส่วนใหญ่จะจ่ายเป็นดอกเบี้ยมากกว่าครึ่ง และกว่าจะหักเงินต้นมากกว่าดอกเบี้ยก็ต้องรอไปจนถึงครึ่งหลังของการผ่อนนั่นแหละ
แต่รู้หรือไม่ว่าการผ่อนบ้าน 1 หลังนั้นเราต้องจ่ายเป็นค่าดอกเบี้ยทั้งหมดไปเท่าไหร่
ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย มีโปรแกรมคำนวณเงินกู้ ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเป็นค่าดอกเบี้ยในแต่ละสเต็ปของวงเงินกู้ว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่ ถ้าอยากลองคำนวณเองก็สามารถเข้าไปที่นี่ได้เลย www.1213.or.th/th/tools/programs/pages/loans.aspx
ส่วนตารางนี้เป็นตัวเลขประมาณการภายใต้เงื่อนไขเป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 6% ต่อปี (ปกติช่วง 1-3 ปีแรกจะได้อัตราดอกเบี้ยโปรโมชั่นที่ต่ำกว่านี้) ระยะเวลาผ่อนชำระนาน 25 ปี โดยใช้หลักการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ผ่อนชำระเท่าๆ กันทุกเดือน อัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ตลอดการกู้ยืม และชำระหนี้เต็มจำนวนตามกำหนด ไม่มีการผิดนัดชำระ และไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าอากรแสตมป์ และค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขอสินเชื่อ
จะเห็นว่าเมื่อครบกำหนดผ่อนชำระแล้วเราต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยเกือบจะเท่ากับเงินต้นที่เรากู้กับแบงก์เลย ดังนั้นถ้าไม่อยากจ่ายมากขนาดนี้มี 3 วิธีที่จะประหยัดค่าดอกเบี้ยจ่ายได้ หากทำตามคำแนะนำดังนี้
1.ช่วง 1-3 ปีแรกของการผ่อนชำระ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้โปรโมชั่นดอกเบี้ยต่ำๆ หากมีเงินพอที่จะจ่ายเพิ่มจากเงินงวดที่ผ่อนชำระในแต่ละเดือนได้ยิ่งดี เพราะจำนวนเงินที่จ่ายเพิ่มนั้นจะไปตัดเงินต้นโดยตรง เมื่อคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกก็ทำให้เหลือเงินต้นที่จะนำมาคิดดอกเบี้ยลดลง ดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายก็น้อยลงตามไปด้วย
2.เมื่อครบกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำๆ ไปแล้วให้ใช้การ Retention คือการขอเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับแบงก์เดิม หรือการ Refinance จากแบงก์เดิมเพื่อไปหาแบงก์ใหม่ที่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า ซึ่งทั้งสองแบบนี้อาจจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นบ้าง ก็ต้องนำมาเปรียบเทียบกับประโยชน์ที่จะได้รับว่าคุ้มกันหรือไม่
3.หากมีเงินก้อน ให้นำไปโปะเพื่อตัดยอดเงินกู้โดยตรง วิธีนี้จะเหมือนกับข้อ 1 เมื่อเงินต้นลด ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะลดลง ระยะเวลาการผ่อนชำระก็จะสั้นลงอย่างเห็นได้ชัดเจนและเห็นผลเร็วกว่า
อยางไรก็ตามสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยนั้น นับเป็นสินเชื่อที่ค่อนข้างจะมีอัตราดอกเบี้ยต่ำอยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยบัตรเครดิต ดังนั้นหากมีความจำเป็นต้องใช้เงินเพื่อการอื่นก็อย่าเร่งผ่อนจนเกินไป ลองปรับใช้ให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์จะดีกว่า
คำแนะนำ,ซื้อบ้าน,ซื้อคอนโด,ข่าวบริษัทอสังหาฯ,ข่าวอสังหาฯทั่วไป,ข่าวดังในกระแส